รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลขอประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัด หวั่นโควิด-19 กระจายเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ส่วนผู้ที่ออกไปแล้ว ให้อยู่บ้าน อย่าไปข้างนอก
วันนี้ (2 พ.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีการเดินทางออกต่างจังหวัดของประชาชนในช่วงหยุดวันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะแม้ขณะนี้สถานการณ์ในไทยจะดีขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าไว้วางใจได้ โดยการแพร่เชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นได้ทุกเมื่อ หากไม่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่เดินทางออกต่างจังหวัด ปฏิบัติตามข้อห้ามของทางจังหวัดอย่างเคร่งครัด หากกลับภูมิลำเนา ให้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านเรือน งดออกนอกบ้าน โดยเฉพาะการร่วมสังสรรค์และกิจกรรมรวมกลุ่ม อันจะเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อและแพร่เชื้อ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ยังคงข้อกำหนดการให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็นอยู่ จึงขอให้ประชาชนงดการเดินทางข้ามเขตจังหวัดโดยไม่มีเหตุอันจำเป็น เพราะการเคลื่อนย้ายของผู้คน จะเป็นเหตุของการกระจายเชื้อไปยังพื้นที่ต่างๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
“รัฐบาลหวังให้ประชาชนได้ใช้เวลาวันหยุดพักผ่อน คลายความเครียดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่เลื่อนวันหยุดในเดือน พ.ค.ออกไป พร้อมกับจะมีการผ่อนปรนมาตรการตามมา โดย ศบค.จะใช้เวลา 14 วัน ประเมินผล ซึ่งพวกเราทุกคนช่วยกันระมัดระวัง ป้องกันตัวเอง ร่วมกันช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราก็มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว แต่ถ้าเราไม่ช่วยกัน ปล่อยปละละเลย แล้วสถานการณ์กลับมาแย่ลง พวกเราก็อาจประสบกับความยากลำบากต่อไปอีกยาวนานพอสมควร” น.ส.ไตรศุลี กล่าว