ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เห็นชอบโครงการเราชนะ ของกระทรวงการคลัง ที่สนับสนุนเงินช่วยเหลือ 3,500 บาท/เดือน เป็นเวลา 2 เดือน โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนที่เคยลงทะเบียนโครงการของภาครัฐ มีแอปเป๋าตังอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แต่สำหรับประชาชนที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล จะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บเราชนะ ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนวันแรกในวันที่ 29 ม.ค. 64
วันนี้ (19 ม.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ครม. อนุมัติโครงการ ‘เราชนะ’ เริ่มเปิดให้ลงทะเบียน 29 ม.ค. 64 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการเห็นชอบโครงการ ‘เราชนะ’ ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ที่ช่วยเหลือประชาชนด้วยการลดภาระค่าครองชีพ อันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ด้วยการสนับสนุนเงินช่วยเหลือ จำนวนเงิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ. 2564) ตามช่องทางจ่ายเงินที่กำหนด ซึ่งไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้
โดยผู้ที่มีสิทธิจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. สัญชาติไทย อายุ 18 ปี
2. ไม่เป็นผู้ประกันตน ประกันสังคม มาตรา 33
3. ไม่เป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ บุคคลของรัฐ
4. ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
5. ไม่รับบำนาญ เบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
6. ไม่เป็นผู้มีรายได้พึงประเมินเกิน 3 แสนบาท ในปีภาษี 2562
7. ไม่มีเงินฝากรวมทุกบัญชีเกิน 5 แสนบาท
ทั้งนี้กลุ่มที่ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ได้แก่ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินอัตโนมัติ (ไม่ต้องลงทะเบียน) ได้รับเป็นรายสัปดาห์ละ 1 พันบาท รวมกับเงินที่ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รัฐบาลให้ทุกเดือนอยู่แล้วนั้น รวม 2 เดือนเป็นเงิน 7,000 บาท เริ่มใช้ 5 ก.พ.64 และคนที่เคยลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และมีแอปเป๋าตังอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบจากฐานข้อมูล และคัดกรอง ถ้าได้รับอนุมัติ เงินจะเข้าแอปเป๋าตัง เริ่มใช้ 18 ก.พ.64
สำหรับประชาชนที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล ไม่มีแอปเป๋าตัง ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บ “เราชนะ” เปิดลงทะเบียน 29 ม.ค.-12 ก.พ.64 จากนั้นติดตั้งแอปเป๋าตัง โดยเงินจะถูกโอนเข้าแอป โครงการนี้ใช้เงินได้ถึง 31 พ.ค.64 โดยรัฐบาลจะโดนเงินเข้าสัปดาห์ละ 1 พันบาท โอนทุกวันพฤหัสบดี
เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่ www.prd.go.th หรือโทร. 02 6182323
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี