ยังคงเป็นความสะเทือนใจของแฟนๆละครเวที, โทรทัศน์และภาพยนตร์ เมื่อนักแสดงมากฝีมืออย่าง “แม็กกี้ สมิธ” ได้จากโลกนี้ไปในวัย 89 ปี ทาง “คิงส์ชาร์ลส์” ก็ได้ออกแถลงการณ์ แสดงความเสียพระทัยและยกย่องว่านักแสดงผู้ล่วงลับคือ “สมบัติชาติ”
กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ทรงไว้อาลัยต่อการจากไปของ แม็กกี้ สมิธ นักแสดงในตำนานชาวอังกฤษ ซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมาขณะอายุ 89 ปี
ในแถลงการณ์ของพระมหากษัตริย์และพระราชินีคามิลลา พระมเหสีของพระองค์ที่โพสต์บน X ทั้งคู่ได้แสดงความเคารพต่อสตรีผู้นี้ ที่เคยได้รับรางวัลออสการ์มาแล้วถึง 2 ครั้ง และยังได้รับรางวัลเกียรติยศจากการแสดงอีกมากมาย
“ข้าพเจ้ากับภรรยารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของเดมแม็กกี้ สมิธ ขณะที่ม่านแห่งสมบัติของชาติได้ปิดลง เราขอร่วมไว้อาลัยพร้อมกับผู้คนทั่วโลกด้วยความชื่นชมและความรักใคร่อย่างที่สุดต่อการแสดงอันยอดเยี่ยมมากมาย ความอบอุ่นและไหวพริบของเธอที่เปล่งประกายทั้งบนเวทีและนอกเวที”
ก่อนจะทรงลงพระนามในท้ายข้อความว่า “ชาร์ลส์ อาร์.” ( Charls R )
แม็กกี้ สมิธ ผู้เป็นที่รักของแฟนภาพยนตร์ Harry Hotter กับบท ศาสตราจารย์ มักกอนากัลล์ และบท เลดี้ ไวโอเล็ต ครอว์ลีย์ ใน Downtown Abbey ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากครอบครัวว่าเสียชีวิตลงแล้วในวันที่ 27 ก.ย. ท่ามกลางเพื่อนและครอบครัวที่อยู่รายล้อมในช่วงเวลาสุดท้าย
“เราเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งข่าวการเสียชีวิตของ เดม แม็กกี้ สมิธ เธอเสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาลเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. เธอเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวสูงจึงมีเพียงสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทที่ได้ส่งเธอในวาระสุดท้าย เธอมีลูก 2 คนและหลานๆที่น่ารักอีก 5 คนที่ต่างก็เศร้าเสียใจต่อการจากไปของผู้เป็นแม่และย่าผู้เป็นที่รัก”
ในแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ครอบครัวระบุว่า แม็กกี้ สมิธ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเชลซีและเวสต์มินสเตอร์ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
แม็กกี้ สมิธ มีชื่อเดิมว่า มากาเร็ต นาตาลี สมิธ เกิดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 1934 เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่วัยรุ่น ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่ Oxford Playhouse School เธอก็มีผลงานหลายเรื่องทั้ง Twelfth Night และ Cinderella
ในที่สุด พรสวรรค์ของเธอก็พาเธอไปอยู่ที่โรงละคร The Old Vic ในลอนดอน ซึ่งที่นั่นเธอได้ดึงดูดความสนใจของนักแสดงและผู้กำกับอย่าง ลอว์เรนซ์ โอลิวีเอร์ และได้รับเชิญให้เข้าร่วมคณะละคร Royal National Theatre ในปี 1963 ในฐานะหนึ่งในสมาชิกรุ่นแรก
ในฐานะนักแสดงละครเวที สมิธ ได้รับสถาปนาเป็น “เดม” โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในปี 1990 จากผลงานด้านศิลปะของเธอ เธอมีบทบาทในการแสดงละครเรื่อง Macbeth, Anthony and Cleopatra, Richard III, Othello และ Hedda Gabler รางวัลทางการแสดงที่น่าประทับใจของเธอ ได้แก่ รางวัล Evening Standard Theatre Awards ซึ่งทำลายสถิติรับไปถึง 6 รางวัล ซึ่งถือเป็นรางวัลทางการแสดงของสถาบันที่เก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักร และรับรางวัลโทนี่สำหรับละครเรื่อง Lettice and Lovage ในปี 1990
นอกจากการแสดงละครเวที เธอยังปรากฏตัวในภาพยนตร์ที่เป็นที่ชื่นชอบมากมายหลายเรื่อง เช่น Hook, Sister Act, Gosford Park, Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood และ The Best Exotic Marigold Hotel เธอได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปี 1969 จากบทนำใน The Prime of Miss Jean Brodie และรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง California Suite ในปี 1978
และที่โดดเด่นที่สุด คือ สมิธ แสดงนำในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้ง 8 ภาคในบทบาทศาสตราจารย์ มิเนอร์วา มักกอนนากัลล์ ซึ่งเป็นบทบาทที่เธอเล่นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเธอจะต้องเข้ารับเคมีบำบัดเพื่อรักษามะเร็งเต้านมในปี 2007 ก็ตาม
ในปี 2009 เธอได้ให้สัมภาษณ์ขณะที่ต้องรักษาตัวพร้อมกับทำงานใตวงการบันเทิงไปด้วยว่า
“ผมฉันน้อยลง ฉันไม่มีปัญหาเลยกับการใส่วิก ฉันแค่เหมือนกับไข่ต้มแค่นั้นเอง”
ในระหว่างถ่ายทำ Harry Potter and the Half-Blood Prince เจ้าตัวป่วยหนักมาก ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอเข้าใจถึงความหมายของความยืดหยุ่น พออาการกำเริบ เธอต้องรวบรวมสติสักพักเพื่อให้ทำงานต่อไปได้
ในส่วนของนักแสดงโทรทัศน์ สมิธ ได้ครองใจผู้คนด้วยบทบาท ไวโอเล็ต ครอว์ลีย์ เคาน์เตสผู้สูงศักดิ์แห่งแกรนธัม ในซีรีส์ Downton Abbey หลังจากคว้ารางวัลเอ็มมี่มาแล้ว 3 รางวัลตลอดระยะเวลา 6 ซีซั่นของซีรีส์ เธอได้กลับมารับบทนี้อีกครั้งในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากซีรีส์ในปี 2019 และ 2022
นอกจากการแสดงนำในละครอิงประวัติศาสตร์แล้ว สมิธยังได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์โทรทัศน์ยอดนิยมหลายเรื่อง เช่น My House in Umbria และ Capturing Mary รวมไปถึงมินิซีรีส์ของ BBC เรื่อง David Copperfield ซึ่งมี แดเนียล แรดคลิฟฟ์ พระเอกจากเรื่อง Harry Potter ของเธอร่วมแสดงด้วย
แม้ว่าประวัติของ สมิธ จะเต็มไปด้วยเกียรติยศมากมาย แต่เธอก็ไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณชนมากนักและชอบใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเงียบๆ เธอแต่งงานกับ โรเบิร์ต สตีเฟนส์ ซึ่งมีลูกชายด้วยกัน 2 คนคือ คริส ลาร์กิน และ โทบี้ สตีเฟนส์ ซึ่งทั้งคู่ทำงานในวงการบันเทิง
เธอเริ่มตระหนักว่าตนเองมีชื่อเสียงเมื่อมีผู้คนทักทายเธอเพราะการแสดงใน Downtown Abbey ซึ่งเธอเองไม่ได้ยึดติดกับชื่อเสียงมากนัก และกล่าวว่า
“ฉันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแตกต่างไปจากเมื่อก่อน แต่ก็อาจจะคุ้นเคยกับผู้คนมากขึ้นบ้างซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากโทรทัศน์”
แม้จะได้รับคำชื่นชมอย่างมากถึงฝีไม้ลายมือด้านการแสดง แต่ แม็กกี้ สมิธ เป็นคนถ่อมตนแม้ว่าจะคร่ำหวอดในวงการบันเทิงมานาน เมื่อถูกยกย่องให้เป็นไอคอน เธอให้สัมภาษณ์กับ The Telegraph ในปี 2014 ว่า
"ทุกสิ่งคือไอคอน หากคุณอยู่มานานพอ คุณก็เป็นไอคอน ไอคอนที่ค่อนข้างเต็มไปด้วยฝุ่น...หรืออาจเรียกว่าสมบัติของชาติ"