“อุ๋ย นนทรีย์” เผยเสียใจที่สุดที่เสียน้องรักไปอีกคน บอก “เมฆ วินัย” เป็นคนที่ตนภูมิใจมาก มีวินัยและความตั้งใจในการแสดงมาก ทำให้หนังเรื่องนางนากและปืนใหญ่โจรสลัดประสบความสำเร็จ บอกติดตามข่าวคราวมาตลอด ไม่คิดว่าจะจากไปเร็วแบบนี้ อยากให้นักแสดงรุ่นใหม่ดูความตั้งใจและมีวินัยของนักแสดงรุ่นพี่คนนี้ไว้เป็นตัวอย่าง
ถือว่าเป็นผู้กำกับที่ทำให้ชื่อของ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” กลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ และกลายเป็น พระเอกร้อยล้าน คนแรกของประเทศไทย จากภาพยนตร์เรื่อง นางนาก ผลงานกำกับของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร” ล่าสุดอุ๋ยได้มาร่วมไว้อาลัยให้กับเมฆ วินัย เผยไม่คิดว่าจะจากไปเร็วแบบนี้ เพราะยังหวังว่าจะกลับมาแสดงได้อีกครั้ง
“ผมทราบข่าวเมื่อเช้านี้ครับ ลูกสาวไลน์มาบอกตอนเช้าว่าเมฆเสียแล้ว ก็แน่นอนว่ารู้สึกเสียใจมากๆ ที่น้องรักคนนึงได้จากพวกเราไปในเวลาอันรวดเร็วไปหน่อย เรารู้จักกันมานานตั้งแต่เราทำแคสติ้งเรื่องนางนากด้วยกัน กับน้องทราย เจริญปุระ และเราก็เป็นคนที่ยืนยันกับบริษัทไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตอนนั้นยืนยันว่าเราขอใช้วินัย ไกรบุตรกับทราย เจริญปุระถ้าไม่ใช่สองคนนี้เราก็จะไม่ทำหนังเรื่องนี้ เพราะเราเชื่อในตัวเมฆ รู้สึกว่าเมฆเป็นคนมีความซื่ออยู่ในดวงตาของเขา เขาสามารถทำให้ผมเชื่อได้ว่าเขาเป็นไอ้มากได้จริงๆ
เมฆเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานมาก และใส่ใจกับการทำงาน ใส่ใจกับบท เขาจะถามเราตลอดเวลาว่าเขาควรจะทำอย่างไร เขาคิดอย่างไร และเป็นคนมีวินัยสมชื่อเขาเลย เขามีวินัยมากในการทำงาน ไม่เคยมาเลท มาตรงเวลาตลอด และมักจะกลับคนหลังๆ เพื่อที่จะมาคอยถามว่าวันนี้โอเคไหม พรุ่งนี้เราจะทำอะไรกันและสิ่งที่สำคัญคือพอผมบอกว่าให้เขาไปทำกล้ามมาอีกหน่อย เมฆเป็นคนที่ให้ความร่วมมือดีมากทุกอย่าง และหลายๆ ฉากที่เราก็ไม่นึกว่าเขาจะกล้าเล่น เราเองยังไม่กล้า เพราะผมเป็นคนกลัวหนู ผมก็บอกว่าต้องมีฉากปล่อยหนูออกไปหาเมฆนะ มันอาจจะกัดนะ เมฆบอกว่ามาเลย เขาพร้อมทำทุกอย่าง ก็น่ารักมาก
แม้กระทั่งฉากที่เขาต้องวิ่งไปในดงหญ้ากก ซึ่งมันบาดตัวมหาศาลมาก เขาก็ยอมทำทุกอย่าง วิ่งกี่รอบก็ได้ขอให้บอกมา นี่เป็นความตั้งใจ และก่อให้เกิดความสำเร็จในตัวเมฆ วินัย ไกรบุตรเอง ด้วยความตั้งใจของเขา ด้วยสิ่งที่เขาใส่ใจในการทำงาน มันทำให้หนังประสบความสำเร็จ และทำให้ตัวเขาเองก็มีชื่อเสียง เป็นพระเอกร้อยล้านคนแรกในประเทศไทย”
บอกความสำเร็จของหนัง ปืนใหญ่โจรสลัด ก็มาจาก “เมฆ วินัย” เช่นกัน
“ก็ติดตามมาตลอดนะครับ อยากเรียนให้ทราบว่าตอนผมทำเรื่องปืนใหญ่โจรสลัด ผมก็เชิญเมฆมาเล่นเป็นอีกาดำ เขาก็ยินดีมากๆ ต้องแต่งตัวนานขนาดไหน เขียนลาย เขียนรอยสักเต็มไปหมด เป็นการทำงานที่ค่อนข้างยาก เมฆก็ถ่ายกับผมมา เราถ่ายหนังเรื่องนี้กันปีนึง หนังมันใหญ่มาก เมฆมาทุกคิว อยู่ในหนังเรื่องนี้เกือบจะตลอดเวลา และพอเราถ่ายหนังเสร็จเราปิดกล้อง ก็มีงานเลี้ยงปิดกล้องกัน แล้วเมฆก็เดินมาหาผมบอกว่าผมไม่เอาสตางค์พี่นะเรื่องนี้ ผมขอขอบคุณที่พี่ให้ผมเป็นผมในวันนี้ เมฆไม่เอาสตางค์เลยแม้แต่คิวเดียว
ก็เป็นความประทับใจมาก เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ใหญ่มาก และต้องการความทุ่มเทมาก เมฆไปหัดเรียนดำน้ำ ไปทำทุกอย่างที่มันต้องอยู่ใต้น้ำ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก เขาสำลักน้ำบ่อยครั้งมากๆ หลายๆ หน แต่ด้วยความที่เราจะเอาให้ได้ ก็ต้องทรมานนักแสดงไปตามเรื่อง แต่ก็ต้องขอขอบคุณจริงๆ เพราะว่าวันนั้นสตางค์ของเมฆก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้สำเร็จครับ”
ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ “เมฆ วินัย” ประสบความสำเร็จ
“หลังจากนั้นก็ยังไม่มีมีโอกาสร่วมงานกันอีกเลยครับ ยังไม่ได้มีโอกาส แต่เจอก็พูดคุยกันตลอด และผมก็ได้ยินว่าเขาป่วย เริ่มไม่สบาย ก็ติดตามถามไถ่ตลอดว่าเขาเป็นยังไงบ้าง ก็เป็นโรคที่นึกไม่ออกว่ามันจะหายหรือเปล่า ก็อยู่ด้วยความหวัง ก็ให้กำลังใจกันอยู่เรื่อยๆ ครับ แต่หลังๆ คุณเมฆก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เปลี่ยนไลน์ เราก็ต้องเช็กไปทางน้องหนุ่ม (คงกระพัน แสงสุริยะ) ว่าติดต่อได้อย่างไรบ้าง เราเจอกันครั้งล่าสุดน่าจะเป็นตอน 20 ปีนางนากที่ฉายหนัง ตอนนั้นคุณเมฆเหมือนอาการจะดีขึ้นมานิดนึง เขาก็มาร่วมงาน เราก็ยังได้พูดคุยกันถึงความหลังที่เราได้เคยทำงานกันมา เขาก็ยิ้มแย้ม วันนั้นเราก็ดีใจมากที่เขาดูราวกับว่าจะดีขึ้น แต่ตอนหลังก็ทราบข่าวว่าทรุดลงไปอีก
คือเราได้คุยกัน เราก็ได้พูดคุยกันว่าเมฆทำอะไรอยู่ เขาก็บอกว่าทำปุ๋ย ทำดิน เราก็เห็นเขาสู้ชีวิตมาตลอด ก็พยายามจะทำมาหากินตลอด พยายามจะมีอาชีพทำโน่นทำนี่ ซึ่งเราก็ชื่นชมนะคนที่ทำงานตลอดเวลาเพื่อดูแลครอบครัว ก็ประทับใจ ช่วงแรกๆ ก็เห็นปุ๋ยกับดินเขาก็ขายดีมาก เราก็ยินดีด้วย ก็ภูมิใจที่เราได้เป็นจุดเริ่มต้นในการที่ทำให้เขาได้กลับมาเป็นดารา เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงอีกครั้งนึง มันเป็นสิ่งที่เราภูมิใจมาก และหลังจากนางนากเมฆเขาก็ไปเล่นเรื่องอื่นเต็มไปหมดเลย เราก็คอยชื่นชมเขา โทรศัพท์ไปบอกว่าพี่ดูแล้วนะ ก็พูดคุยกัน เขาก็ถามว่าพี่วิจารณ์หน่อยสิ มันก็เป็นความภูมิใจของเราที่เราได้เป็นส่วนนึงในการจะขับเคลื่อนให้น้องคนนี้ประสบความสำเร็จ”
อยากให้นักแสดงรุ่นใหม่ดูความมีวินัยและตั้งใจอย่างนี้เป็นตัวอย่าง
“เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ผมว่าเมฆยังสามารถทำงานได้อีกเยอะ เขาวิ่งตลอด เขาออกกำลังกายตลอดเวลา เพื่อที่จะให้ตัวเองแข็งแรงเพียงพอที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่างได้ในชีวิตในโลกใบนี้ ก็เสียดายอย่างยิ่งครับ เขาน่าจะได้ทำงานในวงการบันเทิงต่อไปเรื่อยๆ เมื่อกี้ก็ได้บอกเขาแล้ว อันดับแรกก็อยากให้น้องไปสู่สุคติ พักผ่อนอย่างสงบ และบอกว่าถ้ามีอะไรที่เราเคยล่วงเกินไปอะไรก็ตาม ก็ขอให้อโหสิกรรมต่อกัน และขอให้น้องหลับอย่างสบาย
เมฆเป็นคนที่ความตั้งใจในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญ วินัยการทำงานเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับนักแสดงทุกคน และถ้าทุกคนมีความตั้งใจได้เหมือนกับที่เมฆเขามีความตั้งใจ มีอะไรก็พูดคุยกัน สอบถามกันอยู่ตลอดเวลา ใส่ใจกับการทำงานและทุ่มเทกับแรงกายแรงใจได้อย่างคุณเมฆ วินัย ไกรบุตร ก็ถือว่าน่าจะเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพครับ”