ยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่องสำหรับการโชว์บนเวที Crazy Horse ของ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า BlackPink” ที่ล่าสุด “ดีเจปูเป้ ภาธีตา กันตามระ” จากคลื่น MET107 FM. ที่มีโอกาสได้ไปชมการแสดงรอบแรกของไอดอลสาวชาวไทย ก็ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดคร่าวๆถึงการแสดงที่เกิดขึ้นภายในโรงละคร
ดีเจปูเป้ ได้ต่อสายตรงไปยังรายการวิทยุของคลื่น MET 107 เข้าไปพูดคุยถึงรายละเอียดของโชว์ที่เกิดขึ้นส่งตรงจากประเทศฝรั่งเศส ที่เจ้าตัวยอมรับว่าหลังจบโชว์ก็ถึงขั้นนอนไม่หลับ เพราะยังตื่นตาตื่นใจไม่หาย
“ตอนแรกไม่รู้ว่าเขาให้นั่งที่ไหนเพราะไม่ได้บอก ก็เลยต้องไปที่นั่นประมาณ 4 โมงเย็น จริงๆแล้วโชว์เริ่ม 1 ทุ่มครึ่ง ก็เลยเดินไปถามบอดี้การ์ดว่า เราต้องมาเข้าแถวกี่โมง แล้วที่นั่งจัดสรรยังไง First Come First Serve ใครไปถึงก่อนได้นั่งก่อนหรือเปล่า? การ์ดก็บอกว่าประมาณนั้น เราก็ก็เลยโอเค ฉันต้องเข้าทางไหนอะไรยังไง ก็เลยไป survey ดูช่องทางก่อน แล้วไปถึงอีกทีประมาณ 6 โมงนิดๆ เขาบอกว่าจริงๆมา 6 โมงครึ่งก็ได้ แต่เราไม่เอา เกิดได้ไปอยู่ข้างหลังใช่ไหม ซึ่งจริงๆก็มีคนมาตั้งแถวแล้วนิดๆ เขาก็จะมีคอกกั้น แล้วก็จะมีโซนวีไอพี มีปาปารัสซีมารออยู่ ก็เลยคิดในใจว่า ต้องมีคนสำคัญมาเพราะไม่งั้นคงจะไม่มีปาปารัสซีมาตั้งกล้องเป็นแนว แล้วก็มีช่องวีไอพี ก็แอบคิดเยอะว่า ‘อุ๊ย ถ้า BlackPink เมมเบอร์คนอื่นมามันจะเลิศมากเลยนะ เฟรเดริก จะมาไหม’ นี่คือความคิดในใจ”
“พี่ไปรอต่อแถว ก็พยายามเซลฟี่ แล้วก็มีผู้หญิงเป็นคนเอเชีย มาช่วยถ่ายรูปให้ก็คุยภาษาอังกฤษกัน ไปๆมาๆเป็นคนไทยจ้า ปรากฏว่าคนไทยอยู่ข้างหลัง เป็นคนไทยค่อนข้างเยอะ แล้วก็จะมีกลุ่มพี่น้องคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คนจีน คนเกาหลีใต้ก็มา ก็เลยเข้าไปแล้วก็บอกกับคนไทยคนนั้นว่าเดี๋ยวเราไปนั่งด้วยกันนะ แล้วก็มีสไตลิสต์ฝรั่งเศสอีกคนหนึ่ง คือเราก็ผูกสัมพันธ์กับคนที่ต่อแถว เรา 3 คนก็เลยไปนั่งด้วยกัน พอเข้าไปข้างใน คือพี่ต้องบอกก่อนว่า พี่ได้ยินข่าวว่ามีพวกที่เอาบัตรไปรีเซลราคาหลักล้านจริงหรือเปล่า? จะบอกว่าใครคิดจะรีเซลเป็นไปไม่ได้ คือ หนึ่ง ตอนคุณซื้อบัตร คุณต้องระบุชื่อ - นามสกุลอยู่แล้ว นึกออกไหม? แล้วก็ในบาร์โค้ดเนี่ย ไปถึงปุ๊บเขาสแกนปั๊บแล้วก็จะขึ้นชื่อ - นามสกุล เขาก็จะขอดูเอกสารประจำตัว ก็เอาเอกสารให้เขาดู คนที่ซื้อต่อบอกเลยว่าคุณจะเสียเงินเปล่า เพราะว่ามันไม่ได้ และที่สำคัญ เขามีตั๋วอีกอัน เขาปรินท์เป็นปรินท์สีให้เรา แยกออกมาอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นบอกเลยคุณจะมาโกง จะมาโฟโต้ช็อปมันเป็นไปไม่ได้เลย”
“พอเราผ่านตรงนั้น เนื่องจากว่าเพื่อนๆใหม่ที่เราเพิ่งจะมาผูกมิตรกันเขาบอก เออ เดี๋ยวเรา 3 คนนั่งด้วยกันได้ไหม คือเขาก็จะจิ้มหน้าจอเหมือนกับร้านอาหาร เราก็ลุ้นว่าเขาจะพาเราไปนั่งข้างหลังหรือเปล่า ปรากฏว่าได้นั่งแถวที่ 4 ทางขวาจากเวที ซึ่งก็ไม่ได้ใกล้แต่แถวหน้ายังว่าง แต่หันไปข้างหลังเห็นมีโซฟาแล้วก็จะมีแชมเปญ ซึ่งมันให้ความหรูหรา มันให้ความรู้สึกกับเราว่ามันต้องมีคนสำคัญมานั่งตรงนี้แน่ๆเลย ไอ้เราก็คิดว่า ใครจะมาๆ เดี๋ยวลุ้นกัน แต่สักพักหนึ่งก็จะมีผู้ชายมาร้องเพลงเหมือนกับเพลงคลาสสิกโบราณ แล้วก็เอนเตอร์เทนคนตามแถวที่นั่ง แล้วก็ได้ยินเสียงกรี๊ด ฉันก็หันไปมอง อ้าว ผมทอง จะเป็นใครไปไม่ได้เลย ‘โรเซ่’ ก็เดินเข้ามา แล้วก็มีผู้หญิงใส่หน้ากากอนามัยสีดำ ใครก็ไม่รู้เราก็นึกว่าเป็นผู้จัดการโรเซ่หรืออะไร พอเขานั่งปุ๊บ ถอดหน้ากากออกมาเป็น ‘จีซู’ นั่งใกล้กันมาก”
“คือโชว์นี้บอกเลยว่าไม่เสียดายเงินเลย 9,500 บาท มันคุ้มเงินมาก แล้วแต่นานาจิตตัง แต่จะบอกว่าที่นั่งประมาณร้อยกว่าที่ มันเล็ก มันใกล้เวทีมาก มันทั่วถึงกัน เรามีความรู้สึกว่าเหมือนเราเป็นผองเพื่อนกับ โรเซ่, จีซู แล้วแค่นั้นไม่พอจ้ะ ไคอา เกอร์เบอร์ ลูกสาว ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด เธอเป็นนางแบบ Celine กับ ลิซ่า มากับแฟนก็คือ ออสติน บัทเลอร์ มาด้วยกัน 2 คนมาปุ๊บก็ทักทาย จีซู, โรเซ่ แล้วก็มานั่งโซฟาอีกตัวหนึ่ง ฉันหันไปก็เจอ 4 คนเลย มันคือฝันที่ไม่กล้าฝันนึกออกไหม แล้วสักพักหนึ่ง โชว์กำลังจะเริ่มในอีก 15 นาที ฉันก็เห็นน่าจะใช่ เฟรเดริก หรือเปล่า? ปรากฏว่า ใช่! แล้วไม่ใช่แค่เฟรเดริก แต่ทีนี้จะไม่ฟันธงอะไรนะ แต่จะมาเล่าว่า ถ้าเขาเป็นแค่เพื่อนกันก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีและสนิทระดับหนึ่งเพราะ เฟรเดริก ไม่ได้มาคนเดียว แต่มาทั้ง พ่อ คุณพ่อของเขา คุณ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ ที่รวยที่สุดในโลกน่ะมา แม่มา น้องชายชื่อ ฌอน ก็มา แล้วก็มานั่งตรงหลังดิฉันที่เป็นโซฟาอลังการ และความลัลล้าของเรา เราก็เลยหยิบแก้วไวน์แล้วหันไปยกทักทาย เฟรเดริก ก็ยิ้มให้ เป็นอะไรที่น่ารักดี เป็นอะไรที่เผาขนมาก แล้วสักพัก โรซาเลีย นักร้องสเปนก็มา ต้องบอกว่าเมื่อคืน ( 28 ก.ย. ) เป็นอะไรที่ ว้าว เกินฝันมาก”
“ในส่วนของโชว์ ต้องบอกว่า นี่คือคาบาเรต์สำหรับผู้ใหญ่นะคะ เราจะไม่มาโลกสวยยูนิคอร์น อะไรที่เป็น BlackPink ก็อยู่ในกรอบของเขา แต่อันนี้คือคาบาเรต์คุณต้องเข้าใจมันคืองานศิลปะการเต้น แต่ว่า ลิซ่า ไม่ได้เปลือยอก ย้ำ! ใครที่มาเขียนคอมเมนท์ค่อนข้างจะไปในทางลามกจกเปรตขอให้คุณแก้ความคิดนั้นใหม่นะคะ อันนี้คือการเต้นแบบมีศิลปะ แดนเซอร์ทุกคนคือเตะขา เท้านี่เลยหัวขึ้นมาเลยนะ มีทักษะกายกรรม ส่วน ลิซ่า ก็คือแต่งตัวเซ็กซี่กว่าการขึ้นเวที BlackPink ก็ต้องบอกว่า กางเกงในคือกางเกงใน ข้างหลังเป็นจีสตริงเป็นตองก็คือเข้าง่ามไปเลยจ้ะ แต่เราไม่ได้มองตรงนั้นเพราะว่ามันคือโชว์ที่ทุกคนแต่งแบบนั้น คนอื่นเปลือยอกด้วยซ้ำ”
“ ลิซ่า ตอนแรกโผล่หน้ามาจากหน้าม่านนิดหนึ่ง แล้วก็คนกรี๊ด ทางแดนเซอร์ของ Crazy Horse ก็จะเต้นไป แต่หลักๆ ลิซ่า จะโชว์เต็มๆ 2 เพลงด้วยกันก็คือ ‘But I am a good girl’ ในหนัง Burlesque ที่ คริสตินา อากีเลร่า เคยแสดง กับ แชร์ น้องก็ลิปซิงค์ เพลงนั้น แล้วก็มีอีกเพลงหนึ่ง Crisis? What Crisis! ก็เป็นเหมือนสาวทำงาน เจอภาวะตลาดหุ้นดิ่งแล้วก็เครียด นั่งพิมพ์ดีด แล้วก็ปาแว่นออกไป เป็นนักบัญชี เสร็จแล้วก็ถอดเสื้อ แล้วก็วาดลวดลายความเซ็กซี่ มันดี มันใช่ ความจัดเต็มอะนะคือ เราจะไม่มาวิพากษ์วิจารณ์อะไร ถ้าคุณบอกว่า ‘โอ๊ย ไม่เหมาะกับน้อง น้องควรจะอ่อนใส’ อันนั้นแล้วแต่ความคิดของคุณ แต่นี่มันคือสถานที่ที่มันเหมาะ และที่สำคัญ โทรศัพท์มือถือเขาให้เราใส่ในซองที่มันล็อคจนเปิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนไม่มีสิทธิ์ที่จะไปถ่ายรูปหรือถ่ายคลิปแต่ก็เห็นมีบัญชี TikTok จีนหรืออะไรที่แอบเอาไปถ่าย อันนั้นอะน่าเกลียด แต่ก็เอาเป็นว่าเซ็กซี่เผ็ดเบอร์สิบ แล้วคือความสวย ความน่ารัก ความมั่นใจ ฉันขอบอกเลยว่าถ้าถึงแม้ ลิซ่า ไม่ได้โชว์ แค่มาดู Crazy Horse อย่างเดียวก็คุ้ม เพราะว่ามันใกล้ชิดมาก เวทีอาจจะเล็ก มันคล้ายๆกับเวทีคณะนิเทศอะไรอย่างนี้ มันไม่ใช่เวทีใหญ่ มันเวทีระดับมหาวิทยาลัย แต่ว่า แสง สี เสียง เขาอลังการ แล้วก็การเต้น การอะไร เขาพร้อมเพรียง แล้วมันดู ว้าว แล้วคือมันออกมาเป็นความคิดที่มันสร้างสรรค์ แปลกใหม่ ฉันเลยเข้าใจได้ว่า การที่ไม่ให้คนไปถ่ายคลิปเพราะว่าเดี๋ยวคนก็ไปดูดไอเดีย ไปขโมยเขา ไปก็อปโชว์อะไรแบบนี้ แต่ของ ลิซ่า มันดีมาก และพี่ไม่เคยไปดูคอนเสิร์ต BlackPink เลย นี่คืองานแรกที่ได้เห็นศักยภาพของน้อง มัน Bravo! มากระหว่างที่ดูฉันก็ต้องแอบหันไปเช็คว่าหน้าตาแต่ละคนเป็นยังไง ก็มีแอบยกแก้วหยอกเอิน เขาจะยกกลับหรือไม่ก็ไม่เป็นไร ฉันก็เฟี้ยวฟ้าวอะไรไป ฉันก็เห็นความสุขบนหน้าของบรรดาแขกวีไอพีที่มา จีซู ก็ยิ้มๆ ปรบมือ ทุกคนดูแฮปปี้ มันคือความสุข มันคือความบันเทิง”
“ถ้ารายละเอียดเยอะๆเดี๋ยวจะขออนุญาตไปเล่าในเพจของตนเอง อาจจะทำเป็นนิยายภาพ เพราะว่ามันจะมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ พอเราเล่ามันก็อาจจะนึกภาพไม่ค่อยออก เดี๋ยวจะพยายามหาภาพมาประกอบ แต่เอาเป็นว่าทักษะของน้องจากการฝึก ไม่รู้ว่าฝึกล่วงหน้ากี่วัน แต่ก็ถือว่า เป๊ะ! แล้วก็การที่ ชุดมันอาจจะ แรง! สำหรับบางคนที่แบบ ‘อู้หู! อย่างนี้เลยเหรอ? จีสตริงเลยเหรอ? แบบ ว้าว’ ซึ่งมันก็จะมีท่อนบนในชุดที่นางนั่งเป็นเลขา นางก็จะค่อยๆ Strip Strip Strip ( ถอดๆๆ ) แล้วมันก็จะเหลือเป็น Lingerie ชุดชั้นในแบบฝรั่งเศส ที่มันจะเต็มตัวแล้วค่อยถอดคอร์เซ็ตออกมา โยนคอร์เซ็ตออกไป ก็จะเป็นยกทรงที่ซีทรูแต่ว่าก็จะปิดจุกเอาไว้ มันก็เซ็กซี่แต่มันก็ไม่ได้ อี๋ อนาจาร จ้ำบ๊ะ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย กรุณาเปิดใจ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องดู ฉันพูดแค่นี้ มันดูมีความเย้ายวน”
“ พี่ว่าการแสดงนี้เก่งมาก คือเขาเลือกร่างกาย เราควรมีความสุขกับร่างกาย โดยเฉพาะเพศหญิงร่างกายเราสวย คือนักเต้นทุกคนไม่จำเป็นต้องอึ๋ม ไม่ต้อง คือทุกคน อย่างน้อยเป็นแดนเซอร์ก็ไม่ควรต้องมีหน้าท้องแต่ว่าเขามีหลากหลายสีผิว หลากหลายไซส์ของหน้าอก มันอยู่ที่ความฉลาดในการเต้น แล้วมันไม่ง่าย บางคนมาห้อยหัวบนถาดหมุน จะก้าวขา ก้าวอะไรให้ดูสวย สง่า มันต้องฝึก มันเหมือนกับนักกายกรรม เพราะฉะนั้นอันนี้ถ้าใครจะมาปรามาสว่า ‘อุ๊ย ไม่โอเค ชั้นต่ำ’ อะไรแบบนี้ กรุณากลับบ้านแล้วไปตบหน้าตามอายุตัวเองเลยนะจ้ะ เพราะว่ามันหยามมาก นี่มันคือโชว์ที่จะมาเล่นเองไม่ได้ คุณต้องผ่านการทำการบ้านมาอย่างหนัก แล้วต้องบอกเลยว่า ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ”
“พอโชว์จบ แขกวีไอพีก็เข้าไปหลังเวทีเพื่อแสดงความยินดี ส่วนเราก็มารออยู่ด้านหน้า ลิซ่า ออกมาสุดท้าย มาแจกลายเซ็นแฟนคลับ มารับดอกไม้ แล้วก็ขึ้นรถกลับ”
ส่วนงานนี้ใครอยากจะซึมซับบรรยากาศอย่างละเอียด ก็รอติดตามได้ที่เพจ “DJ ปูเป้ สาวเซ็กซี่สะบึมอารมณ์” ที่เตรียมจะเล่าถึงโชว์ Crazy Horse ของ ลิซ่า แบบจัดหนักจัดเต็มในเร็วๆนี้ได้เลย