ถ้าพูดถึงหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดในช่วงทศวรรษ 2020 คงไม่มีใครกล้าหลงลืมหรือมองข้ามผลงานของผู้กำกับ “ไท เวสต์” ไปได้ โดยหนังทั้งสองเรื่องที่ปล่อยออกมารัว ๆ เมื่อปี 2022 ทั้ง X และ Pearl ล้วนได้รับเสียงชื่นชมอย่างยอดเยี่ยม
X และ Pearl สร้างขึ้นมาภายใต้ชายคา A24 ค่ายหนังอินดี้ที่สร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการส่งหนังอย่าง Moonlight เข้าไปคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ และที่ฮือฮามากที่สุดเมื่อปีสองปีนี้ก็คือ ผลงานอย่าง Everything Everywhere All At Once กวาดรางวัลใหญ่บนเวทีออสการ์ไปถึง 7 รางวัล (รวมทั้งหนังยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม) ขณะที่ The Whale คว้าไป 2 รางวัลและทำให้นักแสดงอย่างแบรนเดน เฟรเซอร์ กลับมาสู่จอเงินได้อย่างสง่างาม
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่า A24 มาพร้อมกับความหลากหลายในแนวทางการทำหนัง ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ทำได้ยอดเยี่ยมคือหนังสยองขวัญ โดยมีผู้กำกับที่ได้รับการพูดถึงมากอีกคนหนึ่ง คือ อาริ แอสเตอร์ เจ้าของผลงานสุดหลอนทั้งสองเรื่อง อย่าง Hereditary และ Midsommar
และแน่นอนว่า อีกชื่อหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นคนนี้ นั่นก็คือ “ไท เวสต์” (Ti West) ที่หลายคนกำลังรอคอยผลงานใหม่ของเขาเรื่อง MaXXXine (แม็กซีน) ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนังปิดไตรภาค ต่อจาก X และ Pearl ซึ่งถือว่าเป็นหนังสยองขวัญอีกชุดหนึ่งซึ่งดีที่สุดในยุคนี้
X และ Pearl นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในการเสิร์ฟความลุ้นระทึกให้กับคนดูและเล่นกับความตายของตัวละครได้แบบโหด ๆ แต่ยังมาพร้อมกับเนื้อหาเรื่องราวที่ขบคิดแล้วสะเทือนใจไปกับโลกของตัวละคร
อันที่จริง หนังทั้งสองเรื่องของ “ไท เวสต์” นอกจากจะเป็นหนังสยองขวัญแนว Slasher Film หรือแนวไล่เชือดแล้ว ในมุมหนึ่งเปรียบเสมือนเป็นการคารวะหรือระลึกถึงหนังแนวหนึ่งซึ่งเคยเฟื่องฟูมากในยุค 1970-1980 โดยหนังแนวนี้เรียกกันว่า Exploitation Film ที่องค์ประกอบของเรื่องราวในหนัง มักจะเกี่ยวข้องกับความรุนแรง เซ็กซ์ ความโหดเลือดสาด (และบ่อยครั้งก็มีอารมณ์ขันแบบตลกร้ายแซมบ้าง) ดังนั้น ถ้าใครคุ้นเคยกับหนังแนว Exploitation Film ก็คงจะบันเทิงเต็มอิ่มแน่นอนกับผลงานของ “ไท เวสต์” แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คนที่ไม่คุ้นชินจะไม่บันเทิง เผลอ ๆ อาจจะรักและชอบมากขึ้นด้วยซ้ำ
เหตุการณ์ในเรื่อง “เอ็กซ์” (X) เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1979 ซึ่งยุคนั้นของอเมริกา คำว่า “อเมริกัน ดรีม” เปรียบเสมือนคาถาที่ร่ายมนต์ใส่หัวใจคนให้คึกคักลุ่มหลง โดยคำนี้มีความหมายในเชิงกระตุ้นกำลังใจให้กับผู้คน โดยเฉพาะคนตัวเล็กในสังคม (ไม่ใช่ตัวเล็กเพราะรูปกาย แต่เล็กด้วยต้นทุน) หรือคนที่อพยพมาจากถิ่นอื่น ด้วยเชื่อว่า ในอเมริกา ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือมีต้นทุนชีวิตน้อยเพียงใด แต่ทุกคนสามารถเติบโตมั่งคั่งมีชื่อเสียงโด่งดังได้ ขอแค่มีความฝันความมุ่งมั่น นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า อเมริกัน ดรีม
“เอ็กซ์” เล่าถึงตัวละครกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความฝันที่จะโด่งดังบนเส้นทางการสร้างหนังสำหรับผู้ใหญ่ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือหนังโป๊ โดยโปรดิวเซอร์ที่อายุเยอะกว่าคนอื่นกำลังคิดสร้างหนังเรื่องใหม่ที่เขาเชื่อว่าจะต้องดังเปรี้ยงปร้าง ซึ่งเขาได้เช่าบ้านหลังหนึ่งในเขตชนบทเป็นสถานที่ถ่ายทำ โดยไม่รู้เลยว่า สองตายายที่เป็นเจ้าของเคหาอันเงียบสงบนั้น จะนำพาเรื่องราวสุดหลอนระทึกมาสู่ตนเอง
สำหรับการเป็นหนังที่เล่าถึงการสร้างหนังโป๊ “เอ็กซ์” ก็ทำให้เราเห็นกระบวนการถ่ายทำสไตล์หนังโป๊ทุนต่ำตามสมควร แต่ถึงทุนจะต่ำ แต่ก็เต็มไปด้วยความพยายามและมีความเซ็กซี่ให้รู้สึกคึกคักพอหอมปากหอมคอ ตามธรรมดา “ของมันต้องมี” ใน Exploitation Film อย่างที่บอก อย่างไรก็ตาม การแสดงกิจกรรมบนเตียงตลอดจนการเปิดเผยเนื้อหนังมังสาของเด็กสาวที่เข้าฉาก กลับกลายเป็นมีความสำคัญในแง่ของการไปกระตุ้นเร้าบางสิ่งของคนบางคนให้คุโชนขึ้นมาอีกครั้งราวกับปีศาจในวันเก่าก่อนที่ตามหลอกหลอนไม่สิ้นสุด
สิ่งที่กล่าวถึงนี้หมายถึงอะไร ก็คงต้องไปดูกันต่อในเรื่อง Pearl ซึ่งเป็นการพาเราย้อนกลับไปหาปฐมเหตุที่มาว่าเพราะอะไร เด็กสาวที่สดใสร่าเริงมีชีวิตชีวาและเปี่ยมด้วยความฝัน ถึงกลายเป็นเช่นนั้นไป ซึ่งหากเล่าไปก็คงเป็นการลดทอนอรรถรสในการรับชม แต่ต้องบอกเลยว่า หนึ่งในปัจจัยที่สร้างความหลอนได้เป็นอย่างดีคือ พฤติการณ์ของตัวละครที่เหนือความคาดหมายไปไกลและไม่คิดว่าจะทำอย่างนั้น ขณะที่รอยยิ้มสุดท้ายในเรื่อง Pearl ก็คงเป็นรอยยิ้มหลอนประหลาด ๆ ที่จะอยู่ในความทรงจำของคนดูไปอีกนาน เพราะนักแสดงอย่าง “มีอา ก๊อธ” ถ่ายทอดรอยยิ้มนั้นออกมาได้ดีเหลือเกิน
สำหรับคนที่ชอบดูหนังสยองขวัญ ต้องบอกว่า X กับ Pearl สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี มันเป็นหนังที่ดูไม่ยากและเสพซับอารมณ์ลุ้นได้อย่างง่ายดาย มีฉากหลายฉากซีนหลายซีนที่ทำให้เราลุ้นได้อย่างประหลาด อย่างฉากการลงเล่นน้ำแล้วลุ้นว่าจระเข้จะงับทันไม่ทัน เรื่องพื้นฐานง่าย ๆ แบบนี้ แต่หนังกลับทำออกมาได้ดีเกินคาด หรือฉากการฆาตกรรมที่ปั่นประสาทน่าหวาดกลัวเพราะดูรุนแรง เช่น ฉากแทงคอ แทงตา หรือแม้แต่ทุบมือ แม้จะเป็นภาพที่เราเคยเห็นมาแล้วในหนังแนวนี้เรื่องอื่น ๆ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกระทึกใจเมื่อได้เห็นภาพนี้อีกครั้ง ซึ่งหนังทำออกมาได้ดีด้วยมุมกล้องหรืออะไรก็ตามแต่
นอกจากนั้น ประเด็นความคิดยังคงเป็นสิ่งที่สัมผัสจับต้องได้และพาเราก้าวเข้าสู่การทำความเข้าใจในความเป็นมนุษย์ที่มีแรงปรารถนา แต่ทว่าต้องเก็บกลั้นไว้ด้วยเงื่อนไขบางอย่างจนกลายเป็นความกดดันบีบคั้น ความฝันแบบ “อเมริกัน ดรีม” อาจเกิดขึ้นได้กับใครหลายคน แต่ไม่ใช่ทุกคน และนั่นก็นำไปสู่ความไม่สมปรารถนาที่ยากจะรับได้
ความไม่สมปรารถนาในชีวิต เปรียบเสมือนพิษร้าย ที่อาจไม่ใช่เพียงกัดกร่อนจิตวิญญาณตัวเองจนพลังทลาย แต่อาจเป็นชนวนเหตุนำไปสู่การทำร้ายคนอื่นด้วยเช่นกัน
ณ ที่ใดที่หนึ่ง เราได้ยินตัวละครตัวหนึ่งพูดกับตัวละครอีกตัวหนึ่งประมาณว่า สักวันแกก็จะต้องพบกับจุดจบเหมือนฉัน ... แต่สุดท้ายจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ หลายคนกำลังรอคำตอบจาก MaXXXine ที่มีโปรแกรมเข้าฉายในวันที่ 19 ก.ค. 2567 นี้
MaXXXine หรือ “แม็กซีน” เป็นชื่อของเด็กสาวผู้เปี่ยมด้วยความฝันที่อยากจะเป็นนักแสดงชื่อดัง ซึ่งเริ่มต้นเส้นทางการแสดงกับกลุ่มแก๊งหนังโป๊ในเรื่อง X โดยโปรดิวเซอร์ของหนังโป๊ชักชวนเธอเข้ามาสู่วงการและให้สัญญาว่าเขาจะปั้นให้เธอเป็นดาราชื่อดังให้ได้ เพราะเธอมีความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ขณะที่ตัวเธอเองเหมือนจะจมอยู่กับความคิดที่ว่า เธอมันก็แค่สัญลักษณ์ทางเพศเท่านั้นเอง
น่าสนใจว่า ทั้ง X และ Pearl ต่างพูดถึงเด็กสาวที่มีความฝันเหมือนกัน คือฝันที่ต้องการมีชื่อเสียงและก้าวออกไปจากโลกอันจืดชืดน่าเบื่อหน่ายใบเดิมๆ ขณะที่โปสเตอร์ของหนังเรื่อง MaXXXine ซึ่งมีถ้อยคำว่า Hollywood is a Killer แน่นอนว่า ฮอลลีวูดคือดินแดนแห่งความฝันและเป็นโรงงานแห่งความฝันที่ปั้นคนให้โด่งดังมาแล้วมากมาย แต่สำหรับทุกคนหรือไม่? ใช่หรือไม่ว่า ฮอลลีวูด นอกจากจะสร้างคนดังมาแล้วจนนับไม่ถ้วน แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เคว้งคว้างหลุดลอยโดยปราศจากการแยแสใด ๆ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นคำถามสำคัญที่ “ไท เวสต์” กำลังตั้งขึ้นมาให้ร่วมปาฐกในหนังเรื่อง MaXXXine ด้วยคำโปรยว่า ฮอลลีวูดคือมือสังหารหรือนักฆ่า (Hollywood is a Killer)
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเนื้อหาใน MaXXXine จะเป็นแบบใด คงต้องตามไปดูกัน ซึ่งหนังจะเข้าฉายบ้านเราที่โรงหนัง เฮาส์ สามย่าน ในวันที่ 19 ก.ค.67 นี้ นอกจากนี้แล้ว โรงหนังเฮาส์ สามย่าน ยังมีการนำเรื่อง Pearl มาฉายตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 นี้เป็นต้นไป สามารถเข้าไปเช็กรอบฉายได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก : House Samyan