xs
xsm
sm
md
lg

“ป๊อด โมเดิร์นด็อก-ศรราม น้ำเพชร-บัวขาว” เตรียมขึ้นเวที “ไทย เอ็กซ์โป โตเกียว” โชว์ซอฟต์พาวเวอร์กระหึ่มญี่ปุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระหึ่มญี่ปุ่น! “ป๊อด โมเดิร์นด็อก-ศรราม น้ำเพชร-บัวขาว” เตรียมขึ้นเวที “ไทย เอ็กซ์โป โตเกียว” ชูความเป็นไทย “เกิร์ล ยุพเรศ” ทุ่มเกือบ 60 ล้านจัดงาน ขนศิลปินไทยกว่า 30 วงไปโชว์ ไฮไลต์เพียบจัดเต็มทุกมิติ มีทั้งนักแสดงซีรีส์วาย และครั้งแรกกับการเอาลิเกไปเล่นในเฟสติวัล พร้อมพาเพลงหมอลำไปโกอินเตอร์ หวังเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่จะเปิดประตูความเป็นไทยให้โลกรู้ ใจป้ำเปิดให้เข้างานฟรีไม่ต้องเสียค่าบัตร

เป็นเจ้าแม่จัดงานใหญ่ๆ ระดับประเทศที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายงาน สำหรับ “เกิร์ล ยุพเรศ เอกธุระประคัลภ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จี-ยู ครีเอทีฟ จำกัด ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลไทย ครั้งที่ 23 ณ กรุงโตเกียว ปี 2566, Thai Expo Okinawa ปี 2019 และงาน JAPAN EXPO THAILAND มหกรรมญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในไทยและเอเชีย ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็ล้วนเป็นฝีมือของเจ้าตัวผลักดันอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

ล่าสุด “เกิร์ล ยุพเรศ” ทุ่มเงินกว่า 60 ล้านบาท จัดงาน ไทย เอ็กซ์โป โตเกียว ครั้งที่ 2 (THAI EXPO TOKYO 2024) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 17-18 สิงหาคมนี้ ณ สวนสาธารณะโยโยงิ ในเขตชิบุยะ กลางกรุงโตเกียว ภายใต้ธีมงาน ดอกไม้ของน้ำใจ โดยเน้นกิจกรรมทางด้านศิลปะวัฒนธรรมของไทยในทุกมิติ เพื่อตอกย้ำซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สายตาชาวโลก เตรียมขนศิลปินไทย 30 วง ซีรีส์วาย ลิเก มวยไทย หมอดู เรียกว่าของดีของไทยไปรวมไว้ที่งานนี้ นอกจากนี้ยังมีศิลปินญี่ปุ่นร่วมแจมด้วย สุดใจป้ำเปิดให้เข้างานฟรีไม่ต้องซื้อบัตร

“หลักๆ จะเป็นงานที่ใช้ธีมภายใต้ชื่อดอกไม้ของน้ำใจไทยแลนด์ ซอฟต์พาวเวอร์ อย่างที่เราเห็นอยู่ตอนนี้ว่าทางรัฐบาลสนับสนุนในเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ในหลายๆ ด้าน จริงๆ คนญี่ปุ่นเองเฟรนด์ลี่กับประเทศไทยมาก ในอดีตคนญี่ปุ่นจะมีแต่เรื่องของอาหาร การท่องเที่ยว เรื่องการนวด เป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นรับประเทศไทยได้ง่ายและมากเพราะเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคย แต่ประเทศไทยเราไม่ได้มีแค่นั้น ซอฟต์พาวเวอร์เรายังมีอีกเยอะมากๆ

ครั้งนี้เราพยายามจะซิงก์กันระหว่างสองประเทศ ตัวธีม ในตัวดอกไม้ของน้ำใจ จะมีเรื่องของพวงมาลัยที่เอามาใช้เป็นโลโก้ในครั้งนี้ เป็นพวงมาลัยที่ร้อยจากดอกมะลิ ข้างล่างจะเป็นดอกซากุระ ตัวนี้จะเป็นภาพที่เราใช้ออกเผยแพร่ในการทำประชาสัมพันธ์ เป็นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของสองประเทศเอามารวมกัน ก่อนหน้านี้เราทำงาน JAPAN EXPO มาเยอะ ก็จะเห็นว่ามีคนที่ชอบในแต่ละเรื่องแตกต่างไป เราก็จะใช้คอนเซ็ปต์เดียวกัน บางคนชอบอาหาร บางคนชอบศิลปะวัฒนธรรม บางคนชอบการท่องเที่ยว บางคนชอบศิลปิน งานในครั้งนี้เราก็พยายามจะดันให้มันครบทุกมิติ ปีนี้ถือว่าเราได้คีย์ของในแต่ละเรื่อง

ในแง่ของศิลปิน เรามีศิลปินกว่า 30 วง ที่บินไปไม่ว่าจะเป็น แอม เสาวลักษณ์, ป๊อด โมเดิร์นด็อก, ซิน ซิงกูล่าร์, ละอองฟอง, ติ๊ก เพลย์กราวน์, รุจ เดอะสตาร์, BNK 48 วงไอดอลไทยอีกเยอะแยะ รวมไปถึงนักแสดงซีรีส์วาย ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่น เราเอาคำว่า T-POP หรือในเรื่องซีรีส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เรียกว่าเป็นจุดที่ใช่ในเวลาที่ถูกต้องในตอนนี้ของประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ T-POP เราก็เข้าไปพอสมควรแล้ว และเริ่มจะเป็นซีรีส์ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ ทำให้เขาสนใจประเทศไทยมากขึ้น ในแง่มุมของทั้งเพลง อาหาร การเรียนภาษาไทยด้วย เวลามีแฟนมีตติ้งก็อยากจะเขียนภาษาไทยมาให้ศิลปินได้ดู มันเป็นมิติที่ปกติแล้วเราเอาความชอบนำก่อนแล้วทำให้เขาค่อยไปสานต่อในเรื่องอื่นๆ

มีในเรื่องของมวย เราได้ฮีโร่ของไทยอย่างบัวขาว(บัวขาว บัญชาเมฆ) ที่เขามีแฟนคลับอยู่ที่ญี่ปุ่นเยอะพอสมควร บัวขาวจะไปไหว้ครูบนเวที และมีแพลนจะไปร้องเพลงด้วย คนญี่ปุ่นก็จะได้เห็นมาดใหม่ของบัวขาวในครั้งนี้ และเรากำลังคุยกับนักมวยญี่ปุ่นด้วยก็คือ โคตะ(โคตะ มิอุระ นักมวยหนุ่มหล่อจากประเทศญี่ปุ่น) ซึ่ง บัวขาว กับ โคตะ เรียกว่าได้ว่าสนิทสนมเป็นพ่อลูกกัน บัวขาวเองเป็นไอดอลของโคตะด้วย สองคนก็จะมาขึ้นเวที และมีศิลปินญี่ปุ่นอีกเกือบ 10 วง มันเป็นการซิงก์กันระหว่างไทย-ญี่ปุ่นจริงๆ

แล้วเรานำลิเกไปด้วย โดยได้ ศรราม น้ำเพชร มี คัตซึยะ เป็นชาวญี่ปุ่นที่จะมาร่วมรำ ร่วมเล่นลิเกในครั้งนี้ด้วย ถือเป็นมิติใหม่ที่เรานำเสนอเพราะคนญี่ปุ่นเองก็ไม่เคยเห็นเลยด้วยว่าลิเกคืออะไร ถือเป็นการนำคอนเทนต์ใหม่ๆ เข้าไปให้คนญี่ปุ่นได้รู้จัก ในส่วนของลิเก เป็นครั้งแรกเลยที่เรานำการแสดงลิเกอย่างเป็นทางการให้คนญี่ปุ่นได้ชมกันในงานเฟสติวัล”

เผยเหตุผลสุดประทับใจ ทำไมถึงเลือกที่จะเป็นลิเก
“สำหรับลิเกเรามองว่าน่าจะเป็นจริตที่คนญี่ปุ่นน่าจะชื่นชอบและเข้าถึงง่าย ด้วยคนญี่ปุ่นชื่นชอบการดูมิวสิคัล เขามีอะไรที่เป็นการแสดงที่เกี่ยวกับเพอร์ฟอร์แมนซ์ ญี่ปุ่นรับการแสดงที่เป็นสตอรี่ได้ง่ายอยู่แล้ว แต่เราไม่เคยมีมุมนี้ไปเสนอคนญี่ปุ่นเลย อาจจะเป็นเพราะด้วยเรื่องของภาษา คนไทยเองอาจจะมองว่าเป็นของคนไทยดู เป็นเรื่องเกี่ยวกับพื้นบ้านคนไทย การที่ลิเกมีการร้องเพลง มันเหมือนเป็นมิวสิคัล แต่จริงๆ แล้วถ้าเราทวิตให้เป็นมิวสิคัล ลิเกอาจจะโกอินเตอร์ก็ได้ เลยมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่ายากที่เราจะเอาลิเกไปเจาะตลาดคนญี่ปุ่น ลิเกเราทั้งหน้าหล่อด้วย หน้าสวยด้วย”

ยกของดีเมืองไทยไปไว้ในงานแบบอิ่มทุกมิติ มีลิเกแล้ว ยังมีเพลงอีสานด้วย
“ปีนี้เราชูโรงด้วยการใช้เพลงอีสาน หมอลำ เราใช้จังหวะเพลงอีสานไปเปิดในงาน และใช้เป็นเพลงโปรโมตงานเลย คือเราอยากจับอะไรในมุมที่ทุกคนมองว่ามันดีได้แค่ในบ้านเรา แต่มันจะเป็นอินเตอร์ได้ ก็เลยอยากจะเอาอีสานโกอินเตอร์ อยากทำลิเกให้โกอินเตอร์ มุมเดิมๆ ที่เราทำมาเรารู้ว่าเขารับได้อยู่แล้ว แต่ก็อาจจะอยู่ในแค่จุดหนึ่ง เราลองเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ มันก็ไม่มีอะไรเสียหาย เพลงอีสานในครั้งนี้ที่ใช้เป็นเพลงธีมก็ให้เขาแต่งให้ใหม่เฉพาะงานเลย แล้วเราจะทำเพลงอีสาน หมอลำของไทยไปเล่นที่ญี่ปุ่นด้วย

แล้วก็มีกลุ่มคาแรคเตอร์ไทย คุมะมง และตัวญี่ปุ่นอีกหลายตัวที่เป็นมาสคอตประจำจังหวัด ในปีนี้เราจะมีมาสคอตเกือบ 10 จังหวัดของไทย อย่างปาป้า-ทูทู่ จากสมุทรสาคร และยังมีในส่วนของจังหวัดพังงา โคราช จะรวมตัวกันไป และเราได้รับข่าวดี จะมีการเซ็น MOU ของคาแรคเตอร์ไทยร่วมกับสมาคมคาแรคเตอร์ในประเทศญี่ปุ่น เราจะเอามาสคอตไทยไป 2-3 ตัว เอาผู้ประกอบการคาแรคเตอร์ไปในงานนี้ ในขณะเดียวกันเราก็จะมีการเซ็นสัญญาทำความร่วมมือ

การทำความร่วมมือจะเกิดอะไรดีขึ้นบ้าง หนึ่ง เราทำสินค้าที่จะมีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างสองจังหวัดได้ ในอนาคตคุมะมงอาจจะมาเซ็นสัญญากับจังหวัดนี้ จังหวัดนี้ไปเซ็นสัญญากับจังหวัดนั้น เอาของเขามาขาย เอาของเรามาขาย มันเป็นเรื่องของมิตรภาพการร่วมมือซึ่งกันและกัน ที่เราไม่ได้มองเพียงแค่การจัดงาน แต่เรามองว่ามันก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขึ้นด้วย”

เอาหมอดูไทยไปดูดวงให้คนญี่ปุ่น เตรียมทำมูเตลูเฟสติวัล
“เรามีเรื่องของการดูดวงด้วย ปีที่แล้วเราก็เอาไปก็ได้การตอบรับที่ดีมาก หมอดูไทยไปดูให้คนญี่ปุ่น โดยจะมีล่ามคอยแปลให้ ในขณะเดียวกันเราพยายามมองในเรื่องของการต่อยอดธุรกิจ ปีที่แล้วคนมายืนต่อคิวร้อยกว่าคน คนหนึ่งดูประมาณ 15 นาที เรียกว่าหมอดู ล่าม จะเป็นลม สิ่งที่เราจะพัฒนาต่อไปคือการนำเอไอเข้ามา เพื่อจะทำให้การดูดวงสามารถดูได้โดยแอปพลิเคชัน ในสายมูเตลูในอนาคตเรามีแพลนอยากจะทำอุระไน่(URANAI) ที่แปลว่าดูดวง อุระไน่เฟสติวัล จริงๆ มีอยู่แล้วที่ประเทศญี่ปุ่น จัดโดยฟูจิทีวี เขาก็ได้เชิญหมอดูไทยไปออกงานเมื่อปีที่แล้ว จากนี้เรากำลังจะทำให้เป็นอินเตอร์เนชั่นแนล มูเตลูเฟสติวัล

ฟีดแบ็กหมอดูบ้านเราในสายตาคนญี่ปุ่นดีเลยค่ะ เรามองว่ามีตลาดอยู่แล้ว แต่ถ้ามาดูในเชิงลึกมันจะติดในเรื่องของภาษา แต่ถ้าไม่ได้ดูในเชิงลึก เช่น ดูลายเซ็น สีมงคลที่เหมาะกับธาตุของคุณ ควรจะใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร สีเสื้อผ้าที่ควรใส่ เราจะไม่ได้ดูในแบบหมอดู เข้าทรง แบบนั้นไม่มี จะดูในเรื่องความเป็นจริงสากล เป็นศาสตร์ที่เชื่อถือได้ และมันเอามาประยุกต์ได้กับสินค้าไทยด้วย เวลาเราบอกคุณจะใช้น้ำหอมกลิ่นไหนที่เข้ากับคุณ เราก็เลือกให้มันตรง ให้มันเข้ากับเรา ร่วมถึงเรื่องของจิวเวลรี่ด้วย”

เทหน้าตักทุ่มเกือบ 60 ล้านจัดงาน
“การไปจัดงานในครั้งนี้เป็นงานฟรีอีเวนต์ เราก็ได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ค่าย ด้วยการจัดงานของเรา 2 วัน เราใช้ไปเกือบๆ 60 ล้าน ก็ต้องขอขอบคุณทั้งในส่วนของศิลปิน นักแสดงที่ร่วมงานกันมา เราทำ JAPAN EXPO มาเกือบ 20 ปีแล้ว ถ้าพูดถึงการไปทำงานที่ญี่ปุ่น จะเป็น THAI EXPO คนที่เคยร่วมงาน JAPAN EXPO ก็มาร่วมงาน THAI EXPO มันคือคำว่ามิตรภาพระหว่างสองประเทศจริงๆ ที่จะสานต่อไปสู่ธุรกิจได้โดยที่เราไม่ได้มานั่งพูดเรื่องของธุรกิจก่อน

มันก็คืองานคอนเสิร์ตเฟสติวัลดีๆ นี่เอง ที่เราสามารถเก็บเงิน แต่เราเลือกที่จะเป็นงานฟรีอีเวนต์ เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาบริโภคโดยไม่ได้มองว่าฉันไม่ชอบศิลปินคนนี้ฉันไม่ไป ฉันไม่ชอบประเทศไทยฉันก็ไม่ไป ศิลปินนี้อยากให้ชาวบ้านรู้แต่ก็ยังไม่มีแฟน แล้วเมื่อไหร่มันจะเกิด เพราะทุกคนมัวแต่คิดว่าใครจะได้เงินก่อน ฉะนั้นคุณอาจจะเป็นคนที่ดังในประเทศไทย แต่คุณอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักเลยในประเทศญี่ปุ่น แต่คุณไม่สนใจจะไปสร้างฐานที่นั้นเหรอ ถ้าเราไม่ก้าว มันก็จะไม่มีหนึ่ง ไม่มีสอง ตรงนี้มันคือความร่วมมือของทุกคน ซึ่งเราไม่ได้เป็นคนเลือก หลายๆ คนเสนอและเข้ามาร่วมและช่วยเรา แต่เราก็จะคัดด้วยส่วนหนึ่งว่า คุณจะต้องมีผลงานที่ญี่ปุ่น คุณมีแฟนคลับอยู่ที่ญี่ปุ่นหรือคุณพอจะมีฐานบ้างอยู่ในญี่ปุ่น”

ควักเงินจัดงาน 60 ล้าน แต่ให้เข้าชมฟรี เมื่อถามว่าได้อะไรจากการทำสิ่งนี้ เจ้าตัวก็บอกว่าได้ความภูมิใจ และต่อยอดธุรกิจให้ไทย
“ถ้าจะพูดแบบนางงามคือเราได้ความภูมิใจ ที่เราเป็นส่วนหนึ่งของคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ ถ้าพูดจากใจจริง เราเป็นคนที่ทำกับคนญี่ปุ่นมาเยอะ เราโปรโมตญี่ปุ่นในประเทศไทยมาเยอะมาก ตลอดชีวิตของเราทำอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นมาโดยตลอด การจัดงาน JAPAN EXPO ก็ดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทย มีศิลปินเช็กอินกี่ร้อยคนว่ามาอยู่เมืองไทย มันคือการคืนกลับ แต่มันอาจจะเป็นทางอ้อมที่เรามีคอนเทนต์คือญี่ปุ่น ไม่พูดถึงแฟนคลับอีกหลายประเทศที่บินตามมาอีกเท่าไหร่ที่ตามมาดู เขามาไทยเพื่อที่จะได้กิจการร่วมค้าเพื่อจะเปิดธุรกิจต่อ เรากำลังสร้างเศรษฐกิจ สร้างเงินหมุนเวียนในประเทศจากการใช้คอนเทนต์ญี่ปุ่น เราทำในประเทศไทย แล้วเราก็ดึงเม็ดเงินมาเข้าไทยด้วย

ด้วยวันเวลาที่เราทำมาเกือบ 20 ปีกับญี่ปุ่น ด้วยจุดๆ หนึ่งเราก็มองว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะลองไปบุกที่ญี่ปุ่นโดยเอาไทยไปบ้าง ถามว่าง่ายไหม ไม่ง่ายเลย คุณจะหาเงินยังไง สิ่งที่เราได้จากตรงนี้เราได้มาจากการขายบูธ การที่บริษัทเอกชนเล็งเห็นอยากจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เรามารวมกัน แน่นอนไม่มีใครอยากขาดทุน เราแบกรับประเทศได้ แต่ถ้ามันหนักเราก็คงทำได้เพียง 1-2 ครั้ง”

ใช้เงินตัวเองเป็นหลักในการจัดงาน มีสปอนเซอร์น้อยมาก หากใครอยากร่วมมือกันสามารถเข้ามาสนับสนุนได้
“สปอนเซอร์ไม่เยอะ อันดับแรกทุนเราเอง ถ้าเรามองและรอว่าให้คนอื่นมาช่วย เราเห็นตัวเลขเจ๊งมาอยู่ข้างหน้าแล้วเรื่องอะไรจะไปเสี่ยง ง่ายจะตายกับการที่เราจะกัดฟันและเชื่อมั่นและเราจะต้องทำ ตรงนี้มันไม่ได้อาศัยแค่ความกล้า มันต้องอาศัยความบ้าไปด้วย ที่สำคัญคือนอนไม่หลับ ทุกวันนี้ผมขาวไปวันละครึ่งแล้ว (หัวเราะ) เพราะคิดว่าเราจะไปได้เงินจากตรงไหน

ความรักประเทศ ความสนุก การร่วมพลังกันอย่างมหาศาล สิ่งที่เราต้องการคือเราอยากเห็นว่าใครจะเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำ มันหนีคำว่ากล้าเสี่ยงไม่ได้ แต่ไม่มีใครมาคิดหรอกว่าคุณบ้าขนาดที่ว่าคุณไม่ได้เงินแล้วคุณก็ยังจะทำเหรอ ไม่จริงหรอก คุณจะเป็นนางฟ้าช่วยประเทศขนาดนั้นเหรอ คุณต้องซัมติงได้อะไรแหละมันมีคนคิดแบบนี้ เราห้ามความคิดคนไม่ได้ สิ่งที่เราต้องทำคือเราต้องไม่หลุด ไม่แกว่งกับสิ่งที่เรามั่นใจ

ในวันแรกที่เราจัด JAPAN EXPO เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เรารู้สึกเหมือนวันนี้เลยที่คนตั้งคำถาม ทำไปเพื่ออะไร คุณเป็นอาสาสมัครเหรอ คุณรักญี่ปุ่นอะไรมากมายขนาดนั้น คุณทำไปเพื่ออะไร เราฟังแล้วเราจะร้องไห้ ก็จะมีคำถามว่าแล้วต้องการอะไร เราบอกได้ชัดมากๆ คือต้องการเงินช่วยจัดงานค่ะ คำถามที่ตามมาคือมั่นใจได้ไงว่าจะมีคนมางานคุณ เอาอย่างนี้แล้วกันจัดไปก่อน 1-2 ปีแล้วคุณค่อยเข้ามาเสนอใหม่ ที่ผ่านมามันเป็นแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลพูดถึงซอฟต์พาวเวอร์ ถ้ารัฐบาลดูแล้วว่าตรงนี้มันไม่ซอฟต์พาวเวอร์ ก็ไม่รู้จะมองตรงมุมไหน

ทุกวันนี้เราไม่บังคับใครอยากมาร่วมก็มา ไม่อยากมาร่วมก็ไม่ต้องมา เราเต็มที่ที่สุดกับการยกคอนเทนต์มหาศาลไปในเดือนหน้า ทุกคนมีความมุ่งมั่นเดียวกันคือเรากำลังจะไปสร้างรอยยิ้ม เรากำลังจะเอาวัฒนธรรมไทย ศิลปะความเป็นไทยไปเผยแพร่ แต่เรากำลังต่อสู้กับอีกร้อยแปดพันเก้า การรวมพลังตรงนี้เดี๋ยวมันจะย้อนกลับมาให้เห็นเองว่าสิ่งที่ทำตรงนี้มันเกิดผลกับประเทศชาติมากยังไง

เราจัดงานที่สวนสาธารณะโยโยงิ ในเขตชิบุยะง่ายๆ เหมือนเราจัดงานที่ใจกลางสยาม เราไม่ได้มีตั๋วเข้างาน ใครอยากมาร่วมก็มาร่วม ในส่วนของรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็เวลคัมอยากที่จะมาร่วม กระแสจากทางญี่ปุ่นก็ดี มีสื่อหลายที่ติดต่อขอสัมภาษณ์ อยากเข้ามาทำข่าว เราอาจจะใช้เม็ดเงินนึงโยนไปขึ้นบนรถไฟ ขึ้นบนแอลอีดี แล้วมันก็หมดไป แต่สิ่งที่เรากำลังจะไป มันไม่หมดไปเพราะเราไปสร้างความทรงจำให้กับคน เราไป 2 วันแต่เป็น 2 วันที่อาจจะสร้างแรงบันดาลใจ สร้างการรักแรกพบ และอีกหลายสิ่งให้กับคนที่ญี่ปุ่นที่เปิดรับประเทศไทยในอีกหลายมิติ ก็ไม่รู้ว่ามันจะประสบความสำเร็จขนาดไหนหรือจะออกมาเป็นอย่างไร วันนี้เราทำเกินร้อย แล้วเราจะไม่ผิดหวังกับสิ่งที่เราทำเต็มที่แล้ว”

มั่นใจว่างานนี้จะเปิดประตูให้ความเป็นไทยได้มหาศาล
“คิดว่าเยอะเลย เราเอาคนเล่นซีรีส์ไป เราแพลนทำต่อเลยในเดือน 9 เราจะมีแฟนมีตติ้งในประเทศญี่ปุ่น เราจะทำแฟนมีตติ้งของ BL ต่อ ของแฟชั่น ในงานเดือนหน้านี้เราจะสานต่อแฟชั่นด้วยการใช้ธีมผ้าขาวม้า ทำเป็นแลนด์มาร์คให้ถ่ายรูป ด้วยการเอาผ้าขาวม้ามาเย็บเป็นพวงมาลัยขนาดใหญ่แขวนในงาน เราเตรียมเอาผ้าขาวม้าไปร่วมมือทำแฟชั่นโชว์ เรามีผ้าของชุมชนที่เตรียมพัฒนาทำให้เป็นสากล มาร่วมคอลแลปกับคุณชิบุยะ ซานี่ จะมาทำแฟชั่นโชว์ อาจจะไม่ใช่แค่ผ้าขาวม้า แต่จะมีผ้าของชุมชมอย่างผ้าย้อม ผ้าคราม เราจะมีน้องๆ มาเดินแบบในงาน จะมีมุมแฟชั่นเล็กๆ ที่เรานำเสนอ

ของคนไทยจะพูดในมุมนี้มันยากที่จะบอกว่าแบรนด์นี้อินเตอร์ มันก็จะมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ แต่พอมันเป็นเรื่องของชุมชน มันไม่ได้อยู่ในสายตาคนญี่ปุ่นเลย ซึ่งจริงๆ แล้วคนญี่ปุ่นชอบผ้าแฮนด์เมดมาก เขาชอบพวกงานแฮนด์เมด ของงานที่ให้คุณค่ากับการประดิษฐ์ประดอย ซึ่งมันกำลังจะหายไปในโลกอนาคตที่มันมีเทคโนโลยีเข้ามา เรามองว่าเป็นเรื่องดีที่ต่อไปญี่ปุ่นอาจจะอยากมาซื้อผ้าไทยเอามาทำเป็นกิโมโน ยูกาตะ เป็นผ้าพันคอหรืออะไรก็ได้ เรายังชื่นชมผ้าเขาเลย ในขณะที่บ้านเราผ้าดีๆเยอะแยะ เราไม่เคยนำมุมนี้ไปนำเสนอ ถ้ามีเงินมากกว่านี้จะทำนิทรรศการเลยนะ”

จัดที่ญี่ปุ่นมา 2 ปีแล้ว แต่ไม่มั่นใจจะมีปีที่ 3 หรือไม่
“ยังไม่รู้เลย เอาปีนี้ให้รอดก่อน เดี๋ยวดูผลของปีนี้ว่ามันดีไหม เชื่อว่าไม่มีคนบ้ากว่านี้อีกแล้ว มีแต่คนบอกว่าทำไมไม่คิดเงิน ญี่ปุ่นเขาพร้อมจ่ายอยู่แล้วเพราะเขารู้ว่าเป็นงานที่มีต้นทุน แต่ด้วยเรื่องของตัวสถานที่และความรู้สึกที่เราไม่อยากจะเก็บเงิน ไม่ใช่ว่าเราไม่มั่นใจในคอนเทนต์เรานะ แต่รู้สึกว่าอยากเปิดให้กับคนที่ยังไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยก็มางานนี้ได้ ให้เขาลองก่อน เหมือนเรามาร้านขนม เราให้คนชิมก่อน บางคนไม่ได้ตั้งใจมาซื้อ ชิมเสร็จติดใจมาเป็นลูกค้าประจำ บางคนชอบอยู่แล้วมากินอีกก็แนะนำคนต่อ เราก็ไม่รู้ไง แต่เราเป็นคนให้ก่อน”

คนที่มาเที่ยวในงาน ได้ความสนุกสุขใจแล้วยังได้บุญด้วย
“ในงาน THAI EXPO เรามี 2 บูธเป็นแชริตี้ ก็จะมีศิลปินไปสลับขายของ เราตอกย้ำความเป็นไทยในทุกส่วน เราเลือกโครงการที่จะเป็นโครงการไปช่วยเหลือเด็ก จะเป็นมูลนิธิ SOS Children's Villages Thailand ให้โอกาสเด็กที่เกิดมาโดยไม่มีพ่อแม่ ซึ่งเราจะมอบรายได้จากงานในครั้งนี้ให้กับมูลนิธิ”

ในงานมีไฮไลต์พิเศษมากมายจัดเต็มทั้ง 2 วัน คาดหวังอยากให้คนไปร่วมงานเยอะๆ
“เราเอาคอนเทนต์ไปขนาดนี้แล้วก็หวังว่าจะมีคนไปร่วมงานเยอะๆ ทั้งคนไทยที่อยู่ที่โน่น คนญี่ปุ่นที่ชอบประเทศไทย หรือคนที่ไม่รู้จักประเทศไทยแล้วอยากจะมาลองเที่ยวในงาน มาเที่ยวในโซนไหนก็ได้ที่คุณชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง อาหารการกิน มวย ลิเก ซีรีส์วาย หรือโซนไหนก็ได้ เรามีความคาดหวังอยากให้คนมาร่วมงานอย่างน้อยวันละ 1 แสนคน ปีก่อนเราจัดงาน THAI FESTIVAL ก็มีคนมาร่วมงาน 3 แสนคน ใน 2 วัน ส่วนปีนี้งานจะเริ่มตั้งแต่ 10.00 น. - 20.00 น. บินตามกันมาได้ กินได้ ดื่มได้ นั่งเอ็นจอยได้ มีอะไรให้ดูกันทั้งวันเลยค่ะ”

“เกิร์ล ยุพเรศ เอกธุระประคัลภ์” ทุ่มเกือบ 60 ล้านจัดงาน “ไทย เอ็กซ์โป โตเกียว 2024”





























กำลังโหลดความคิดเห็น