นายธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องการจัดงาน K-Expo Thailand 2023 โดยกล่าวว่า
งาน K-EXPO Thailand 2023 เป็นงานที่จัดขึ้น โดยความร่วมมือของกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และท่องเที่ยว กระทรวงเกษตร อาหาร และกิจการชนบท กระทรวงมหาสมุทร และประมง กระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และพลังงาน และกระทรวงวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และวิสาหกิจเริ่มต้น ร่วมกับ Korea Creative Content Agency (KOCCA) สาธารณรัฐเกาหลี เป็นเจ้าภาพจัด โดยในปีนี้ทางสาธารณรัฐเกาหลีได้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ในการจัดงาน และมีกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นเจ้าภาพร่วมในฝั่งประเทศไทย เป็นงานมหกรรมที่รวมผู้ประกอบการ และผู้ผลิตสื่อชั้นนำทั้งสาธารณรัฐเกาหลีและไทย จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Be Your Next K”
การจัดงาน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนเจรจาธุรกิจ (B2B) การพบกันระหว่างผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่จะทำความรู้จักโดยตรงกับบริษัทชั้นนำในเกาหลีใต้ ที่กำลังมองหาพันธมิตรในประเทศไทย และสำรวจโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยยกระดับการลงทุนของคุณให้สูงขึ้น และส่วนนิทรรศการ (B2C) จัดแสดงอุตสาหกรรมสื่อ K-Content ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี ละคร เกม แอนิเมชัน เว็บตูน แฟชั่น ศิลปะ ฯลฯ รวมถึง กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมทั้งไทยและเกาหลี รวมถึง คอนเสิร์ต K-pop และ T-pop ด้วย
ทางกองทุนฯ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ด้านการส่งเสริมการผลิต การเข้าถึง และใช้ประโยชน์สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ร่วมกับ KOCCA รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ด้านการผลิต เทคโนโลยีการผลิต เทคโนโลยีสื่อ และใช้ประโยชน์สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ร่วมกัน กองทุนจึงได้รับโอกาสในการเข้าร่วมเป็นหน่วยงานร่วมจัด พร้อมนำเสนอกิจกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้ Thailand Pavilion ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับ มาพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต และการผลิตสื่อในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
พร้อมทั้งรัฐบาลได้จัดตั้ง THACCA (Thailand Creative Content Agency) ผลักดัน 11 อุตสาหกรรม Soft power เราสามารถใช้โอกาสนี้ ใช้พื้นที่ในวงการ K-pop สอดแทรกคุณค่าและความต่อเนื่องในการย้ำจุดเด่นผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ก็ดี ละครก็ดี นำเสนอความเป็นอัตลักษณ์ของบ้านเรา เช่น ภาษา อาหาร ประเพณี การไหว้ เป็นสิ่งที่ขายได้ตลอด หากผู้ผลิตสื่อ สามารถสร้างคุณค่า และมีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักมองมุมกลับ เพื่อปรับมุมมองต่อวัฒนธรรมของเราในทิศทางใหม่ ก็จะสามารถแทรกซึมวัฒนธรรมไทย สู่ค่านิยมของประเทศเป้าหมายได้อย่างละมุน และเป็นที่ชื่นชมของคนทั่วโลกไปโดยปริยาย
กิจกรรมใน Thailand Pavilion ประกอบด้วย
- นิทรรศการ Thailand Pavilion โดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
- กิจกรรม Meet & Greet จากศิลปินบอยแบนด์ "7 Moments" และศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป "PiXXiE"
- การแสดง K-Pop Cover Dance จากเยาวชนไทย
- การแสดง Stuntman Show และ Street Dance รวมถึง กิจกรรมเสวนาสร้างสรรค์จากภาคีเครือข่าย อาทิ ThaiPBS , บมจ.อสมท หรือ MCOT, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ , สมาคมการค้าผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีไทย (TDFA) , สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA), ผลงานกิจกรรมโครงการ Thai Media Hackathon (EAC) , บพค.
ทั้งนี้ ขอเชิญชวน ทั้งผู้ประกอบการ ผู้ที่ทำงานด้านแวดวงอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงและประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมงาน โดยงานจัดขึ้นวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2566 แบ่งออกเป็น
- งานจับคู่ธุรกิจ (B2B) วันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยกิจกรรมจับคู่ระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจ (Business Matching) โดยผู้ประกอบการอุตสาหกรรม K-Content จากสาธารณรัฐเกาหลีมากกว่า 150 บริษัท มาพบผู้ประกอบการในไทยแบบ 1:1
- งานแสดงนิทรรศการและคอนเสิร์ต (B2C) วันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ณ ฮอลล์ 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ประกอบด้วยนิทรรศการจาก Thai Pavilion , Korean Pavilion , นิทรรศการ K-Content โดยหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสื่อจากสาธารณรัฐเกาหลี , คอนเสิร์ต K-Pop และ T-Pop จากเหล่าศิลปินชื่อดัง อาทิ "กลัฟ-คณาวุฒิ , KEY (SHINee), ONF, PROXIE, BERRY BERRY