ปลัดฯ ณัฐพล รังสิตพล มอบรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ประจำปี 2568 ภายใต้ธีมTogether We Grow Greener เมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 8.00 - 13.00 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก (วิภาวดี) กรุงเทพมหานคร เพื่อยกย่องและเชิดชูผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มุ่งมั่นพัฒนายกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ การส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว Green Economy ด้วยการปรับการผลิตของภาคอุตสาหกรรมพร้อมกับการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาดมาประยุกต์ใช้ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมวิถีใหม่ ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมดี เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” ผ่านนโยบาย MIND ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเน้น 4 มิติสำคัญ ได้แก่ 1) ความสำเร็จทางธุรกิจ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ยกระดับอุตสาหกรรมให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก 2) ความอยู่ดีของสังคมโดยรวม สร้างความเชื่อมโยงกับสังคม ส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อชุมชน 3) ความลงตัวกับกติกาสากล โดยการปรับตัวตามมาตรฐานสากล รองรับมาตรการทางการค้าใหม่ เช่น EU-CBAM และ US-CBAM 4) การกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเติมโตและประสบผลสำเร็จไปพร้อมกับดูแลสังคมโดยรอบโรงงาน รักษาสิ่งแวดล้อม และกระจายรายได้ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและร่วมกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายของประเทศในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ตอบโจทย์ประเทศไทยและประชาคมโลกและสร้างโอกาสในแข่งขันในระดับสากล ซึ่งภายใต้บริบทกติกาการค้าและมาตรฐานการผลิตใหม่นี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ทบทวนหลักเกณฑ์อุตสาหกรรมสีเขียวที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี โดยจะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์อุตสาหกรรมสีเขียว โดยผนวกการประเมินการปล่อยคาร์บอนขององค์กรเข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักเกณฑ์ด้วย
พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 และระดับที่ 5 ในวันนี้ เป็นสิ่งยืนยันให้เห็นว่าสถานประกอบการอุตสาหกรรมให้ความสำคัญอย่างมากกับการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีปลอดภัยในการประกอบกิจการ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ในการร่วมส่งเสริมให้ห่วงโซ่อุปทานปรับตัวสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว ในระดับที่ 2 และ 3 ขึ้นไป เพื่อก้าวสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นว่า ความร่วมแรง ร่วมใจของทุกภาคส่วน จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยในทุกมิติ นำไปสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป
นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งมั่นให้ทุกโรงงานเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมสีเขียว โดยมีเป้าหมายของการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว คือ การสร้าง อุตสาหกรรมดี เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน โดย ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่ดีสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ดำเนินธุรกิจได้สะดวกรวดเร็ว และเป็นที่ต้อนรับในทุกพื้นที่ สำหรับในปีนี้กระทรวงอุตสาหกรรมชูธีม Together We Grow Greener สะท้อนแนวคิดการร่วมมือกันระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนเติบโตไป ด้วยกันอย่างยั่งยืนภายใต้หลักการสีเขียว และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง
นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ มีสถานประกอบการได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 และระดับที่ 5 รวมทั้งสิ้น 273 ราย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network) จำนวน 43 ราย และอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) จำนวน 230 ราย ซึ่งปัจจุบัน มีสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว รวม 57,910 โรงงาน แบ่งเป็นระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 ความมุ่งมั่นสีเขียว (Green Commitment) จำนวน 50,249 โรงงาน คิดเป็นสัดส่วน 86.77
ระดับที่ 2 ปฏิบัติการสีเขียว (Green Activity) จำนวน 3,429 โรงงาน คิดเป็นสัดส่วน 5.92
ระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) จำนวน 3,682 โรงงาน คิดเป็นสัดส่วน 6.36
ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) จำนวน 476 โรงงาน คิดเป็นสัดส่วน 0.82
ระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network) จำนวน 74 โรงงาน คิดเป็นสัดส่วน 0.13
สำหรับโรงงานที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป สามารถขอใช้ตราสัญลักษณ์อุตสาหกรรมสีเขียวบนผลิตภัณฑ์เพื่อการประชาสัมพันธ์ และได้รับสิทธิประโยชน์จากพันธมิตร เช่น การขอสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark การขอรับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ยจากธนาคารกรุงไทย SME D Bank และ EXIM Bank นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก สวทช. และโปรแกรม ITAP ให้คำแนะนำปรึกษาด้านเทคโนโลยีการผลิต และการประเมินตนเองผ่าน Thailand 4.0 Checkup และ DIW Safety App รวมถึงการ แปรผลเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจ นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้พัฒนา platform ให้ผู้ประกอบการที่ยื่นขอการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว แสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปริมาณการใช้สาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ ปริมาณการใช้น้ำและการใช้ไฟฟ้า รวมถึงปริมาณการใช้เชื้อเพลิงของโรงงาน เพื่อทำการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ประสงค์ขอการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร กรมโรงงานฯ จะมีการทำ MOU กับองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (อบก) เพื่อเชื่อมข้อมูลเข้ากับ CFO Platform ซึ่งจะนำไปสู่การรับรอง CFO ต่อไป
ปลัดฯ ณัฐพล กล่าวปิดท้ายย้ำ กระทรวงอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่ดีสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ดำเนินธุรกิจได้สะดวกรวดเร็ว และเป็นที่ต้อนรับทุกพื้นที่ แต่สำหรับโรงงานที่ประกอบกิจการหลีกเลี่ยงกฎหมาย เอาเปรียบสังคม และไม่รักษาสิ่งแวดล้อม จะต้องประกอบกิจการได้ยาก ถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น และกระทรวงอุตสาหกรรมจะเพิกถอนการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว จนกว่าจะปรับตัวเป็นโรงงานที่ดี เพื่อให้ชุมชนมั่นใจในแบรด์อุตสาหกรรมสีเขียว “อุตสาหกรรมดี..เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน..ด้วยอุตสาหกรรมสีเขียว”
