“แอมมี เฮนนิง” นักออกแบบเกมหญิงวัย 45 ปี ผู้อยู่ทำงานอยู่เบื้องหลังวิดีโอเกมดังตระกูล “อันชาร์ตเต็ด”ในสังกัดทีม “นอตี้ ด็อก” กว่าเธอจะก้าวมาอยู่อยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมเกมโลก ย่อมเป็นเรื่องไม่ธรรมดา ท่ามกลางความกดดันจากทีมงานเพศชาย
ก่อนหน้านี้เราอาจจะรู้จัก “เจด เรย์มอนด์” โปรดิวเซอร์เกมสาวพราวเสน่ห์จากยูบิซอฟต์ที่ทำให้เกมเมอร์หลายคนถึงกับเพ้อ แต่หญิงเก่งในวงการเกมไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว “แอมมี เฮนนิง” ก็เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเกมที่สั่งสมประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมมานาน เพียงแค่เธออาจมีรูปลักษณ์ที่ขายยากไม่ติดตลาดไปสักหน่อย
เฮนนิงเคยร่วมงานกับบริษัทอิเล็กทรอนิก อาร์ตส์ หรือ EA ปี 1993ในตำแหน่งฝ่ายศิลป์,นักแอนิเมเตอร์ และนักออกแบบเกม เฮนนิงถูกมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมออกแบบเกมบนเครื่อง SNESของนักบาสเก็ตบอลชื่อดัง “ไมเคิล จอร์แดน:เคออส อิน เดอะ วินดี้ ซิตี้”(Michael Jordan: Chaos in the Windy City )ในสังกัด EA
ไม่เพียงเท่านั้น.. เธอยังเคยอยู่ในทีมคริสตัล ไดนามิกส์ กำกับดูแลเกมอย่าง Legacy of Kain: Soul Reaver, Legacy of Kain: Soul Reaver 2, Legacy of Kain: Defiance ก่อนจะมาอยู่กับนอตี้ ด็อก(Naughty Dog) ในปี 2003 โดยเธอเข้าร่วมก๊วนพัฒนาเกม “Jak 3”
สำหรับผลงานที่สร้างความปลาบปลื้มของ“เฮนนิง” มาจากการได้กำกับเกมทั้ง 2 ภาคของซีรีส์ “อันชาร์ตเต็ด”( Uncharted) เกมเอ็กซ์คลูซีฟฟอร์มยักษ์บนเครื่องเพลย์สเตชัน3 (PS3) อันได้แก่ อันชาร์ตเต็ด:เดรก ฟอร์จูน(Uncharted: Drake's Fortune) และ “อันชาร์ตเต็ด2:อะมัง ตีฟส์”(Uncharted 2: Among Thieves) โดยเกมภาคล่าสุดนั้น ได้รับรางวัลมากมายจากหลายสำนักข่าวเกม
เฮนนิงเล่าประวัติย้อนอดีตให้ฟังว่า หลังจากจบปริญญาตรีสาขาวรรณคดี อังกฤษที่ยูซี เบิร์กเลย์แล้ว เธอหันไปศึกษาต่อในสาขาภาพยนตร์ที่ซานฟรานซิสโก สเตตในปี 1989 ระหว่างนั้นเอง เธอก็ได้รับจ็อบพิเศษในด้านฝ่ายศิลป์ให้กับเกม “อิเล็กทรอคอป”(Electrocop)ของ “อาตาริ”(Atari)บริษัทผลิตวิดีโอเกมรายใหญ่ของอเมริกา ที่ทำให้เธอรู้สึกสนอกสนใจมากกว่าภาพยนตร์เสียด้วยซ้ำ หลังจากนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินออกจากการเรียนทำหนังเพื่อมุ่งไปสู่การสร้างเกม และค่อยๆไต่เต้าและคว้าโอกาสนั้นไว้ เมื่อมีคนเปิดทางให้ อย่างไรก็ตาม ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการทำหนัง และวิชาวรรณคดีอังกฤษก็ช่วยเพิ่มพูนทักษะในการสร้างเกมในภายหลังได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ในปี 1977 ชีวิตของเฮนนิงก็พบกับความเปลี่ยนแปลง เชื่อมโยง 3 เหตุการณ์สำคัญที่ไม่มีวันลืม ประกอบด้วย การวางขายเครื่อง “อาตาริ 2600”เกมคอนโซลแรกของอาตาริ,การมาของหนังสตาร์ วอร์ส และระบบเกม RPG กับ Advanced Dungeons & Dragons ทั้งหมดส่งผลต่อการก้าวเท้าสู่วงการเกม
ภาระหน้าที่ของเฮนนิงในการทำงานกับนอตี้ ด็อกที่ซานต้า โมนิก้านั้นก็มีอย่างเขียนบท,คัดเลือกตัวละคร และออกแบบเกม ปัจจุบันเจ้าของสตูดิโอแห่งนี้ก็คือบริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ อเมริกา โดยมีอันชาร์ตเต็ด2 เป็นเกมตัวเก่งที่ถูกยอมรับจากเกจิและผู้เล่น เกมนี้วางตลาดเมื่อเดือน ต.ค.ปีก่อน มันสามารถขายได้ทั่วโลกกว่า 2.5 ล้านชุด และถูกเสนอชื่อมากที่สุดให้เข้าชิงรางวัลอินเตอร์แอ็กทีฟ แอ็กชีฟเมนต์ อวอร์ดส์ (IAA)ถึง 15 สาขาในปีนี้ (ศักดิ์สิทธิ์เทียบเคียงได้กับรางวัลออสก้าของวงการภาพยนตร์) ประกาศผลวันที่ 18 ก.พ.นี้
สาวใหญ่นักพัฒนาเกมเล่าถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปว่า อย่างเกมแรก Electrocop นั้น มีสีให้ใช้เพียง 4 สี และทำโดยคนเพียง 2 คน แต่ปัจจุบันสมาชิกในทีมสร้างเกมอันชาร์ตเต็ด2 เพิ่มจำนวนมาถึง 150 ชีวิต ทั้งฝ่ายศิลป์,โปรแกรมเมอร์,นักออกแบบเกม และนักแสดง วิทยาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็เปลี่ยนจาการใช้โค้ดง่ายๆมาเป็นเครื่องมือเครื่องไม้ที่ล้ำสมัยเพื่อสร้างฉากหลังที่ความละเอียดสูง ตัวละครในเกมขยับได้เหมือนคนจริงๆ แถมยังมีโหมดออนไลน์ที่หลากหลาย ซึ่งผู้เล่นสามารถร่วมมือเล่นกันได้
หญิงนักสร้างเกมคนนี้จึงมุ่งมั่นเบนเข็มชีวิตไปสู่แวดวงเกมอย่างเต็มตัว ตลอดเวลาเธอมักถูกกีดกันทางด้านเพศและสบประมาทในความสามารถอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงที่อยู่ในโลกความบันเทิงที่เต็มไปด้วยผู้ชาย เรียกว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ เธอยกตัวอย่างว่า ในเกมอันชาร์ตเต็ด2มีละครสาวสองตัว ทั้งคู่มีปัญหาในเรื่องของขนาดหน้าอกหน้าใจที่ดูอวบอึ๋มเกินไป เธอจึงบอกให้ทีมโมเดลเลอร์ลดขนาดไฟคู่หน้าลงหน่อย เอาให้เหลือคัปซีก็พอ
ข้อมูลจาก...
www.latimes.com