ก่อนที่จะถึงงานมหกรรมเกมคอมพิวเตอร์,ของเล่น และการ์ตูนครั้งใหญ่แห่งปี "ไทยแลนด์เกมโชว์ 2008" และงาน "ตลาดของเล่นเกมการ์ตูน" ในวันที่ 21 - 24 ก.พ. 51 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี้ สิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์น่าสนใจสำหรับคอเกมคอนโซลชาวไทยก็คือการยกพลทีม “Invinxible” (อินวินซิเบิ้ล) หรือ 10 ยอดฝีมือทางด้านเกมชาวไทยที่รวบรวมโดยเว็บไซต์ “จีคอนโซล” (www.gconsole.com) โดยจะเดินทางไปพบปะและเปลี่ยนประสบการณ์กับคอเกมคนอื่นๆในงานด้วย วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์พิเศษของผู้ดูแลเว็บนี้วัย 23 ปีว่ามุมมองของเขาเป็นเช่นไรกับทีมดังกล่าวและสิ่งที่อยากทำกับวงการเกมไทย
“กานต์ ศุภบรรพต” บรรณาธิการเว็บไซต์เกมคอนโซลชื่อดังของไทย “จีคอนโซล” ศูนย์รวมคนรักเกมคอนโซลที่ช่วยกันทำด้วยใจรักและมิตรภาพกล่าวกับ “ผู้จัดการเกม”ว่า จุดประสงค์ที่ตั้งทีมขึ้นมาเพื่ออยากให้เป็นเหมือน Hall of Fame หรือ หอเกียรติยศคล้ายๆของฝรั่ง อย่างเมืองนอกจะมี “Fatal1ty” (โจนาธาน เว็นเดล) สุดยอดเซียนเกม FPS ที่มีชื่อเสียงมาก แต่เมืองไทยกลับไม่มีใครเลย เราจึงคิดตั้งขึ้นมาว่า สำหรับเกมนี้มันต้องเป็นคนนี้นะ ซึ่งเขาก็เป็นที่รู้จักของคนอื่นๆในวงการที่ชื่นชอบเกมเดียวกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโปเกม่อน ,เทคเคน หรือวินนิง อีเลฟเว่น
เมื่อถามว่า หากผู้ที่มีฝีมือคนอื่นในเกมนั้นๆคิดว่าตัวเองเก่งกว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตัวทีมหรือไม่ กานต์ตอบว่า กลุ่มยอดฝีมือเกมจะมาเป็นรุ่นๆไป ไม่ได้จำกัดตายตัว ใครที่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าก็อยากให้มาแข่งขันกัน ชนะหรือไม่ก็ไม่เป็นไร คนที่ชอบเกมเหมือนกันจะได้มารู้จักกัน สำหรับทีม “Invinxible” นั้นมาจากคำว่า “Invincible” ที่แปลว่าไร้เทียมทาน เรามีการเล่นคำนิดหน่อย ด้วยการใส่ตัว “X” ที่แปลว่า 10 เข้าไปแทนตัว C เนื่องจากทีมดังกล่าวมีอยู่ 10 คน
กานต์เปิดเผยว่า ภายในงานไทยแลนด์เกมโชว์เราจะนำผู้ที่อยู่ในทีมนี้ไป แต่ก็ไม่ได้ไปรวดเดียวทั้ง 10 คน แต่จะทยอยกันไป เนื่องจากหลายคนมีภารกิจส่วนตัว แต่จะมีคนที่เล่นเกมกีตาร์ ฮีโร่,เทคเคน และเกียร์ ออฟ วอร์ที่ไปทุกวัน โดยทีม Invinxible นี้จะขึ้นไปโชว์ความสามารถบนเวทีในงาน Thailand Game Show ด้วย
กว่าจะรวบรวมทีมนี้ขึ้นมาได้นั้น กานต์เล่าว่า จริงๆแล้วตัวเขาคิดโปรเจกต์นี้มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้รู้จักมา 2-3 คน บางคนก็เคยได้ยินชื่อมาบ้าง และได้ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับรายการคอนโซลสแควร์ ช่องจีสแควร์ โดยมีช่วงของกูรู จากนั้นก็เลยร่วมกับหยก คนที่เป็นผู้จัดการทีม เฟ้นหามา 10 คนที่มีฝีมือในเกมยอดนิยม 10 เกมที่บ้านเราเล่นกันเยอะ ทีมนี้จึงเกิดขึ้น
“อย่าง ‘ดูโอ’ เซียนเกมกีตาร์ ฮีโร่ ผมเลือกเขามาไม่ใช่เพราะฝีมืออย่างเดียว แต่เขาสามารถใช้ฝีมือนั้นไปในทางที่เกิดประโยชน์ เขาเป็นครูสอนเปียโนที่ KPN และแต่งเพลงส่งประกวด รวมถึงเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งเกม O2jam ส่วนคนที่เล่นเกมไบโอฮาร์ซาร์ด 4จบมาเป็น 100 รอบแล้ว เล่นจนจะเขียนตำราเกี่ยวกับเกมซีรีส์นี้ขายได้ คนส่วนมากได้ยินคงคิดว่าไร้สาระ เล่นทำไมเยอะขนาดนั้น แต่เขาก็ไม่ได้ไร้สาระแน่นอน เพราะตอนนี้ก็กำลังเรียนปริญญาเอกอยู่” กานต์ยกตัวอย่างบางคนในทีมให้ฟัง
กานต์อธิบายต่อว่า ความคิดของคนที่มองเกมเมอร์ว่าต้องเป็นคนนั่งอ้วนๆใส่แว่น อยู่คนเดียวในห้อง กินขนม เล่นเกมอย่างเดียว ไม่สังสรรค์กับคนอื่น ซึ่งมันไม่ใช่ ส่วนใหญ่คิดภาพออกมาในเชิงลบ เห็นพวกบ้าเล่นเกมเป็นพวกโรคจิตอยู่ตลอดเวลา ความจริงแล้วไม่ใช่ทั้งหมด ส่วนตัวยอมรับว่ามีคนแบบนี้จริง แต่เป็นเพียงส่วนน้อย ลองไปดูคนที่เล่นเกมที่สยามสแควร์เขาก็ดูเป็นคนธรรมดามาเล่นเกมกัน เฮฮากัน คนพวกที่มีปัญหานั้นมีส่วนน้อยแต่มันกลายเป็นส่วนเด่นของสังคมไป คนก็มองเจาะไปอยู่แค่นี้ เพราะสื่อส่วนใหญ่เล่นข่าวกันเกินไป
“อย่าง ‘ดิว’ เซียนเกมเฮาส์ ออฟ เดอะ เดด คนนี้ฝรั่งชอบมาก แต่คนไทยมองว่าติ๊งต๊อง ปัญญาอ่อน ผมเคยถามเขาว่าทำไมต้องแสดงท่าทางไปแบบนั้น ไม่อายเหรอ เขาตอบว่า หากทำแล้วให้ทุกคนยิ้มและสนุกไปกับเขาได้ ก็ถือว่าเขามีความสุขแล้ว ผมได้ยินแล้วก็อึ้ง เพราะทีแรกผมก็คิดว่าเค้าแปลกไปรึเปล่า แต่เมื่อได้รู้ว่าเขาคิดยังไง อคติมันก็หายไปหมดครับ เขาแค่ชอบแสดงออกให้ทุกคนเห็นในเรื่องนี้ แต่ทุกคนจะมองว่าเขานี้ เป็นคนแปลก เป็นโรคจิตรึเปล่า แล้วจะไปยิงคนตายหรือเปล่า ความจริงเขาก็เป็นคนปกติ มันเป็นแค่การแสดงให้คนอื่นสนุกตามไปเท่านั้น”บก.จีคอนกล่าว
กานต์เล่าถึงชีวิตตัวเองให้ฟังว่า ปัจจุบันเขาเรียนวิศวกรรมเคมีอยู่ที่ออสเตรเลีย จริงๆเขาเล่นเกมน้อย เล่นแบบพอให้รู้ว่าสนุกยังไง แล้วก็ต้องเปลี่ยนไปเล่นเกมอื่น ครั้งหนึ่งเขามีโอกาสไปพูดคุยกับผู้พัฒนาเกม “พัซเซิ้ล เควส” (Puzzle Quest) ชาวออสเตรเลีย จนทางผู้พัฒนาให้เขาเข้าไปมีส่วนช่วยดูเกมด้วย กานต์เปิดเผยว่าเกมนี้ถือเป็นเกมที่จุดประกายสำหรับเขาว่าต่อไปจะต้องสนับสนุนวงการเกมไทย เพราะเกมนี้ขายดีมาก ออกทุกเครื่องเล่นเกม แต่เมื่อได้เข้าไปเห็นสถานที่ทำงานก็พบว่าไม่ต่างอะไรกับในเมืองไทยเลย เล็กกว่าอีกต่างหาก มีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แค่ 5-6 ตัว จากนั้นเขาก็ถาม “สตีฟ ฟอว์คเนอร์ หัวหน้าทีมออกแบบเกมนี้ว่าใช้งบทำเยอะไหม เขาตอบมาว่าน้อยมาก จากนั้นจึงเชื่อมั่นว่า “หากคุณมีไอเดียดี เปลี่ยนมันเป็นวีดีโอเกมคุณภาพ เกมนั้นก็สามารถขายได้ โดยไม่ต้องไปก๊อปปี้ใคร และเชื่อในศักยภาพของคนไทยว่าเราสนใจทำอะไร เราก็ขายได้แน่นอน โดยเฉพาะในยุคนี้ที่เกมเล็กๆบนโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องเกมมือถือทำยอดได้มหาศาล อย่างเกมฝึกสมอง Brain Training ไม่ได้มีกราฟิกอะไรเลยแต่ขายได้หลายสิบล้านชุด”
“ใจจริงคิดว่าสักวันหนึ่งจะตั้งเกมสมาคมผู้เล่นเกมขึ้นมาด้วย แต่พวกพี่ๆในวงการเห็นว่าคงมีปัญหาบางประการที่ยังตั้งไม่ได้ตอนนี้ เลยต้องพับไปก่อนและรอช่วงเวลาที่เหมาะสมกว่านี้ หลังจากที่ผมเรียนจบก็คงจะไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับเกมเป็นอาชีพหลัก เกมเป็นความชอบส่วนตัว ยังไม่ได้ถึงจุดที่ผมอยากจะทำเป็นอาชีพ ความจริงเกมทำเป็นอาชีพได้ แต่ไม่ใช่สำหรับตัวผม ถามว่าอยากไหม แต่ก่อนอยากนะ แต่เดี๋ยวนี้เฉยๆแล้ว ยังไงต่อไปคงทำอะไรเกี่ยวกับวีดีโอเกมไปเรื่อยๆแน่ๆอยู่แล้วครับ” กานต์เล่าถึงสิ่งที่อยากทำในอนาคตทั้งวงการเกมและตัวเขาเอง
กานต์เปิดมุมมองของเกมอีกแง่หนึ่งที่อยากให้สังคมรับรู้ว่า ให้ทุกคนมองมากกว่าเป็นแค่เกม จริงๆแล้วเล่นวิดีโอเกมเครียดมากไปก็ไม่ดี แต่ถ้าเราไปมองเกมใหญ่ๆดีๆ จะทราบเลยว่ามันมีองค์ประกอบของความเป็นศิลปะเยอะมาก เกมดีๆเนี่ยจะสามารถสร้างความรู้สึกให้ผู้เล่นคล้อยตามไปได้ ส่วนตัวคิดว่าอะไรที่มันสร้างความรู้สึกร่วมให้เราได้นั่นแหละคือศิลปะ พอเวลาเล่นเกมแล้วทำให้รู้สึกอินไปได้ รู้สึกว่าเจ๋ง เขาทำได้ยังไง และกว่าจะมีฉากๆหนึ่งขึ้นมา บางครั้งอาร์ตติสต์เป็น 10 คนต้องมานั่งวาด ต้องมาทำคอนเซ็ปต์อาร์ต มุมนี้มันดีไหม หรือภูเขาควรวางไว้ตรงไหน เกมไม่ใช่แค่กระโดดดึ๋งๆไปมา มันไม่ใช่แล้ว ถึงวันนี้มันเปลี่ยนไปเยอะมาก อย่างพวกดนตรีประกอบก็เอาคนแต่งเพลงระดับหนังฮอลลีวู้ดมาทำ หลังๆมานี่มันจึงไม่ต่างอะไรกับหนังเลย ผมอยากนำเสนอคนที่เก่งๆทางด้านอาร์ตมานำเสนอในเว็บไซต์ด้วย เพราะผมคิดว่าด้านนี้คนไทยเราเก่งมากๆ และสามารถไปได้ไกลในต่างประเทศด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
“หากมองรูปลักษณ์ของเกมแล้ว ศิลปะที่เราเห็นด้วยตาอาจเป็นจุดหลัก แต่ผมคิดว่าเกมเพลย์มันก็เป็นอาร์ตเหมือนกัน หลังๆผมมีโอกาสไปนั่งคิดว่าเกมนั้นเกมนี้จะปรับปรุงอย่างไรให้มันดีขึ้น หรือว่านั่งดูว่าเกมแบบนี้มันควรจะเป็นอย่างไร การเอาทุกอย่างมารวมกันได้มันสุดยอดมากเลยครับ”
“มันค่อนข้างยากที่จะให้คนอื่นเลิกมองว่าเล่นเกมเพียงแค่ฆ่าเวลา มันควรจะมองให้กว้างออกไป อยากให้ทุกคนเปิดรับ แต่การจะให้ผู้ใหญ่เปิดรับในตอนนี้มันเป็นไปได้ข้างยาก ฉะนั้นพวกเราเองก็ต้องเปิดรับกันเองก่อนที่จะให้คนอื่นเปิดรับเรา” กานต์สะท้อนความคิดในแง่ศิลปะออกมา
นอกจากนี้ หนุ่มน้อยคนนี้ยังเคยจัดคอนเสิร์ตโดยนำเพลงจากวิดีโอเกมมาเล่นให้คนที่รักเกมฟังด้วย พร้อมกับตั้งเป้าครั้งต่อไปว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากจะจัดขึ้นมาอีก แต่ติดปัญหานิดหน่อยเลยยังไม่ลงตัวซักที แต่งานครั้งหน้าถ้ามีจัดก็ต้องดีกว่าคราวที่แล้ว เป็นเพลงจากไฟนอล แฟนตาซี,เซลด้า,มาริโอ ,เมทัล เกียร์ หรือชาโดว์ ออฟ เดอะ โคลอสซัส สำหรับนักดนตรีที่มาแสดงนั้นทุกคนมาเล่นฟรีแบบไม่มีค่าตัว เนื่องจากเป็นงานการกุศล คราวที่แล้วได้เงินไปประมาณครึ่งแสน โดยที่ตัวเขาและทีมงานไม่ได้อะไรเลย อารมณ์อยากทำให้คนได้เห็น ทำเพราะใจรัก และกานต์ยังฝากบอกอีกว่า สำหรับคนที่คิดว่างานคราวที่แล้วจัดได้ไม่ดี หรือมีอะไรที่ไม่ชอบใจ แทนที่จะแอบอยู่ในเนทแล้วมาบ่นว่าไม่ดีตรงโน้นตรงนี้ อยากให้เขาเดินเข้ามาบอกว่าไม่ดีตรงไหน คุยกันตรงๆรู้เรื่องกว่า แล้วก็ยื่นมือเข้ามาช่วยทำกัน คนไทยเราถ้าเข้ามาร่วมมือกันมันก็จะไปต่อได้ในทุกๆเรื่องเพราะเราไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติไหนเลย
((((ติดตามรายละเอียดทีม “Invinxible” ได้ในสัปดาห์หน้า))))
เว็บไซต์เกี่ยวข้อง
www.gconsole.com