"Reggie Fils-Aime" ประธานนินเทนโดอเมริกา ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากประกาศลดราคาเครื่องวี เหลือ 200 เหรียญสหรัฐ ก็ได้ผลตอบรับกลับมาอย่างดี ยอดขายเครื่องวีเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขจำนวนยอดขายเครื่องที่ทำได้
หลังจากที่นินเทนโดเปิดวางจำหน่ายเครื่องวีอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน ปี 2006 เครื่องเกมตัวนี้ก็เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจนกลายเป็นเครื่องคอนโซลที่ขายดีที่สุด การสรุปตัวเลขยอดขายเครื่องครั้งสุดท้ายของนินเทนโด ระบุว่าเครื่องวี สามารถทำยอดขายทั่วโลกได้ถึง 52 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในปัจจุบันที่กระทบกระเทือนไปถึงอุตสาหกรรมเกม ไม่นับรวมกับการลดราคาเครื่องเกมลงมาสู้ของโซนี่ และไมโครซอฟท์ ส่งผลให้ในช่วงหลังยอดขายเครื่องเกมวี ก็มีตกลงไปบ้าง ยกตัวอย่างในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดขายวีตกลงไปอยู่ที่ 277,000 เครื่องในอเมริกา
เพื่อเป็นการดึงยอดขายเครื่องวีให้กลับมาในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปลายปี นินเทนโดได้ประกาศลดราคาเครื่องวี ลง 50 เหรียญสหรัฐในงานโตเกียวเกมโชว์ครั้งที่เพิ่งผ่านไป ตั้งแต่เปิดวางจำหน่ายมาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี นินเทนโดไม่เคยลดราคาเครื่องวีเลย คงราคาเดิมอยู่ที่ 249 เหรียญสหรัฐมาตลอด ซึ่งการลดราคาจะทำให้เครื่องเกมวีมีราคาอยู่ที่ 200 เหรียญสหรัฐ
การลดราคาเครื่องวีเหลือ 200 เหรียญสหรัฐ เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกันยายน ซึ่ง "Reggie Fils-Aime" ประธานนินเทนโดอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากที่ลดราคาเครื่องวีแล้ว ยอดขายเครื่องวีก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"Reggie Fils-Aime" ให้สัมภาษณ์ผ่าน ไฟแนนเชียลไทม์ โดยกล่าวว่า "ผู้บริโภคให้การตอบรับในระดับที่ดีมากหลังจากการประกาศลดราคาเครื่องวี" อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายเครื่องวีที่ทำได้หลังจากการประกาศลดราคา โดยเรจจี้ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะเปิดเผยตัวเลขออกมาในตอนนี้ โดยจะไปเปิดเผยข้อมูลอีกทีในงานแถลงผลประกอบการไตรมาสสองระหว่างเดือนกรกฏาคมถึงกันยายน ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
อีกหนึ่งสิ่งที่ "Reggie Fils-Aime" ออกมาย้ำคือซอฟต์แวร์เกมจำนวนมากที่เตรียมจะออกวางจำหน่าย อย่าง Wii Fit Plus, New Super Mario Bros. Wii และ Wii Sports Resort ซึ่งจะสามารถกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีได้ "มีผู้บริโภคหลายล้านคนที่ต้องการเป็นเจ้าของเครื่องวีและวางแผนที่จะไปซื้อ พวกเขารอคอยให้มีการกระตุ้นบางอย่างเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อให้ตัดสินใจออกไปซื้อ จากการลดราคา , การให้ได้ทดลองเล่นเกม และการออกซอฟต์แวร์เกมสำคัญอย่าง วีฟิต พลัส เราเชื่อมั่นว่ามันจะสามารถเป็นแรงกระตุ้นให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้าได้"
สุดท้ายเรจจี้ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ขณะนี้มีผู้บริโภคในอเมริกาประมาณ 50 ล้านคนที่สนใจจะซื้อเครื่องวี แต่ยังไม่ตัดสินใจควักเงินออกมาจ่าย ซึ่งถ้าหากคิดระดับทั่วโลกแล้วมีคนสนใจที่จะซื้อเครื่องวี ประมาณ 150 ล้านคน
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com