Rate ESRB: M สำหรับผู้มีอายุ 17 ปีขึ้นไป
ถ้าพูดถึงเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ( First-person shooter ) แนว Sci-Fi ไล่ยิงกัน คอเกมคงรู้สึกว่ามันจะสนุกเหรอ ฟังดูมันน่าเบื่อ หรือไอเดีย ซ้ำซากเกินไปหรือเปล่า แต่กับเครื่อง PS3 ที่ดูเหมือนจะขาดแคลนเกมเอ็กซ์คลูซีฟ เกมนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่ถูกจับตามอง และเป็นความหวังของเครื่อง PS3 สำหรับการรีวิวครั้งนี้อาจจะดูช้าไปนิด แต่อย่างไรก็ตาม ชาว PS3 ที่ต้องบริโภคแผ่นแท้กันเป็นหลัก น่าจะยังมีบางท่านที่ยังลังเลว่าจะซื้อเกมนี้ดีหรือไม่ ดังนั้นหวังว่าคงรีวิวจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อเกมบ้างไม่มากก็น้อย
เรื่องราวของ Killzone 2 ยังคงดำเนินเนื้อเรื่องต่อจากภาคแรกและภาค PSP การทำสงครามกับพวก Helghast ที่กำลังดุเดือด ตัวเอก Tomas Sevchenk จากหน่วย ISA ได้รับมอมหมายภารกิจให้บุกตะลุยไปในดงศัตรู ฟังดูเหมือนเนื้อจะดูธรรมดาไปนิด แต่มันก็ถูกถ่ายถอดมาด้วยกราฟิกระดับ Full HD ที่สวยงามอลังการงานสร้าง ทั้งแสงสีรายละเอียดของฉากสร้าง รายละเอียดของฝุ่นควัน รวมทั้งระบบฟิสิกส์ล้วนสร้างได้สุดยอด การเล่นก็ลื่นไหลจะมีสะดุดบ้างก็ตอนอยู่ในช่วงโหลดเล็กน้อย ส่วนเสียงประกอบก็รังสรรค์เสียงออกมาได้เยี่ยม เพลงธีมดนตรีประกอบในเกมที่ถ้าไม่บอกนึกว่าดูหนังสงครามชั้นเยี่ยมอยู่ ถ้าคุณมีเครื่องเสียงดีๆด้วยละก็ รับประกันได้ว่าต้องมีคนนึกว่ามีสงครามบนห้องนอนของคุณแน่นอน นอกจากนี้เสียงยังมีความลึกมีมิติ ซ้ายขวาระยะใกล้ไกล และสามารถบอกพิกัดของศัตรูได้
ส่วนระบบควบคุมบังคับที่ไม่แตกต่างจากเกมแนว FPS บนคอนโซลที่ใช้ปุ่มในการเล่นมากนัก แต่ที่ดูเด่นหน่อยคือการหลบเข้าที่กำบังโดยกดปุ่ม L1 ที่การหาจุดหลบเข้ามุมทำได้ดีไม่แพ้เกมแนวมุมมองบุคคลที่ 3 การควบคุมมุมกล้องก็ทำได้ดีมั่นคงไม่วูบวาบมากนัก คนที่เมามุมกล้องง่ายๆอย่างผู้เขียนเองยังนั่งเล่นได้ 2-3ชั่วโมงติดต่อกันได้อย่างไม่มีอาการเมามุมกล้องเท่าไรนัก ตัวเกมแบ่งออกเป็น 10 ด่านและในแต่ละด่านมีจุด Checkpoint เป็นช่วงๆตลอดทาง โดยเรามีอิสระเล็กน้อยในการเลือกวิธีการผ่านช่วงนั้นๆ นอกจากนี้ เกมมีการใช้การจับการเคลื่อนไหวของจอย PS3 มาใช้ในเกมเล็กน้อยเช่นการใช้หมุนสวิตช์ หรือวางระเบิด ในด้านการออกแบบด่านต่างๆที่มีรูปแบบไม่ซ้ำซาก เพราะมีทั้งที่โล่ง ,ที่แคบ รวมทั้งรูปแบบการเล่นที่เหมือนเป็นฉากในหนังสงคราม หรือฉากที่ต้องไล่ล่า หรือด่านที่ต้องขับขี่ยานพาหนะชนิดต่างๆ เรียกหลากหลายและไม่มีส่วนที่น่าเบื่อเลย
สิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้คือระบบอาวุธในเกมที่แม้ดูภายนอกจะดูเชยไปหน่อยเพราะอาวุธหลายชนิดในเกมมีพื้นฐานเหมือนอาวุธที่ใช้อยู่ในยุคปัจจุบันทั้งปืนกล ,ปืนไรเฟิล, ปืนไฟ ,หรือช็อตกัน และระเบิดมือ โดยมีปืนแปลกๆบ้าง เช่น ปืนไฟฟ้าหรือปืนระเบิด โดยทางทีมงานได้ใส่ใจในรายละเอียดของอาวุธเป็นพิเศษ ทุกชิ้นจึงมีความจำเป็นต่อการเล่นภายในเกมทั้งสิ้น ส่วนงานการสร้างกราฟิกของอาวุธชนิดต่างๆทำได้ดีสมจริง เพียงแต่เราสามารถพกปืนได้ครั้งละ 1 กระบอก(ไม่นับปืนพก) ทำให้เราต้องเดินหาปืนที่เหมาะสมกับการเล่น และบริหารการใช้กระสุนให้ดี ซึ่งมันก็สร้างแรงกดดันและเป็นส่วนเพิ่มความท้าทายในเกมการเล่นได้ ส่วนการซูมต้องกดปุ่ม R3(กดที่ก้านอนาล็อกขวา) โดยอาจจะต้องปรับตัวกันนิด
แต่ที่ทำให้เกม Killzone 2 แตกต่างจากเกมอื่นๆ นอกจากภาพและเสียงก็คือ“ปัญญาประดิษฐ์”หรือ A.I. ของศัตรูในเกมที่ถือว่าฉลาดเป็นกรด เพราะมันไม่ได้แต่ยืนตามจุดแล้วยิง ศัตรูมีการวางแผน และปรับเปลี่ยนแผนกันตลอด เรียกได้ว่าศัตรูรู้จักรุก และรับ หรือกระทั่งเปลี่ยนแผนเพื่อลอบโจมตีฝ่ายเราได้ ยิ่งถ้ามันเห็นว่าเราเสียเปรียบมันก็จะเข้ามาซ้ำเราทันที เรียกได้ว่า ฉลาดไม่แพ้เวลาเล่นกับเซียนเกมตัวจริงกันเลยทีเดียว และ AI นับเป็นสิ่งที่ทำให้เกมท้าทายเป็นอย่างมาก แต่ถ้าจับจุดได้และวางแผนกันดีๆก็จะผ่านไปได้ เกมนี้จึงเป็นเกม FPS ที่เน้นการวางแผนควบคู่ไปกับการเดินหน้าฆ่าแหลกได้อย่างลงตัว
ส่วนการออกแบบแม้ว่าศัตรูส่วนใหญ่จะใส่หน้ากากคล้ายๆกันแต่จะต่างกันไปในรายละเอียดของรูปแบบ และจะต่างกันในส่วนของเครื่องแต่งกาย โดยรายละเอียดในส่วนนี้ถือว่าทำได้ดี เห็นแม้กระทั้งรอยยับและรอยเย็บของตะเข็บ โดยมีการใส่กลิ่นไอของสงครามโลกครั้งที่ 2 ลงไปในการออกแบบได้อย่างกลมกลืน ส่วน A.I. ของฝ่ายเราที่ดูเหมือนจะเป็นตัวถ่วงนิดๆ และเมื่อมันโดนยิงจนล้มเราก็ต้องตามไปช่วย แต่ในบางจุดก็พอจะช่วยเราได้บ้าง ส่วนการออกแบบตัวละครฝ่ายเราที่ดูเป็นมนุษย์ ไม่ดูเป็นยอดมนุษย์เหมือนเกมอื่นๆ สีหน้าท่าทางก็ทำได้ดีสมจริง แต่บทดราม่าในเกมมีน้อยไปหน่อย
ตามประเพณีที่เกมแนว FPS ยุคนี้ส่วนใหญ่ต้องมี คือ ระบบมัลติเพลย์เยอร์แบบ Online KillZone 2 เองก็ได้ใส่ระบบ Online ชั้นดีที่สามารถเล่นได้ถึง 32 คน แม้ระบบพื้นฐานไม่ได้แตกต่างกับเกมแนว FPS ทั่วไปนัก แต่ก็เป็นระบบที่สนุกเพราะไม่ใช่เพียงแค่เดินๆยิงๆ ต้องมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันให้ถูก การสื่อสารที่ดี รวมทั้งการปรับบางส่วนในฉากการวางยุทธโธปกรณ์ในการรบให้เหมาะสมจะส่งผลต่อการเล่น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มค่าความสามารถของตัวละครตามประเภทของทหารที่เลือก และสามารถนำมาผสมกันกลายเป็นซูเปอร์ทหารได้ ยิ่งถ้าได้เล่นกับเพื่อนๆเป็นทีมผ่านระบบ clan เกมจะสนุกขึ้นหลายเท่า ที่สำคัญมันยังให้บริการ“ฟรี” อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีโหมดเล่นมัลติเพลย์เยอร์แบบ offline ด้วยการเล่นกับบอทด้วยเช่นกัน
สรุปแล้วเกม KillZone 2 ที่เมื่อดูจากภายนอกคอเกม FPS อาจจะบอกว่าไม่แตกต่างจากเกมอื่นๆ แต่อยากให้คุณลองสัมผัสดู เพราะอย่างน้อยกราฟิกในเกมที่สุดยอดจนอาจจะเรียกได้ว่าเป็น FPS ที่งานด้านภาพดูดีที่สุดบนคอนโซล ระบบต่างๆในเกมก็สนุกเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะเสียงและดนตรีประกอบที่มีส่วนสร้างความมันสะใจให้กับเกมมาก ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ Killzone2 เป็นหนึ่งในแนวหน้าของเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งได้ และเป็นหนึ่งในเก เอ็กซ์คลูซีฟ ของ PS3 ที่ทำได้สมราคาคุย ถ้าคุณเป็นเจ้าของเครื่อง PS3 แล้ว ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะมีเกมนี้วางอยู่บนชั้นวางเกมของคุณ
ข้อดี : ภาพและเสียงสุดยอด , AI ที่ฉลาดเป็นกรด
ข้อเสีย : ระบบพื้นฐานไม่ต่างจากเกมแนว FPS ทั่วไปนัก
สรุปสั้นๆ: หนึ่งในเกม PS3 ที่คุณต้องมี
เกมการเล่น | 9.5 |
กราฟิก | 9.8 |
เสียง | 9.5 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 9 |
ความคุ้มค่า | สนุก-มัน-สะใจ |
ภาพรวม | 9.5 |
Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)