"ชิเงรุ มิยาโมโตะ" ดีไซเนอร์ออกแบบเกมชื่อดังของนินเทนโด ผู้สร้างซีรีส์ มาริโอ , เซลด้า และดองกี้คอง ให้สัมภาษณ์ผ่าน The Economist เกี่ยวกับมุมมองความคิดเห็นของเขาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกม ซึ่งเขามองว่ายอดขายอุตสาหกรรมเกมในปี 2009 แย่ลงกว่าปี 2008 เนื่องจากคุณภาพของเกมที่ยังไม่ถึงระดับที่ผู้บริโภคต้องการ
ถาม:คุณตีความหมายของยอดขายเกมที่ลดลงในปี 2009 เป็นอย่างไร? มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมเกมได้ถดถอยลงไปใช่ไหม?
ตอบ:ผมคิดว่าผลิตภัณฑ์ด้านความบันเทิงมีผลกระทบเพียงน้อยนิดจากภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามเป็นความจริงที่ยอดขายในปี 2009 ไม่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2008 นั่นเพราะปี 2009 เราไม่สามารถสร้างเกมดีมีคุณภาพที่สามารถสร้างความสนุกได้พอในระดับที่ผู้เล่นต้องการ อุตสาหกรรมเกมมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับกับเกมนั้นๆว่าจะสามารถสร้างปรากฏการณ์ได้มากน้อยเพียงใด มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวลอะไร
ถาม: คุณกังวลเกี่ยวกับการที่ตลาดเกมจะถึงจุดอิ่มตัวหรือไม่?
ตอบ:บางคนอาจจะบอกว่าปี 2008 เป็นปีที่ดีที่สุดของเครื่องเกมยุคปัจจุบัน แต่ผมคิดว่าวงการเกมมีโอกาสอยู่ตลอดเวลาที่จะต่อยอดขยายออกไปได้ รวมถึงสามารถดึงดูดผู้คนมากขึ้นให้มาสนุกกับการเล่นเกม ผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องเข้าใจธุรกิจความบันเทิงทั้งหมดเสียก่อน ธุรกิจความบันเทิงไม่มีความต้องการจากผู้บริโภคที่ตายตัว ซึ่งเกมก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน ตราบเท่าที่เราสามารถสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา และสามารถนำเสนอประสบการณ์อันน่าประทับใจได้ ความต้องการจากผู้บริโภคก็จะถูกสร้างขึ้น ดังนั้นความรับผิดชอบต่างๆจึงตกอยู่กับผู้สร้างเกม เราจะต้องสร้างเกมโดยไม่ให้มีข้อจำกัด และสามารถสร้างโอกาสได้อีกมากมาย ผมอยากให้คุณลองมองย้อนกลับไป ในอดีตวิดีโอเกมเป็นความบันเทิงที่สดใหม่สำหรับคนทุกคน มันสามารถทำให้ทุกคนสนใจได้ แต่ความบันเทิงจากเกมก็เริ่มถูกแบ่งแยกออกไปเรื่อยๆ แบ่งแยกไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ที่แบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่เล่นเกม กับกลุ่มผู้ที่ไม่ได้เล่นเกม จากสองกลุ่มที่ว่านี้ ผมต้องการที่จะทำลายกำแพงระหว่างสองกลุ่มผู้เล่นนี้ และให้ทุกคนสามารถสนุกสนานกับการเล่นเกมได้
ถาม:เมื่อไรที่นวัตกรรมเทคโนโลยีเกมใหม่ๆจะมา?
ตอบ:แม้ผมจะคิดอะไรในใจไว้แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้อยู่ฐานะที่สามารถพูดอะไรได้มาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมสามารถพูดได้ก็คือ ผมเข้าใจว่าความสามารถของเกมได้ถูกเพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่นานบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์มักจะแข่งกันว่าบริษัทไหนจะมาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีกราฟิกเรนเดอร์ต่างๆ แต่ในยุคปัจจุบันมุมมองการแข่งขันได้เปลี่ยนไป ผู้คนมักถามว่าระบบการเล่นจะออกมาเป็นอย่างไรจากการใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่ๆที่สร้างขึ้นมา สำหรับนินเทนโดแล้ว เราพยายามมองเทคโนโลยีเกมในมุมมองว่าจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร ซึ่งเราได้ทำออกมาแล้วในเกม วี ฟิต
ถาม:เรื่องเกมออนไลน์เป็นยังไงบ้าง?
ตอบ:นินเทนโดถูกพูดถึงบ่อยว่ามีความก้าวหน้าในโลกเน็ตเวิร์คค่อนข้างล่าช้า เป็นความจริงที่เราต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อที่จะก้าวไปในธุรกิจออนไลน์อย่างเต็มตัว พร้อมกับสร้างบรรยากาศเกมออนไลน์ที่เหมาะสมสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค ผมคิดว่าหากทุกคนเล่นเกมโดยเชื่อมต่ออินเทอร์เนต จะเป็นโอกาสที่ดีของเราในการสร้างสิ่งใหม่ที่พิเศษขึ้น แต่หน้าที่ของผมคือสร้างความบันเทิงให้เข้าถึงผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แน่นอนตอนนี้เรามีเกม มาริโอ คาร์ท ที่สามารถเล่นออนไลน์ได้หลายคน เราจะค่อยๆขยายประสบการณ์การเล่นเกมผ่านระบบอินเทอร์เนต แต่โดยส่วนตัวของผมแล้วสิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรกคือการให้ความบันเทิงกับทุกคนแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เนต
ถาม:เหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเครื่องวีจะประสบความสำเร็จเกิดขึ้นเมื่อไร?
ตอบ:ความรู้สึกมั่นใจว่าเครื่องวีจะประสบความสำเร็จเกิดขึ้นในครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้เล่นเกม วี สปอร์ต โดยเฉพาะเกม วี เทนนิส ผมใช้เวลาหลายปีในการออกแบบอินเตอร์เฟซเครื่องวี และผมก็มั่นใจว่าเครื่องเกมตัวนี้ไม่ธรรมดาเอามากๆ นอกจากนั้นมันจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่สามารถดึงดูดคนมาเล่นเกมได้เป็นจำนวนมาก ในส่วนภายในของนินเทนโดนั้น เราได้นำจอทีวีขนาดยักษ์ต่อกับเครื่องวี แล้วเรียกให้บอร์ดบริหารของนินเทนโดที่ไม่ค่อยเล่นเกมได้ลองมาเล่นดู ซึ่งผมก็ได้เห็นพวกเขาเล่นเกมกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งมันเหมือนกับสัญญาณที่บ่งบอกว่าสิ่งที่เราสร้างออกมาจะเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่
ถาม:คุณจะพูดอะไรกับคนที่กล่าวหาว่าเกมนำเสนอความรุนแรง?
ตอบ:ผมจะบอกว่าสื่อทุกชนิดมีทั้งแง่ดี และแง่ไม่ดี เป็นความจริงที่ในญี่ปุ่นมองว่าหนังสือการ์ตูนเป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับเด็ก แต่ตัวผมเองก็เติบโตขึ้นมาโดยอ่านหนังสือการ์ตูนจำนวนมาก และผมก็ต้องขอบคุณประสบการณ์เหล่านั้นที่ทำให้ผมมีงานทำ มีอาชีพเป็นของตัวเอง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com