xs
xsm
sm
md
lg

สนิทคนเดียว! “เสนาหอย” ใจหาย “วิลลี่” มึงทิ้งกู เข็ดไม่เป็นเจ้าของรายการทีวีอีกแล้ว (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เสนาหอย” เผยใจหาย “วิลลี่” ขายบ้านเตรียมย้ายไปต่างประเทศ เคยพ้อมึงทิ้งกู วางแผนขายบ้านย้ายไปอยู่อเมริกาด้วยกัน แต่อีกฝ่ายไปเดือนเว้นเดือนเท่านั้น รับอยากให้มีเวลาอยู่กับลูก แค่โหวงๆ เพราะสนิทอยู่คนเดียว เผยเข็ด ไม่กล้าเป็นเจ้าของรายการทีวีแล้ว เจ็บมาเยอะ


ทำเอาใจหาย หลังจากที่ “วิลลี่ แมคอินทอช” ประกาศขายบ้าน 7 ชั้นย่านเอกมัย เพื่อเตรียมย้ายไปอยู่อเมริกา งานนี้ “เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” ก็เผยระหว่างมาร่วมงาน SUPERART CHARITY 33 ปี ซูเปอร์จิ๋ว ส่งต่อความฝันให้น้องได้เรียน รับโหวงๆ เพราะเป็นเพื่อนสนิทคนเดียว



ตอนที่เขาโทร.มาหาผมความรู้สึกแรกคือตกใจ เขาโทร.มาบอกผมว่าเขาจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกา เขาพูดแค่นี้เลยแล้ววางสายไป ไอ้ลี่ มึงทิ้งกู!(หัวเราะ)ตอนนั้นคือวิลลี่จะย้ายไปอยู่อเมริกาเลยเหรอ คำๆ นี้มันทำให้เรารู้สึก เหมือนอะไรมันหายไป เราเคยมองตาคู่นึงที่ร่วมสู้ด้วยกันมาตลอด เขาจะหายไป ตอนนั้นรู้สึกตกใจ และเสียใจ

วางแผนเลยนะ เดี๋ยวกูจะขายบ้านตามไป ย้ายไปอยู่อเมริกาด้วย แล้วซึ่ง ย้ายไปอยู่อเมริกาเลยเหรอ แต่เขาก็โทร.กลับมาว่าจริงๆจะย้ายภรรยาและลูกไปอยู่ที่อเมริกา เขาอยากให้ลูกเขาไปใช้ชีวิตที่อเมริกามากกว่าก็เลยสบายใจขึ้น เขาบอกว่าเขาจะทำงาน เดือนนึง พักเดือนนึงไปหาลูก แล้วกลับมาเดือนนึง แล้วไปใหม่ เออ…ก็ยังดี รู้สึกว่าเรายังมีสายตาคู่นั้นอยู่กับเราอีก”

ตกใจและโหวงเพราะมีเพื่อนที่สนิทอยู่คนเดียว
“ตกใจมาก มันรู้สึกโหวงไปเลย ด้วยผมเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อน เพื่อนที่สนิทกันจริงๆ มีอยู่คนเดียวจริงๆ มันเหมือนมาแกล้ง ใช้เวลาไม่นานที่เขาโทร.มาเฉลย แต่ความรู้สึกเราในตอนนั้นมันเหมือนนานมากเราคิดวางแผนตอนนั้นเลยว่าเราจะขายบ้านได้เท่าไหร่ แล้วจะทำงานยังไง ถ้าจะไป คือคิดในหัวทันที แต่ก็โอเค ดีใจ ที่เขาไม่ได้ไปแล้วไปเลย เพราะเขาบอกว่ายังไงเขาก็ต้องทำงาน เขาอยู่ในวงการบันเทิงมานานแล้ว

ถามว่าเคยพูดกับเขาไหม ว่าเราอยู่ไม่ได้นะถ้าไม่มีเขา ผมกับวิลลี่ไม่ค่อยพูดอะไรแบบนี้กันหรอก คือเรามองตาเราก็รู้แล้วว่าเราจะเอาอย่างนี้ใช่ไหม เวลาไลน์อะไรไปมันไม่เคยตอบใครในวงการเลย ยกเว้นพ่อแม่มั้ง พ่อแม่มันก็คงไม่ตอบด้วย เขาชอบโทร.คุย แต่ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยคุยว่าเราต้องการอะไร เรารู้กันอยู่แล้วว่าเราสองคนต้องการอะไร

เขาไปเดือนเว้นเดือน ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เรากำลังทำช่อง ขายของ เราก็ยังจะทำเหมือนเดิม เพียงแค่ผมอยากให้เขาได้มีเวลาไปอยู่กับลูกจริงๆ แต่ถ้าไปเลยก็ได้แหละ ลูกเดี๋ยวก็โตแล้ว เดี๋ยวเขาก็ไปอยู่กับเพื่อน ก็อยากให้เขามีเวลาอยู่กับลูกมากกว่า ส่วนเรื่องวางแผนซื้อบ้านไปอยู่กับเขา ผมว่าผ่อนบ้านที่เมืองไทยให้หมดก่อนดีกว่า ก็ไปเยี่ยมได้ ไปอยู่บ้านเขา”

เข็ด ไม่กล้าเป็นเจ้าของรายการทีวีแล้ว เจ็บมาเยอะ
ก็ยังจะเป็นนักแสดงรับจ้าง พิธีกรรับจ้างต่อไปอยู่ เพราะเงินดี ตอนนี้ไม่กล้าเป็นเจ้าของรายการทีวีแล้ว เงินเราไม่ได้เยอะมากมายขนาดนั้นเราต้องมีเงินลงทุนเยอะ ค่อนข้างเข็ดเลยเราบอกเลยว่าตอนนั้นเรามองหน้ากันกับวิลลี่ว่าเราจะต้องเปลี่ยนสถานะแล้วนะ เราต้องกลับมาเป็นลูกจ้างแล้วนะ ไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว

เราก็พยายามหาข้อดี หนึ่งข้าวกล่องฟรี สองแอร์ฟรี ทุกอย่างฟรี มีคนจัดการให้หมด ไม่ต้องทำรายการแล้วมองซ้ายไปมองขวาไปแล้วป้ายโล่งเราก็ต้องเปลี่ยนชีวิต หาอะไรทำกันไปในยูทิวบ์ ขายของ ขายอาหารน้องหมา ขายผงผัก เราเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วนครับ ยังแสบตัวไปหมด สำคัญคือเรายังจับมือกันไปด้วยกัน ยังสบายใจกันอยู่ในการเป็นลูกจ้าง ทำธุรกิจแบ่งกันคนละครึ่ง สบายใจกว่าเยอะ เกิดอะไรขึ้นจะได้คนละครึ่ง”





กำลังโหลดความคิดเห็น