“ฮั่น-จียอน” ใกล้เลข 7 แต่ไม่หวั่นอาถรรพ์ตัวเลข เคยคุยเรื่องแต่งงาน แต่ยังติดเรื่องวัฒนธรรม มีลูกหรือไม่มีก็ได้ ไม่ติด ฮั่นรับลดน้ำหนักได้เกินครึ่งทางแล้ว แต่ยังโดนทักอ้วน เมื่อก่อนนอยด์มาก จียอนต้องรับแรงกระแทก แต่ตอนนี้จัดการได้ดี ไม่อยากฟาดกลับลดไม่ลดก็เรื่องของกู!
นานๆ จะเห็นออกงานคู่กัน สำหรับ “ซอ จียอน” และ “ฮั่น อิสริยะ ภัทรมานพ” โดยล่าสุดทั้งคู่ก็ควงมาเผยกลางงาน แฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า “THE LANDING” Autumn/Winter 2023 จากแบรนด์ Silhouette ลั่นความรักเดินทางมาถึงปีที่ 6 ใกล้ปีที่ 7 แต่ไม่หวั่นเรื่องอาถรรพ์ตัวเลข พร้อมเผยเรื่องงานแต่งที่เคยคุยกัน
ฮั่น : “น่าจะ 6 ปีแล้ว”
จียอน : “เรื่องปรับก็มีอยู่เรื่อยๆ ไม่มีอะไรที่เข้ากันได้ทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องค่ะ ทุกคนน่าจะมีประสบการณ์ อะไรที่มันไม่เป็นเรื่อง มันก็จะเป็นเรื่อง ยกตัวอย่างเรื่องกินข้าว นี่เป็นคนที่ลังเลมาก คือเลือกไม่ได้สักที”
ใกล้จะ 7 ปีแล้ว กลัวไหมกับอาถรรพ์เลข 7
จียอน : “ยังไม่ถึงไง แต่ถามว่าเชื่อไหม นี่คนเกาหลีค่ะ (หัวเราะ)”
ฮั่น : “ไม่ค่อยครับ ผมเชื่อตัวเองมากกว่า”
จียอน : “ดูดวงก็มีบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรนะ ไม่มีใครทักในทางที่ไม่ดีนะ”
ฮั่น : “ก็มีทักว่าให้แต่งเมื่อไหร่ ต้องมีลูกในปีไหน แต่ผมรู้สึกว่าเรื่องพวกนั้นมันเป็นเรื่องของเรา หมอดูที่ดูให้ก่อนหน้านี้ 2 คนแล้ว เขาบอกว่าเราจะได้แต่ง คือเขาพูดมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้แต่ง ซึ่งผมก็มีรู้สึกว่า เป็นที่ตัวเราอยู่ดีแหละ”
เคยคุยเรื่องแต่ง แต่ยังติดเรื่องวัฒนธรรมที่ต่างกัน
ฮั่น : “ก็เคยคุยวางแพลนกันบ้าง แต่มันด้วยเรื่องของวัฒนธรรมด้วย ถ้าแต่งก็ต้องมีทั้งที่เกาหลีและที่ไทย ครอบครัวพี่จีเขาก็ไม่ย้ายมาอยู่ประเทศไทยแน่นอน ซึ่งก็ต้องดูว่าตอนเราแต่งเรา ต้องใช้งบยังไงเท่าไหร่ มีหลายเรื่องเป็นองค์ประกอบด้วย”
จียอน : “ใช่ มีทั้งครอบครัวทางโน้นด้วย ครอบครัวทางนี้ด้วย เพื่อนๆ ด้วย กลัวจะงอนกัน (หัวเราะ)”
ฮั่น : “ถามว่าเมื่อไหร่ ผมว่าไม่น่าจะเกิน 80 นะ (หัวเราะ)”
มีลูกหรือไม่มีก็ได้
จียอน : “เรื่องลูกเหรอคะ ต้องแต่งงานก่อนไหม (หัวเราะ) แต่จริงๆ คุณแม่ก็บอกให้ฝากไข่ก่อนไหม ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่อายุ 30 แต่ป่านนี้ก็ยังไม่ได้ไปเลย เมื่อก่อนตอนเด็กๆ อยากมี แต่พอตอนนี้สถานการณ์โลกเปลี่ยนก็กลัว กลัวที่จะให้เด็กๆ เจออะไรที่ไม่ควรเจอ ก็เลยคิดหนัก แต่ตอนนี้ก็มีน้องหมาแล้วไงคะ ก็เลยรู้สึกฮีลใจ”
ฮั่น : “ถ้าถามผมก็ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ มีก็ได้ ใช้คำนี้ดีกว่า มีก็ได้หรือไม่มีก็ได้ ส่วนตัวผมเป็นคนรักอิสระในการใช้ชีวิตค่อนข้างเยอะ แต่ว่าเคยคุยกันถึงขั้นที่ว่า สมมติเรามีลูกจะเป็นยังไง ก็ออกมาว่าน่าจะเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง เราไม่สามารถที่จะตอบได้ตอนนี้ ว่าความรู้สึกเป็นยังไง”
จียอน : “ถ้ามาเป็นธรรมชาติโอเค”
ฮั่น : “ตอนทำต้องตั้งใจ (หัวเราะ) แต่ตอนมีอันนั้นคือไม่รู้”
ลดน้ำหนักเกินครึ่งทางแล้ว ต้องต่อสู้กับตัวเอง
ฮั่น : “ลงมาเกินครึ่งทางแล้วนะ ลงมา 24-25 กิโลแล้ว เหลืออีก 10 กว่ากิโล ก็จะกลับไปเหมือนเดิม”
จียอน : “เดี๋ยว (หัวเราะ)”
ฮั่น : “ไม่ๆ มันจะไม่เหมือนแต่ก่อน ก็จะเป็นเวอร์ชั่นน่าจะดีกว่าแต่ก่อน เทรนเนอร์ผมเขาบอกว่าประมาณนี้กำลังดีแล้ว เพราะตอนนี้เราโตขึ้น ไม่อยากให้ผอมมากเกินไป ถามว่าอยากลำบากไหม เอาจริงๆ เรื่องการออกกำลังกาย มันก็ยากประมาณหนึ่ง เราสู้กับตัวเอง แต่ที่ยากกว่าคือสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา เพราะว่าบางทีเขาทักเราโดยที่เขาไม่คิดอะไร เขาก็จะแบบ เฮ้ย…ไม่เห็นผอมลงเลย วิ่งทั้งวัน แต่ในความเป็นจริงคือเขาดูเราจากโทรศัพท์ ในสตอรี่แค่แป๊บเดียว แล้วเขาไม่รู้ว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ก็ไม่อยากที่จะไปบอกว่า มันก็เรื่องของกู กูจะลดหรือไม่ลดมันก็เรื่องของกู (หัวเราะ) ก็ไม่อยากพูดอะไร เพราะมันเป็นเรื่องที่เราต้องก็สู้กับตัวเอง พิสูจน์มันไป”
นอยด์ถูกวิจารณ์ แต่ตอนนี้จัดการได้ดีขึ้นแล้ว
ฮั่น : “ช่วงแรกๆ นอยด์มาก พี่จีเขาจะเป็นคนรับแรงกดดันตรงนี้ค่อนข้างเยอะ เอาสถานการณ์จริงเลย ผมไปจังหวัดหนึ่ง แล้วมีคนเดินเข้าห้องน้ำมาคนพูดว่า ไอ้ฮั่นแม่-อ้วนจังเลยวะ แต่แฟนเขาคือทักผมก่อนขอถ่ายรูป แล้วตัวผู้ชายเดินมาห้องน้ำแล้วเขาตะโกนคุยกัน พอผมเดินออกไปก็ถาม แล้วมันยังไงเหรอครับ ถามว่าเราอ้วนไม่ได้เหรอหรือว่ายังไง แล้วก็เอามาเล่าให้พี่จีฟัง เหมือนเขาก็รับความเครียดจากเราไป แต่ตอนนี้ผมจัดการเรื่องพวกนั้นได้ดีมากแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร ต่อให้ใครมาทักก็แล้วไง อ้วนก็อ้วน เราเป็นแบบนี้จะให้เราทำยังไง จริงๆ ค่อนข้างที่จะไม่ได้ตามใจปากเหมือนช่วงโควิด ตอนนั้นกินหมูปิ้ง 40 ไม้ แต่ตอนนี้กิน 5 ไม้ก็จะอิ่มแล้ว”
จียอนรับแรงกระแทกน้อยลงแล้ว
จียอน : “น้อยลงแล้วค่ะ แต่แค่รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกเขาเวลาไปไหน คนชอบพูดมาก่อนไง แต่เราห้ามทุกคนไม่ได้ (มีคำไหนที่รุนแรงที่ได้ยินมา?) ไปซื้อของแล้วเขาทักว่าทำไมไม่เห็นผอมลง ทำไมยังอ้วนเหมือน คือเขาไม่เห็นชีวิตเรา เขาเห็นแต่ในโทรทัศน์ เขาไม่รู้ว่าเราพยายามขนาดไหน จริงๆ ลดลงกว่า 20 กิโลมันไม่ใช่ง่ายไง เราทุ่มเทไปออกกำลังกายทุกวัน ก็ปรี๊ดแต่เราก็เก็บไว้”
ก่อนว่าใครให้หันดูตัวเองก่อน
ฮั่น : “ถ้าเป็นผมอยากจะฝากว่า ทุกคนก็อยากจะเห็นอะไรเพอร์เฟกต์ ผมเข้าใจ แต่ก่อนที่เราจะไปบอกว่าคนนั้นคนนี้เป็นยังไง ต้องหันไปดูตัวเองก่อน ว่าคุณเพอร์เฟกต์ในสิ่งมีที่คุณเป็นหรือยัง แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะพูดจริงๆ คือผมคิดไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าถ้าทำได้ตามที่ผมต้องการ ผมก็จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เขากำลังสู้กับตัวเองอยู่ ว่าผมผ่านมาแล้ว ถ้าผมทำได้ ก็ไม่มีทางที่คุณจะทำไม่ได้ครับ”
