จากกรณีที่ประชาชนเกิดความเข้าใจว่าสามารถเดินทางไปประเทศลาวเพื่อของฉีดวัคซีน ยี่ห้อ Sinopharm ได้นั้น ทางกองประมวลและวิเคราะห์ข่าว กระทรวงการต่างประเทศ ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ขณะนี้ สปป. ลาว ยังไม่เปิดให้มีการเดินทางเข้าประเทศ และชาวต่างชาติที่จะได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว จะต้องทำงานหรืออาศัยใน สปป.ลาว เท่านั้น
วันนี้ (1 ก.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเชิญชวนผ่านโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ประเทศลาวเปิดให้คนไทยฉีดวัคซีน Sinopharm ฟรี เพียงแค่แสดงบัตรประชาชน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กองประมวลและวิเคราะห์ข่าว กระทรวงการต่างประเทศ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าประเทศลาวเปิดให้คนไทยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ Sinopharm ฟรี ทั้ง 2 เข็ม เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนนั้น ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจว่าสามารถเดินทางไปประเทศลาวเพื่อของฉีดวัคซีน ยี่ห้อ Sinopharm ได้ ทางกองประมวลและวิเคราะห์ข่าว กระทรวงการต่างประเทศ ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า สปป.ลาว ยังคงนโยบายเดิม คือ ฉีดวัคซีนให้เฉพาะชาวต่างชาติที่พำนักใน สปป.ลาว โดยศูนย์ข่าวสารการแพทย์สุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว ได้ออกประกาศให้ชาวต่างชาติที่ทำงานหรืออาศัยใน สปป.ลาว สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ โดยต้องนำเอกสาร ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง บัตรยืนยันสถานที่ทำงาน และเอกสารประวัติการรักษาโรค (หากมี) ไปด้วย
โดยขณะนี้ สปป. ลาว ยังไม่เปิดให้มีการเดินทางเข้าประเทศ ผู้ที่มีความจำเป็นจะเดินทางเข้า สปป.ลาว อาทิ เพื่อไปทำงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วน จะต้องได้รับอนุญาตเป็นรายกรณี จากคณะเฉพาะกิจเพื่อป้องกัน ควบคุมและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สปป.ลาว
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงการต่างประเทศ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.mfa.go.th หรือโทร 02 2035000
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ขณะนี้ สปป. ลาว ยังไม่เปิดให้มีการเดินทางเข้าประเทศ และชาวต่างชาติที่จะได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว จะต้องทำงานหรืออาศัยใน สปป.ลาว เท่านั้น
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กองประมวลและวิเคราะห์ข่าว กระทรวงการต่างประเทศ