xs
xsm
sm
md
lg

Review: Dragon Quest 6 ตำนานผู้กล้า 2 โลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เครื่อง DS
CERO : A สำหรับทุกเพศทุกวัย

หลังจากรอคอยกันมานาน ในที่สุด Dragon Quest VI ฉบับรีเมกบนเครื่องDS ก็ได้ออกมาให้แฟนๆเชยชมเสียที และนับเป็นภาคสุดท้ายของการรีเมกซีรีส์เกม RPG ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในญี่ปุ่น แม้ตัวเกมจะยังคงรูปแบบเดิมๆ แต่สำหรับภาค 6 นี้ ถือเป็นครั้งแรกของการนำมาสร้างใหม่ ทำให้มันพอจะมีความสดใหม่ให้แฟนๆหยิบมาลองมากกว่าภาคก่อนหน้านี้

แรกเริ่มสัมผัส คุณจะพบว่า กราฟิกมันแทบไม่แตกต่างจากการรีเมกภาค 4 และ 5 ที่การสร้างฉากเป็นแบบโพลีกอน 3 มิติมุมมองด้านบน บางจุดสามารถปรับเปลี่ยนมุมกล้องได้ แต่ตัวละครและมอนสเตอร์ในเป็นแบบ ด็อตพิกเซล แม้จะไม่ได้พัฒนาขึ้นจากการรีเมกครั้งก่อน แต่มันก็ยังคงดูดีในแบบของ Dragon Quest ฉบับดั้งเดิม และเมื่อมันมาอยู่บนเครื่อง 2 หน้าจอ มันทำให้มุมมองในการมองฉากในดันเจี้ยนกว้างขึ้น และในฉากต่อสู้ก็มีการแบ่งจอกัน โดยไม่มีเบียดเนื้อที่หน้าจอ การออกแบบตัวละครก็ยังคงใช้บริการ“อ.โทริยามา อากิร่า” เช่นเดิม และในภาครีเมกทุกภาคจะได้เห็นหน้าของตัวละครในเมนูด้วย ส่วนดนตรีที่ประพันธ์โดย“โคอิจิ ซุงิยามา” ก็ยังทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเฉกเช่นเดียวกับภาคก่อนๆ

เนื้อเรื่องภาคนี้ ว่าด้วยการตะลุยไปทั้ง 2 โลกของกลุ่มผู้กล้า ที่มีการเดินเรื่องที่ซับซ้อน และในส่วนที่ว่าด้วยโลกแห่งความฝันและโลกแห่งความจริง มีการแฝงแง่คิดดีๆในการใช้ชีวิต ส่วนรูปแบบยังคงเป็นเทิร์นเบส RPG แบบพลัดกันโจมตีแบบดั้งเดิม ที่ยังคงความคลาสสิกของเกม RPG แบบเดิมๆที่มีทั้งหมู่บ้าน ,ฉากเดินบนแผนที่ ,ปราสาท ,พระราชา และมีดันเจี้ยนให้สำรวจกัน ถ้าใครคิดถึงรูปแบบเก่าๆของเกม RPG รับรองไม่ผิดหวัง และภาคนี้นับเป็นครั้งแรกของซีรีส์ที่ไม่มีระบบเวลากลางวัน-กลางคืนในระหว่างเดินทาง ส่วนระบบการเล่นที่โดดเด่นคือการนำ “ระบบอาชีพ” กลับมาอีกครั้ง โดยมีให้เลือกมากถึง 18 อาชีพ ที่มีเริ่มต้น 9 อาชีพ ที่เหลือจะได้จากปั๊มเลเวลให้มาสเตอร์ตามจำนวนอาชีพที่กำหนด และอาชีพลับที่ต้องทำตามเงื่อนไข

ส่วนการนับเลเวลอาชีพจะนับเป็นดาว(มีทั้งหมด 8 ดวง) และเมื่อปั๊มเลเวลอาชีพเสร็จแล้ว คาถาหรือสกิลล์ท่าไม้ตายประจำอาชีพนั้นๆก็ยังอยู่ เมื่อเราเปลี่ยนเป็นอาชีพอื่น ทำให้เกิดการยืดหยุ่นและผสมผสานได้หลากหลาย การรีเมกครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนความสมดุลในเกมพอสมควร เช่น การที่อาชีพผู้ควบคุมมอนสเตอร์ถูกเปลี่ยนชื่อและความสามารถไป ทำให้เราไม่สามารถจับมอนสเตอร์มาใช้ได้ แต่เอาสไลม์ทั้ง 8 มาเป็นพวกได้ และเพิ่มมินิเกมสไลม์ให้เราได้เล่นแทน

ตัวเกมถูกปรับสมดุลให้เหมาะกับเครื่องเกมมือถือและเด็กรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะภาครีเมกทุกภาคมีการแสดงรูปลักษณ์ของอาวุธ ,เครื่องป้องกัน และยา ทำให้เข้าใจง่าย ส่วนความยากของเกมก็ถูกลดระดับลง แต่ถ้ามือใหม่ที่ไม่รู้จักระบบ ก็อาจจะบ่นว่าเกมยาก เพราะเสน่ห์ของ Dragon Quest คือการเข้าใจความสามารถของตัวละคร แล้วเลือกใช้ท่าหรือคาถาให้ถูกจังหวะ การวางแผนการต่อสู้ต้องรอบคอบ เพราะถ้าพลาดก็อาจตายได้ง่ายๆ นี่แหละทำให้เกมรูปแบบเดิมๆ คงความสนุกผ่านกาลเวลามาได้ และที่ยอดคือความลื่นไหลของเกมที่ไม่มีสะดุด ส่งผลให้แม้รูปแบบจะเป็นเทิร์นเบส RPG แบบเดิมๆเกมก็ไม่น่าเบื่อ แถมตัวเกมยังคงความยาวอยู่ในระดับมาตรฐาน รับรองเล่นได้นานคุ้มค่า

สรุปแล้วแม้เวลาจะเปลี่ยนผันแปรแต่ซีรีส์ Dragon Quest ก็แทบไม่เคยเปลี่ยนไป เพราะมันคือเกม RPG ที่สมบูรณ์แบบและเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ดนตรีที่ไพเราะ การออกแบบตัวละครที่ลงตัว สำหรับแฟนเก่าของซีรีส์การได้เล่นก็เหมือนได้ย้อนไปรำลึกถึงเพื่อนเก่าในอดีตอีกครั้ง ส่วนเด็กรุ่นใหม่ก็เล่นได้เพราะเกมถูกปรับให้เข้าใจง่ายขึ้น และภาค 6 ถือเป็นการปิดฉากการรีเมก รอบนี้อย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะดูจากยอดขายภาครีเมกทั้ง 3 ภาคที่ยังคงขายได้ถล่มทลาย ในอนาคตต้องมีการรีเมก Dragon Quest อีกหลายรอบอย่างแน่นอน

ข้อดี : รูปแบบการเล่นที่ยังคงสนุกคลาสสิก
ข้อเสีย : มีอะไรเพิ่มมาน้อยไปหน่อย
ข้อแนะนำ : ถ้าคุณเล่น 4 กับ 5 มาแล้วต้องสานต่อให้จบด้วยภาคนี้

เกมการเล่น9
กราฟิก8
เสียง8
ความคิดสร้างสรรค์8
ความคุ้มค่าสนุกเท่าการรีเมคครั้งก่อน
ภาพรวม8.5


Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)

ติดตาม twitter ผู้เขียนได้ที่ http://twitter.com/darthdome

-รีวิว Dragon Quest 4
-รีวิว Dragon Quest 5
-รีวิว Dragon Quest 9







กำลังโหลดความคิดเห็น