xs
xsm
sm
md
lg

“อีจองแจ“ เปิดปากเรื่องโดนวิจารณ์หนักหลังได้รับบท “ปรมาจารย์เจได” ใน Star Wars

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับชาวเอเชียแต่ในสายตาของแฟนหนัง Star Wars ชาวต่างชาติบางส่วนกลับไม่เห็นด้วยเมื่อ “อีจองแจ” นักแสดงชื่อดังจาก Squid Games ได้รับบทบาทสำคัญอย่าง 'ปรมาจารย์โซล' มาสเตอร์เจได ตัวเอกของซีรีส์ฟอร์มยักษ์จากค่ายระดับโลกอย่างดิสนีย์

ในงานแถลงข่าวซีรีส์ “The Acolyte” ของ Disney Plus ได้จัดขึ้นที่กรุงโซล เกาหลีใต้ โดย อีจองแจ ได้มาร่วมพูดคุยกับสื่อด้วยตนเอง

“The Acolyte” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญแนวลึกลับเกี่ยวกับความลับ ความจริง และอำนาจมืดในกาแล็กซีที่เกิดจากการสืบสวนของ เจได เกี่ยวกับอาชญากรรมต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้น อีจองแจ รับบทเป็น โซล ปรมาจารย์เจได ที่ติดตามเกี่ยวกับอาชญากรรมต่างๆที่เกิดขึ้น

ในบรรดาหนัง Star Wars ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ผู้รับบท เจได มักจะได้รับบทโดยนักแสดงผิวขาวชาวตะวันตก แต่เมื่อข่าวการรับบท เจได ที่แสดงโดยนักแสดงชาวเอเชียถูกประกาศออกไป ก็เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนๆ Star Wars ทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ เฮดแลนด์ ผู้กำกับ ได้ออกมาเผยกับ New York Times ว่า “ผมไม่นับว่าคนที่มีอคติ เหยียดผิว หรือใช้คำพูดที่แสดงความเกลียดชังเป็นแฟนของ Star Wars”

จากประเด็นเหยียดเชื้อชาติที่เกิดขึ้น อีจองแจ ได้ยอมเปิดปากถึงประเด็นดังกล่าวโดยระบุว่า

“ผมมองว่าการถกเถียงกันมันเป็นเรื่องธรรมชาติเนื่องจากมีแฟน ๆ ที่หลงใหลในซีรีส์ 'Star Wars' มากมาย”

“มันถูกถ่ายทำโดยเซ็ตฉากอยู่ในอวกาศและยังมีตัวละครเอเลี่ยนอีกมากมายใช่ไหมครับ? ผมเลยเชื่อว่าทุกคนสามารถที่จะคิดได้อย่างอิสระตามที่ต้องการ”

อีจองแจ ยังได้เผยถึงเส้นทางสู่และการทำงานในฮอลลีวูด หลังประสบความสำเร็จจาก Squid Game ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า

“นอกจากจะได้รับข้อเสนอเพิ่มเติมสำหรับโปรเจ็กต์อย่าง 'Star Wars' แล้ว ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ข้อแตกต่างที่สำคัญเพียงอย่างเดียวคือสภาพแวดล้อมการทำงานของผม มันขยายตัวมากขึ้น มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ”

ส่วนระบบการทำงาน ในฐานะที่เขาเองก็เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และผู้กำกับมาก่อน เจ้าตัวก็มองว่ามีความแตกต่างจากการทำงานในเกาหลีอยู่บ้าง

“มีความแตกต่างในบางจุดระหว่างฮอลลีวูด กับระบบเกาหลี แต่โดยรวมแล้วค่อนข้างคล้ายกัน ผมนึกว่าผมจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการไปฮอลลีวูด แต่ผมก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าระบบในภาพยนตร์เกาหลีก้าวหน้าไปมาก ความแตกต่างที่สำคัญเลยมาอยู่ตรงเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในประเภทต่างๆ ตัวอย่างเช่น ‘Star Wars’ จะใช้เทคโนโลยีเยอะมากเพื่อมาทำฉากอวกาศซึ่งปกติแล้วเราจะไม่ได้ใช้อะไรแบบนี้ในภาพยนตร์เกาหลี”

“เนื่องจาก 'Star Wars' มีมาตั้งแต่ปี 1970 เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ประกอบฉากได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา คุณจะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ประกอบฉากไม่ได้ถูกจับวางไว้ตรงนั้นเท่านั้น แต่พวกมันถูกขัดเกลาเพื่อความสมบูรณ์แบบ ฟังจากทีมงานแล้วแต่ละชิ้นมันมีเรื่องราวที่มาที่ไปอยู่เบื้องหลัง นี่เป็นระบบพิเศษที่จะมีเฉพาะใน Star Wars เท่านั้น”













กำลังโหลดความคิดเห็น