นินเทนโดไตรมาสแรกไม่ขาดทุน แค่กำไรหด 60 %

ไตรมาสแรกปี 2009 ผลประกอบการนินเทนโดร่วง แต่ยังไม่ขาดทุน รายรับลด 40% ส่งผลให้กำไรหดถึง 60 % เหลือเพียง 14,000 ล้านบาท ชี้เป็นเพราะไม่มีเกมแม่เหล็กออกมาและค่าเงินผันผวน แม้ DSi ขายดี 5.97ล้านเครื่อง แต่ก็สู้ปีก่อนไม่ได้

บริษัทนินเทนโด ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเกมญี่ปุ่นและโลกออกมาโชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2009 (1เม.ย.ถึง 30 มิ.ย.) ดูจะไม่เคยสู้ดีนัก หลังจากที่ผ่านมาโกยเงินฟันกำไรไปกับ 2 เครื่องเล่นเกม "นินเทนโด วี"(Wii)และ"นินเทนโด ดีเอส"(DS)จนกลายเป็นเจ้าตลาดเกมโลก

นินเทนโดเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเกมในช่วงดังกล่าวทั้งหมดได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าในช่วงพิษเศรษฐกิจโลกลุกลาม จึงส่งผลกระทบต่อยอดขายเกมตามมา ในช่วงสามเดือนดังกล่าวตัวเลขรายได้ของบริษัทลดลงมา 40 % จาก 423,000 ล้านเยน (150,000 ล้านบาท)มาอยู่ที่ 253 ล้านเยน (ประมาณ 90,000ล้านบาท) ขณะที่ผลกำไรสุทธิหล่นลงมา 60 % จาก 107,000 ล้านเยน (ประมาณ 38,000ล้านบาท)มาอยู่ที่ 42,000 ล้านเยน (ประมาณ 14,000ล้านบาท)

ปู่นิน ชี้สาเหตุที่ทำให้ยอดขายไม่เข้าเป้านั้นมีหลายเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การไม่มีเกมทีเด็ดออกมากระตุ้น หรือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยช่วงเดียวกันของปีก่อน นินเทนโดส่งทั้งเกม Wii Fit และ Mario Kart Wii มาวางจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งปีนี้นินเทนโดมีเพียง Wii Sports Resort ออกมาที่ญี่ปุ่น ขณะที่ DS ก็ดูจะเงียบเหงา เพราะมีเกม Pokemon Platinum เกมเดียวที่ขายดีในช่วงนั้น

เจ้าของแบรนด์มาริโอ เปิดเผยอีกว่า สำหรับช่วงไตรมาสที่ผ่านมาเครื่อง Wii ขายไปได้ทั่วโลก 2.23 ล้านเครื่อง คิดเป็น 43 % จากยอดขายที่เคยทำไว้ 5.17 ล้านเครื่องในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน DSi เจ้าเครื่องเกมพกพาโมเดลใหม่ที่มีกล้อง แม้จะทำได้ดีถึง 5.97ล้านเครื่อง แต่ก็ถือว่ายอดตกไปเกือบ 14 % จาก 6.94 ล้านเครื่อง ปัจจุบันนินเทนโดขายเครื่อง DS ทุกโมเดลไปทั้งสิ้น 107.75 ล้านเครื่อง ขณะที่เครื่อง Wii ขายได้ 52.62 ล้านเครื่อง

ด้านซอฟต์แวร์เกม DS ขายได้ 29.09 ล้านชุด ลดลงจากเดิม 36.69 ล้านชุด ส่วนซอฟต์แวร์เกม Wii ก็ขายได้น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 40.41 ล้านชุด มาอยู่ที่ 31.07 ล้านชุด
ตึกบริษัทนินเทนโดในเกียวโต