ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แจงว่า ราชกิจจาประกาศ เคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร งดเดินทางข้ามจังหวัด โดยพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 5 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ได้ระบุใจความสำคัญไว้ ดังนี้ ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกจากเคหสถานในช่วงเวลา 22.00 - 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และข้อ 5 ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่จำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
วันนี้ (3 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ราชกิจจาประกาศ เคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร งดเดินทางข้ามจังหวัด ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
โดยพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 5 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ระบุใจความสำคัญไว้ ดังนี้
ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกจากเคหสถานในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ผู้ฝ่าฝืนย่อมมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด เช่น ออกนอกเคหสถานในเวลาดังกล่าว และไม่ยอมรับการแยกกัน กักกัน มั่วสุมชุมนุมทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด อาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ด้วย
ข้อ 5 ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่จำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องรับการตรวจคัดกรอง ปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด โดย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 5 นี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3-31 พ.ค. 63 เป็นต้นไป
โดย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 5 นี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3-31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งประชาชนสามารถตามรายละเอียด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 5 ได้ที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/102/T_0001.PDF และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทางภาครัฐที่ถูกต้อง เกี่ยวกับ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และสถานการณ์ COVID-19 สามารถติดตามได้ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 หรือโทรสายด่วน 1111