Review : MOON(DS) เกม FPS ที่ดีที่สุดบน DS ?

Rate ESRB : T สำหรับผู้มีอายุ 13 ปีขึ้นไป

ถ้าพูดถึงเกมแนว First Person Shooting (ยิงมุมมองบุคคลที่1) ที่เรียกกันย่อๆว่า FPS กับเครื่องเกมมือถือหน้าจอเล็กๆ อย่าง Nintendo DS นั้นอาจจะไม่ค่อยเข้ากัน แม้ว่าจะมีเกมที่โดดเด่นเล่นสนุกกราฟิกสวยที่ผลิตโดยบริษัทนินเท็นโด อย่าง Metroid Prime Hunters หรือเกมตระกูล Call of Duty มาลงด้วยก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้เครื่อง DS มีเกมแนว FPS เพิ่มขึ้นเท่าไรนัก แต่สำหรับเกม MOON ที่สร้างกระแสตั้งแต่เกมยังไม่ออก ด้วยการเป็นเกมที่สร้างโดยทีมงานเกมสยองในมุมมองบุคคลที่1ที่โด่งดังอย่าง Dementium ก็จะพอรับประกันได้ว่าน่าจะสนุกในระดับหนึ่ง

ถ้าพูดกันตรงๆ MOON อาจจะเป็นเกม FPS แนวไซไฟ ที่รูปแบบการบังคับแทบจะถอดแบบมาจากเกม Metroid Prime Hunters ทั้งรูปแบบการเล่นที่ใช้จอทัชสกรีนของDS เพื่อควบคุมมุมกล้องและใช้ D-PAD เพื่อบังคับให้ตัวละครเคลื่อนไหว ส่วนปุ่ม L ใช้สำหรับยิงและการกดสำรวจหรือเปลี่ยนอาวุธ ใช้การเลือกคำสั่งที่หน้าจอสัมผัสของ DS ที่โดยรวมดูจะเหมือนเป็นการลอกระบบมาจาก Metroid แต่ MOON นั้นทำได้เยี่ยมกว่า ด้วยการเลื่อนมุมกล้องที่รวดเร็วแต่มั่นคงไม่วูบวาบ ฉากต่างๆถูกสร้างมาให้มีขนาดใหญ่ ทำให้สังเกตสิ่งต่างๆได้ง่าย แถมการกระโดดอันแสนปวดหัวใน Metroid ก็ไม่ได้ตามมา ส่งผลให้เกมนี้เป็นเกมแนว FPS ที่มีการควบคุมที่ดีที่สุดบน DS ในตอนนี้ เพราะแม้แต่ผู้เขียนเองที่เป็นคนเมากับมุมกล้องแบบนี้ ยังเล่นได้เกิน 2 ชั่วโมงติดต่อกันโดยไม่รู้สึกเวียนหัว

จุดที่จะไม่ชมไม่ได้ ก็คือการออกแบบด่านที่ซับซ้อนแต่ก็ยังเล่นได้ไม่ยากและไม่ค่อยหลงทาง เพราะมีแผนที่บอกพิกัดที่จอล่าง (แต่ในบางจุดก็ไม่มีแผนที่) ปริศนาต่างๆในเกมที่ดูตั้งใจทำ รวมทั้งมีการใช้อุปกรณ์เสริมเช่น รถบังคับ RAD (Remote Access Droid) เพื่อไปแก้ปริศนารวมทั้งใช้ในการต่อสู้ในบางจุดอีกด้วย อีกทั้งบอสในเกมที่ มีวิธีจัดการที่หลากหลายที่ไม่ใช่แค่เดินๆหลบๆยิงๆก็ผ่าน นอกจากนี้เกมยังมีด่านที่ต้องขับขี่ยานพาหนะ เพื่อไปยังจุดต่างๆโดยการควบคุมยังคงใช้รูปแบบเดี๋ยวกับการบังคับตัวละครปรกติ ข้อดีอีกข้อที่น่าชมคือความรุนแรงในเกมที่มีไม่มาก เพราะศัตรูส่วนใหญ่ดูเป็นหุ่นยนต์ และไม่ได้เป็นเกมแนวสยองขวัญเลือดสาดเหมือนเกมรุ่นพี่อย่าง Dementium ดังนั้นน้องๆหนูๆที่อยากลองก็สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหา

ตัวเกมมีความยาวพอสมควรโดยมีมากกว่า 20 ฉาก และใช้เวลาเล่นมากกว่า 15 ชั่วโมง โดยมีหลายระดับให้เลือกเล่นและมีโหมดฝึกสอนในระบบ VR ให้ได้เล่นกัน อีกจุดที่เกมทำออกมาได้โดดเด่นคือกราฟิกที่สวยงาม (สำหรับเครื่อง DS) ที่สำคัญลื่นไหลไม่มีสะดุดด้วยเฟรมเรตระดับ 60 เฟรมต่อวินาที แต่ก็ยังไม่ได้ดูดีไปกว่า Metroid เท่าไร แถมการออกแบบก็ออกจะดูเชยไปนิด เนื้อเรื่องก็ดูธรรมดาๆ ดีหน่อยตรงที่มีคัทซีนให้ดูกันตลอดเกม ส่วนดนตรีประกอบที่ทำออกมาเป็นแนวเทคโน มีการใช้เสียงบรรยากาศ , เสียงเครื่องจักร มามิกซ์กันให้เกิดเสียงได้อย่างดี แต่ไม่มีธีมเด่นๆให้จดจำและบางครั้งทำให้หนวกหูไปนิด แต่โดยรวมดนตรีและเสียงประกอบทำได้ดี

สรุปแล้วเกมนี้เกือบจะดีเยี่ยมแล้ว เสียตรงที่ไม่มีโหมดเล่นหลายคนและโหมดออนไลน์ รวมทั้งการออกแบบตัวละครที่ดูเชยไปหน่อย แต่ด้วยปริศนาที่ทำออกมาสนุก การควบคุมบังคับที่เยี่ยมยอด ทำให้เกมนี้เป็นการเปิดศักราชใหม่เกมแรกของปีได้อย่างดี ใครเป็นแฟนเกมแนวนี้ต้องไม่พลาด แต่ถึงแม้ไม่ใช่แฟนเกมแนว FPS ผู้เขียนก็ยังอยากให้ลองสัมผัสการสำรวจดวงจันทร์ครั้งนี้ดู และไม่แน่ว่าถ้าในอนาคตเกมนี้มีภาคต่อและพัฒนาส่วนที่ขาดไป อาจจะเป็นเกมที่ดีที่สุดบนเครื่องเกมมือถือหน้าจอเล็กๆก็ได้

ข้อดี : ภาพสวย , การควบคุมบังคับทำได้ดี , อุปสรรคปริศนาที่ดีเกินคาด
ข้อเสีย : ออกแบบตัวละครได้เชย ไม่มีโหมดเล่นหลายคนและโหมดออนไลน์
ข้อแนะนำ : ภาคต่อที่ดาวอังคาร

เกมการเล่น	8.5
กราฟิก	8.8
เสียง	8
ความคิดสร้างสรรค์	8.5
ความคุ้มค่า	FPS ควบคุมง่าย , สนุก
ภาพรวม	8.5