xs
xsm
sm
md
lg

GDC: Akihiro Hino แนวทางสู่ความสำเร็จของ Level-5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในงาน Game Developers Conference ปีนี้ก็มีผู้พัฒนาเกมไปรวมกันมากมาย Akihiro Hino ประธานกรรมการบริหารของ Level-5 ก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่น่าสนใจ เขาได้พูดถึงแนวทางที่ทำให้บริษัทของเขาก้าวไปสู่ความสำเร็จ

มันเป็นแนวทางปกติในการทำธุรกิจเหมือนกันกับธุรกิจอื่น แต่ว่าในอุตสาหกรรมเกมเราเป็นผู้มีความชำนาญด้านการสร้างเกม เมื่อเราคิดถึงว่าทำอย่างไรจะขายเกมของเราได้ มันจะโหดเหี้ยมหรือไม่ขนาดไหน ตรงนี้สิเป็นเรื่องสำคัญ

เราจำเป็นจะต้องขายเกมของเราให้ได้ขณะเดียวกันก็ต้องให้ผู้คนสนุกสนานกับเกมของเราด้วย แต่สิ่งที่จะต้องคิดในตอนแรกคือทำอย่างไรจะขายเกมนี้ได้ คุณ Akihiro Hino กล่าว

ในงาน Game Developers Conference เราคงจะได้ยินแต่เรื่องทำอย่างไรจะสร้างเกมให้เล่นได้สนุกสนาน แต่ผมอยากจะเปลี่ยนหัวข้อนิดหน่อยเป็นว่า "ทำอย่างไรจะทำให้เกมที่สนุกสนานเหล่านั้นขายได้"

เราก็คงเข้าใจกับว่าเกมหลายเกมที่สร้างขึ้นมานั้นน่าจะมีความสนุกสนาน แต่ว่ามันขายได้ไม่ดี แล้วอะไรคือกุญแจสำคัญ เราจะต้องคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นตั้งตอนตอนเริ่มสร้างเกม เรามักจะพูดกันเสมอว่าเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่ว่ามันขายไม่ได้ หรือมันคือเกมที่สนุกในตอนแรกที่ได้เล่น จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันดูน่าอาย

อันดับแรกต้องสร้างสิ่งพิเศษให้กับเกมนั้น เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน เราจะต้องคิดถึงเรื่องการโฆษณาและโปรโมชันตั้งแต่เริ่มสร้างเกม ผมมักจะคิดถึงเรื่องว่าจะเริ่มต้นอย่างไรให้ประสพความสำเร็จมากกว่าที่จะปล่อยให้ตัวเกมเองแสดงผลงานของมันเอง แล้วเรื่องที่ว่าทีมงานพัฒนาจะสร้างมันออกมาได้อย่างไรก็ไปคิดกันทีหลัง

ตัวอย่างแรกก็คือเกมในซีรีส์ Professor Layton ในตอนแรกต้องตั้งเป้าหมายไว้ซึ่งจะเน้นในตลาดญี่ปุ่นเป็นหลัก
-เป็นเกมที่รวมกันระหว่างการไขปริศนาและเนื้อเรื่องที่ดี
-ประสานงานกับคุณ Akira Tago ผู้เขียนหนังสือเกมไขปริศนาซึ่งขายได้มากกว่า 12 ล้านก๊อบปี้
-สร้างอนิเมชันคุณภาพเยี่ยมและเฟ้นหาดารามาให้เสียงตัวละคร

คุณ Akihiro Hino ได้เปิดตัวอย่างภาพยนตร์อนิเมชันภาคที่สามของ Professor Layton เป้าหมายก็คือกลุ่มผู้หญิงที่ชอบเล่นแคชชวลเกม ดาราที่มาให้เสียงก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงซึ่งมีผลกับคนที่ไม่เคยได้สัมผัสกับเกมมาก่อน หลายสิ่งหลายอย่างในเกม Professor Layton ก็เหมือนกับเกมแคชชวลของฝั่งตะวันตก

ภาพยนตร์อนิเมชันดังกล่าวอาจะไม่ได้ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจตัวเกม แต่ช่วยให้ทีมพัฒนาเกมเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเกม คุณ Akihiro Hino จะสร้างภาพยนตร์เพื่อนำเสนอก่อน จากนั้นค่อยต่อเติมหลายอย่างลงไปเพื่อให้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ

โปรแกรมเมอร์ของ Level-5 คุณ Usuke Kumagai แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า "การสร้างภาพยนตร์ดังกล่าวทำให้ทีมพัฒนาเกิดกำลังใจเพิ่มมากขึ้น พอเราเริ่มสร้างภาคสอง ทุกคนในทีมก็เข้าใจในทันทีว่าเราควรจะทำอย่างไร ด้วยการทำงานเป็นทีมก็ทำให้ประสพความเสร็จ"

อีกเกมหนึ่งของ Level-5 ในปีที่ผ่านมาคือเกมลูกผสมระหว่างเกมฟุตบอลและเกม RPG ที่ชื่อว่า Inazuma Eleven เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ
-นำเสนอประสานกันระหว่างเกม ภาพยนตร์อนิเมชันทางทีวี และหนังสือการ์ตูน
-นำเสนอความสนุกสนานจากท่วงท่าการเล่นฟุตบอลที่เหนือความจริง
-มีตัวละครให้เลือกนำมาร่วมทีมได้ถึง 1000 คน (ไม่ได้ให้เลือกสะสมถึง 1000 คนแต่เป็นตัวเลือกที่สามารถมาร่วมทีมได้)

คุณ Akihiro Hino กล่าวว่า "ในตอนที่เราวางแผนการสร้างไม่ได้ทำเพราะว่าตามตัวเกม แต่ทำเพื่อต้องการดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย"

จากนั้นเขาก็ได้นำเสนอภาพยนตร์ตัวอย่างจากเกม ซึ่งเป็นเกม RPG มีท่วงท่าพิเศษในการเล่นฟุตบอลโดยใช้ฟังก์ชัน touch-screen เขาต้องการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ในการเล่นเกมยุคนี้และเพื่อดึงดุดกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่ "เราใช้ภาพยนตร์ตัวนี้เป็นอาวุธและมีผลกับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์นี้ซึ่งก็เป็นเด็กอายุ 8 ถึง 11 ปีเป็นส่วนใหญ่" คุณ Akihiro Hino กล่าว

ตัวเกมถูกวางจำหน่ายเพียง 342,000 ชุด สำหรับในญี่ปุ่นหลังจากวันที่มันออกจำหน่ายในเดือนสิงหาคมปี 2008 แต่ก็สามารถขายสินค้าเกี่ยวกับตัวละครได้อีกจำนวนมาก และขายได้เรื่อยๆและมียอดส่งราวๆ 5,000 ชุดต่อเดือนหลังจากเกมวางจำหน่าย

คุณ Akihiro Hino ยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเกม Ninokuni: The Another World ซึ่งจะจำหน่ายบนเครื่อง Nintendo DS ในปีนี้ งานเกมชิ้นนี้เป็นการทำงานร่วมกับสตูดิโอผู้สร้างการ์ตูนอนิเมชันที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Studio Ghibli และตัวเกมยังสร้างเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Level-5 อีกด้วย

คุณ Akihiro Hino กล่าวว่า "นี่คือเกมที่สร้างในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของเรา มันอาจจะขายไม่ได้อย่างที่ต้องการ แต่สิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริงคือสร้างอะไรสักอย่างที่มีความหมาย"

“ตัวละครหลักเป็นเด็กชายที่เข้าไปต่อสู้โดยไม่ได้ใช้ดาบ แต่ด้วยหนังสือเวทมนตร์ และเกมนี้ก็จะวางขายโดยมีหนังสือแถมมากับเกมด้วยโดยที่อาจจะใช้ร่วมในการเล่น พวกเรากำลังทำเกมนี้ร่วมกับ Studio Ghibli

"ที่จริงแล้วมันก็อาจจะประสพความสำเร็จเพราะชื่อเสียงของ Studio Ghibli ด้วยซึ่งก็นับว่าดี มันจะประสพความสำเร็จก็เพราะคนที่เราได้ร่วมงานด้วยและเราก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เกมนี้กลายเป็นเกมที่ได้รับความคาดหวังไว้ในระดับสูง"

ในญี่ปุ่นคำว่า"บูม"นั้นหมายถึงประสพความสำเร็จอย่างมหาศาล ดังนั้นการมี"สวิตกดระเบิด"ของเกมก็จะทำให้มันสร้างความนิยมอย่างมหาศาลให้กับกลุ่มเป้าหมาย "มันเหมือนกับสร้างไฟเล็กๆถ้าคุณพยายามหล่อเลี้ยงให้มันอย่างดี มันก็อาจจะขายเป็นไฟขนาดใหญ่ได้" คุณ Akihiro Hino กล่าว

ถ้าคุณมี"สวิตกดระเบิด"อยู่ในเกมของคุณ มันจะทำให้สามารถขายเกมได้อย่างมากมายเป็นเวลานาน "บูม"เกิดขึ้นโดยการพูดปากต่อปาก ผู้คนเริ่มพูดถึงเกมสักเกมหนึ่ง และผู้คนจำนวนมากก็พูดถึงเกมนั้นแล้วผู้คนจำนวนมากก็อยากจะลองเล่นเกมนั้น ทำอย่างไรจะให้เกมที่ว่านั้นคือเกมของเรา?

Level-5 ใช้สิ่งสองสิ่ง"พวกเราใช้กลยุทธทางการสื่อสารเพื่อให้ผู้คนพูดถึงเกมของเราเป็นเวลานาน และใช้กลยุทธในการแผ่ขยายเพื่อให้ผู้เล่นชอบเล่นเกมของเราเป็นเวลายาวนาน ถึงเกมที่ทำออกมาจะมีคนชอบแต่ถ้าพวกเขาไม่ได้พูดถึงเกมนั้นกับคนอื่น คำว่า"บูม"จึงไม่มีทางเกิดขึ้น"

"ส่วนกลยุทธในการแผ่ขยายก็คือถ้าเกมได้รับความนิยมแต่ว่าเล่นจบกันได้เพียงหนึ่งถึงสองวันในห้องเรียน พวกเด็กๆคงจะไม่พูดถึงมันอีกแต่ถ้าคุณสามารถทำให้พวกเขาเล่นอย่างสนุกสนานได้เป็นเดือน นั่นแหละคุณอาจจะสร้างสิ่งที่เรียกว่า"บูม"ขึ้นมาแล้ว"

สำหรับซีรีส์ Professor Layton คุณ Akihiro Hino ได้สร้าง"สวิตกดระเบิด"นั้นคือ
ยุทธทางการสื่อสาร
-ผู้เล่นพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับปริศนาที่ยังไม่สามารถการไขได้
-จัดเตรียมระบบที่ทำให้ผู้เล่นสามารถท้าทายให้ผู้เล่นคนอื่นมาไขปริศนาได้
กลยุทธในการแผ่ขยาย
-เกมย่อยจำนวนมาก
-ปล่อยปริศนาใหม่ๆผ่านระบบ wifi เป็นเวลาหนึ่งปี

Inazuma Eleven
ยุทธทางการสื่อสาร
-การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตัวละคร ความสามารถและสถานที่ และอื่นๆ
-การต่อสู้กันกับผู้เล่นคนอื่น
กลยุทธในการแผ่ขยาย
-มีตัวละคนให้เลือกใช้ถึง 1,000 คน
-ปล่อยตัวละครใหม่และท่าพิเศษผ่านระบบ wifi เป็นเวลาหนึ่งปี
-นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านสื่อชนิดอื่นๆ

"พวกเราก็นำเสนอสิ่งต่างๆเหล่านี้ ระหว่างที่เราทำโปรโมชัน พวกเด็กๆก็ยังคงนิยมเกมนี้และทำให้พวกเราสามารถขายเกมได้" ด้วยการทำงานของ "สวิตกดระเบิด" ที่คุณ Akihiro Hino ได้สร้างไว้ทำให้เกม Professor Layton ภาคแรกซึ่งได้วางตลาดในญี่ปุ่นเป็นเวลาสองปีมาแล้วเกิดผลคือ ยอดส่งขายรอบแรกจะเพียง 128,000 ชุดเท่านั้น แต่ยอดการส่งโดยรวมแล้วมีถึง 936,000 ชุด

แน่นอนยอดขายก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัท แต่กำลังใจของทีมงานก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน "ถ้ามีคนซื้อผลงานของเรามันก็คือรางวัลชั้นยอดสำหรับผู้พัฒนา และการประสพความสำเร็จแบบนี้ก็ทำให้ทีมงานมีกำลังใจดี" คุณ Usuke Kumagai กล่าวเสริมว่าทีมงานจะทำการตรวจสอบยอดขายทุกอาทิตย์เพื่อดูว่าทุกสิ่งยังคงก้าวหน้าต่อไป

เริ่มต้นด้วยความคิดสร้างสรรค์แต่ก็จบลงที่ยอดขาย "มันมีเรื่องที่ต้องทำซ้ำซากทั้งวัน ก็ทำให้ทีมพัฒนารู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย รวมถึงด้านอารมณ์ด้วย แต่ถ้าเกมขายได้ดี และแฟนเกมก็ส่งจดหมายมาเป็นจำนวนมาก ก็จะมีผลกับทีมงานอย่างมากในการพัฒนาเกม แต่ว่าถ้าเกมทำยอดขายได้ไม่ดี ทีมพัฒนาก็จะรู้สึกแย่ไปด้วย" คุณ Akihiro Hino กล่าว

หลังจากจบการพูดคุณ Akihiro Hino ก็เปิดโอกาสให้สัมภาษณ์
มีคำถามเกี่ยวกับการที่บริษัทพิจารณาถึงตลาดนอกประเทศญี่ปุ่นตอนวางแผนพัฒนาเกม แต่ว่าแนวทางต่างๆยังคงเป็นแบบญี่ปุ่น

คุณ Akihiro Hino ตอบว่า”เรามองถึงตลาดภายนอกประเทศด้วยแต่ก็ไม่ได้เป็นอันดับแรก เราคิดถึงตลาดญี่ปุ่นก่อน แต่อย่างไรก็ดีเมื่อไม่นานมานี้เกือบจะ 100เปอร์เซ็นต์ของเกมของเรานั้นขายได้ในอเมริกาเหนือและยุโรป เราสร้างเกมซีรีส์ Dark Cloud ซึ่งสร้างสำหรับคนญี่ปุ่นและก็ได้รับการยอมรับที่นั่น แต่มันกลับขายดีในอเมริกาและ 90 เปอร์เซ็นของยอดขายเกม Dark Cloud ก็มาจากนอกประเทศญี่ปุ่น”

มีคำถามจากแฟนๆเกี่ยวกับ Studio Ghibli เรื่องการทำงานกับสุดยอดผู้สร้างการ์ตูนอนิเมชันอาจารย์ Hayao Miyazaki คุณ Akihiro Hino ตอบว่า "ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี ผมโชว์รูปของผมกับ อาจารย์ Miyazaki ให้ทุกคนดู ผมไม่ได้ทำงานกับอาจารย์ Miyazaki เพียงคนเดียว แต่ทำงานกับทุกคนที่ Studio Ghibli ผมเหมือนกับเด็กที่หลงเข้าไปในสวนสนุก ผมประหม่าและเหมือนกับคนเดินไม่เป็นในตอนแรกที่ผมไปที่นั่น"

Level-5 ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่ฝั่งตะวันตก แต่เป็นอีกบริษัทที่โดดเด่นในญี่ปุ่น พวกเขาสร้างเกม Dragon Quest VIII ภายใต้การร่วมมือกันกับบริษัท Square Enix เป็นเกมที่ขายได้ดีในในหมู่เกมยุคล่าสุด และอีกเกมที่โดดเด่นก็คือเกมในซีรีส์ Professor Layton ซึ่งฝั่งตะวันตกจัดจำน่ายโดย Nintendo แต่ในญี่ปุ่นนั้น Level-5 เป็นผู้จัดจำหน่าย

10ปีที่ผ่านมาพวกเขาส่งเกมออกมจำหน่ายไปแล้วทั้งหมด 12, 912,000 ชุด โดยรวมประมาณราว 614,800 ชุดหรือ 1,844,000 ชุดในสามตลาดใหญ่ คือญี่ปุ่น อเมริกาเหนือและยุโรป และเกมยอดนิยมอย่าง Dragon Quest VIII ก็มียอดส่งโดยรวมราว 4,880,000 ชุด
ข้อมูลจาก
http://www.gamasutra.com
กำลังโหลดความคิดเห็น