ชอบครับ!?!
ชอบตั้งแต่บังเอิญได้ดูหนังภาคแรกแล้วสำหรับ THE EQUALIZER ชื่อไทย ‘เพชฌฆาตไร้เงา’
ชอบเพราะว่าบทของหนังเรื่องนี้ออกจะตื้นๆ เดาทางได้ไม่ยาก หากแต่ในความตื้นๆ กลับลุ่มลึกและชวนติดตาม ที่สำคัญอย่างยิ่ง ดูมา 3 ภาคแล้ว บอกตามตรงว่าเชื่อสนิทใจในตัวละคร ‘โรเบิร์ต แมคคอลล์’ ที่นำแสดงโดย เดนเซล วอชิงตัน
อธิบายความตื้นๆ แต่มีความลุ่มลึกในทัศนะของผู้เขียน คือยิ่งดูไปยิ่งไม่สงสัยว่า ‘คุณลุง’ แมคคอลล์ ทำไมเป็นนักฆ่าแถวหน้าของหนังประเภทเดียวกันนี้ ขยายความต่ออีก ได้แก่ฝีไม้ลายมือการรับบท ‘พูดน้อย – ต่อยหนัก’ เป็นเสน่ห์ผสานมนตร์ขลังให้หนังเรื่องนี้สามารถสร้างต่อตามถึงไตรภาคนั่นเอง
อาจเนื่องมาจากเป็นสายพันธุ์เดียวกัน นั่นคือไม่ชอบความอยุติธรรม เกลียดชังการกลั่นแกล้งตั้งแต่เล็กๆ น้อยๆ ไปถึงทำกันกระทั่งบาดเจ็บล้มตาย เลยส่งผลให้ผู้เขียน ‘อิน ไปกับ THE EQUALIZER เพชฌฆาตไร้เงา ทั้ง 3 ภาค
ว่ากันเฉพาะภาคล่าสุดซึ่งฟังว่าเป็นภาคอำลาแล้ว แก่นแกนของหนังนอกจากเน้นเรื่อง ‘ขจัดคนพาล อภิบาลคนดี’ เช่นเดียวกับสองภาคก่อนหน้า ยังดำเนินการฆ่าระดับหฤโหด ที่สำคัญคืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้สังหารผิดกันลิบลับกับ ‘จอห์น วีก’ ทว่าถ้าไม่ใช่สายดาร์กจริงๆ จัดๆ บางฉากอาจเมินหน้าหนี เพราะมันลิมิตเดียวกับหนังฆาตกรรมสยองขวัญอย่างนั้นเลย
เมื่อหนังโชนฉานไปด้วยเลือดสดๆ อวัยวะกระจุยกระจาย อีกโทนหนึ่งของหนังกลับสวยงาม ตื่นตระการไปกับโลเคชั่น ปรบมือให้กับ อองตวน ฟูคัว ในฐานะผู้กำกับ ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว
อีกคนที่ต้องเขียนถึง ริชาร์ด เวงก์ ในฐานะมือเขียนบท
ออกจะน่าเสียดายและเสียของพอสมควร การ ‘เปิดตัว’ ของ ‘เอ็มมา คอลลิน’ สวมบทบาทโดย ดาโกตา แฟนนิง คะแนน 10 ต้องให้ 8 ล้นๆ ทำไปทำมาดันมาตรฐานดิ่งฮวบเสียดื้อๆ
ถ้าแต้มเติมตัวละครหญิงนี้ให้เป็นเคมีที่กลมกล่อมกับมือสังหารวัยเกษียณได้ หนังจะลื่นไหลและกดไลค์รัวๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น THE EQUALIZER 3 นับเป็นหนังแอคชั่นที่คุ้มค่ากับการรอคอยไม่น้อยทีเดียว