xs
xsm
sm
md
lg

“เกรซ กาญจน์เกล้า” โอดดรามา “พี่กบ” จังหวะนรกแตก เปิดวาร์ปไม่ตั้งใจ คอนเทนต์ติดเรา!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เกรซ กาญจน์เกล้า” โอดคอนเทนต์มันติดเรา จังหวะนรกแตก เปิดวาร์ป “พี่กบ” ไม่ตั้งใจ เผยตอนแรกขำ แต่มีคนไม่ขำ เตือนกันดีเอ็มแตก ชมชาวเน็ตเก่งหากันจนเจอ แต่ยันไม่เกี่ยวกับตน ส่วนดรามาเพลง “คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ” อินฟลูฯ แห่คัฟเวอร์ อยู่ที่เคสบายเคส ไม่ชอบก็เลื่อนผ่าน คำหยาบไม่ดี แต่อยู่ที่สอนลูก

อยู่ดีๆ ก็งานเข้า หลังจากชาวเน็ตแห่ขุดคลิปที่ “เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” เคยสัมภาษณ์ “พี่กบ” ที่โดนกระแสสังคมโจมตี เหตุเป็นหัวหน้าใจร้าย ลูกน้องขอลาไปดูใจแม่ แต่กลับให้ลาออก จนต่อมาแม่ของลูกน้องคนดังกล่าวก็เสียชีวิต ทำสะเทือนไปทั้งสังคมแห่เปิดวาร์ปพี่กบ และไปพบว่าอยู่ในคลิปหนึ่งที่มีเกรซอยู่ในคลิปดังกล่าวด้วย ล่าสุดในงานแถลงข่าว RS MUSIC UPRISING พบมิติใหม่ของวงการเพลงไทยจาก RS MUSIC เจ้าตัวก็ได้เปิดใจเรื่องนี้
 
“ฟังนะ ฉันไปทำงานของฉัน พี่เขาก็ไปทำงานของเขา เราก็ทำงานในโหมดที่เราไปโรงแรม ก็รีวิวถ่ายรายการยูทิวบ์ ก็เจอกัน ทางโรงแรมก็ส่งพี่คนนี้มาเพื่อแนะนำเราเรื่องของต้นไม้ ความสะดวกสบายต่างๆ โดยรอบในโรงแรม ซึ่งมันเกิดขึ้นมา7-8 เดือนแล้ว ฉันนี่แบบ…นี่ละหนาชีวิตติดคอนเทนต์ แต่ไม่ใช่คอนเทนต์ติดเราค่ะ บอกตรงนี้เราไม่ได้ติดคอนเทนต์ เรางงสุดๆ เลย มันมามีเรื่องเกี่ยวกับเราจนได้
 
ไม่ได้คุ้นกับข่าวกับพี่เขาเลย ฉันก็อ่านข่าวทั่วไปปกติ ไม่ได้รู้ว่าเป็นคนที่เราเคยเจอ เคยร่วมงาน จนมีโทรศัพท์ มีดีเอ็มเข้ามาแล้วคือดีเอ็มแตก คนโทร.มาหาแม่แบบสุดๆ ว่าเราไปเกี่ยวข้องเหรอ ก็ให้มองเป็นเรื่องขำๆ ไป แต่บางคนเขาก็ไม่ขำไง บางคนเขามาตามที่เราว่าเรารู้จัก ฝากเตือนด้วยนะ เฮ้ย! ฉันไม่เกี่ยวข้องกับเขา คนที่เขาอินมากๆ ก็เข้าใจว่ามันสะเทือนใจ เราก็รู้สึกว่าเป็นกำลังใจให้ แต่ขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า ฉันเปิดวาร์ปโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นฉันแค่อยากจะแนะนำว่าคนนี้คือใคร เป็นธรรมเนียมในการทำงานทั่วไป ชาวเน็ตก็เก่งมาก ไปตามกันจนเจอ แล้วก็เอาฉันไปทำเป็นมีมอีกด้วย จังหวะทุกอย่าง…อย่าไปซีเรียส มองเป็นเรื่องขำๆ ไป

ตอนแรกก็ไม่ขำเหมือนกัน ในรายการเอาไปออกเขาก็เซ็นเซอร์หน้าพี่กบสุดๆ แล้วหน้าฉันคือออกอยู่คนเดียว งงมาก คนอ่านข่าวก็ด่าไปเรื่อยๆ ก็คือเป็นหน้าฉัน โดยที่หน้าของพี่กบเป็นเซ็นเซอร์ไว้ เลยรู้สึก เออ… มันเป็นยังไง ขำๆ ทัวร์ลงเยอะมากถามว่าเครียดไหม ตอนแรกก็มีรู้สึกเหมือนกันนะ มันคืออะไร คอนเทนต์มันติดเราขนาดนี้เลยเหรอ มันเป็นยังไง ทำไมจะต้องมาเป็นเราในจังหวะนั้นพอดี ซึ่งก็ได้ลงไอจีสตอรี่อธิบายไปว่ามันไม่เกี่ยวกับเรา ไม่ต้องมาตามที่เรา ตอนนั้นดีเอ็มคือแตกสุดๆ ฝากเตือนมาเต็มไปหมด ไปรู้จักกับคนแบบนี้ คือเยอะมากๆ มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายใน 2-3 วันแล้วก็เงียบไป”

ไม่รู้ต้องระวังยังไง เพราะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
“มันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้จริงๆ เราไม่รู้เลยว่าใครจะไปผ่านอะไรมา อนาคตมันจะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น ก็ได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เป็นอินฟลูเอนเซอร์ต่อไป สู้ๆ ก็ไม่ได้กระทบอะไรกับงาน ทุกคนเข้าใจว่าเป็นอะไรยังไง มันเป็นเหตุบังเอิญมากๆ จริงๆ ที่มันเกิดขึ้น แต่คนที่โตๆ หน่อยบางคนเขาก็จะแยกแยะไม่ออก และบางมีมก็ดันเอารูปเราไปทำอีก เอาไปพูดหยาบคาย แล้วบางคนจะคิดว่าเกรซเป็นคนทำเอง ความจริงไม่ใช่นะ อยากจะอธิบายตรงนี้”

จังหวะนรกแตกมาก แต่ไม่ได้เก็บมาซีเรียส
จังหวะนรกแตกของเราได้เลย แต่ก็ไม่ได้เก็บเอามาซีเรียสอะไร คนก็ถามเข้ามาเยอะเหมือนกันว่าเราโอเคไหม มีแบบขอบคุณที่เปิดวาร์ป ก็ไปหากันเองเลย ตัวเราไม่เกี่ยวข้อง งงอยู่เหมือนกัน เราก็ไม่ได้จัดการยังไง มีบอกในรีสตอรี่บ้างว่าอันนี้แรงไป ฉันไม่ได้ทำนะ กลัวคนจะเข้าใจว่าเป็นเกรซทำ แต่จริงเขาเอารูปเราไปตัดต่อ กับคำพูดสนุกสนาน หยาบคาย ก็เบาลงหน่อย เดี๋ยวบางคนจะเข้าใจผิดได้ ก็เข้าใจเจตนาของคนทำแหละ บางคนเขาก็อิน ก็ไปว่าอะไรไม่ได้

ถามว่าเรามีจรรยาบรรณในการเป็นอินฟลูฯ ไหม อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เหนือการคอนโทรลของเรา เราถือว่าเราทำงานในส่วนของเรา เรื่องที่เกิดขึ้นเกรซแค่มีโอกาสร่วมงานกับเขาเมื่อหลายเดือนมากแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราจะต้องมารับผิดชอบหรือมารู้สึกอะไรกับตรงนี้ เพราะมันไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเราเลย เราไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัวด้วย

ส่วนในการทำคอนเทนต์ของเกรซก็จะทำอะไรที่ไม่ไปเดือดร้อนคนอื่น มันเป็นความสุขเราในการคัฟเวอร์ ทำมีม อย่างที่คนเอาคลิปสัมภาษณ์ของเกรทกับเพื่อนนักข่าวไปทำเป็นนั่นนี่ คือถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำได้ อย่าเอาไปทำเป็นดาบสองคมที่เอาไปทำร้ายใคร”

นานาจิตตังดรามาเพลง “คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ” อินฟลูฯ คัฟเวอร์ต้องเคสบายเคส ไม่ชอบก็กดผ่าน ทำงานเหนื่อยแล้ว อย่าเสพสื่อแล้วเหนื่อยอีก
“เกรซว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเราแต่ละคน สิ่งเร้าในสังคมทุกวันนี้มันค่อนข้างเยอะ ในสังคมเรามันก็นานาจิตตัง อาจจะต้องเคารพความคิดเห็นของกันและกัน ในเรื่องบางเรื่องเราอาจจะคิดต่าง ส่วนที่อินฟลูฯ เอาไปคัฟเวอร์ แล้วถูกชาวเน็ตถามหาจรรยาบรรณ เกรซว่ามันควรจะต้องพิจารณาเป็นเคสบายเคสไป ขึ้นอยู่กับเจตนาด้วย ถ้ามันออกไปในแนวขำๆ สร้างเสียงหัวเราะ อาจจะดูไม่น่ารักอะไรไปบ้าง เกรซว่าแล้วแต่คนเลย เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกรับได้ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ ชอบก็กดไลก์ ไม่ชอบก็กดผ่านไป

เรื่องคำหยาบเกรซว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างคอนโทรลยาก ต่อให้เรารู้สึกคนเดียวแต่เพื่อนข้างๆ ทุกคนในโซเชียลส่วนใหญ่ไม่รู้สึก แล้วมันเป็นวิธีคลายเครียด มันอาจจะเป็นหนทางของเขา และมันอาจจะเป็นทางระบายของใครหลายๆ คน เราเจอในสิ่งที่เครียดมาจากงานที่มันกดดันมาไม่เหมือนกัน บางเรื่องมองเป็นเรื่องง่ายจะดีกว่า ถ้าเราเก็บมาก็ปล่อยมันออกมาไปเลยดีกว่ามันก็น่าจะดีกว่าที่เราเก็บไว้ มาพูดอย่างนั้นอย่างนี้กัน คือทำงานก็เหนื่อยแล้ว อย่ามาเสพสื่อแล้วเหนื่อยอีก ให้การเสพสื่อดูมือถือมันมีความสุขเถอะ มันเป็นดาบสองคมจริงๆ แหละ ขึ้นอยู่กับคนรับนี่แหละว่าจะรับยังไง ว่าเราจะเลือกกรองอะไร ที่จะเข้ามาอยู่ในใจเรา”

ยอมรับคำหยาบเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี อยู่ที่การสอน แต่ความเข้มแข็งจะปกป้องเด็กๆ เอง
“จริงไหมที่มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี มันก็เป็นจริงนะคะ คำหยาบต่างๆ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่เกรซว่ามองกันกว้างๆ มันก็เป็นสิ่งที่คือความเป็นจริงในสังคมที่มันถูกถ่ายทอดออกมา เกรซว่าขึ้นอยู่ที่ตัวเรามากกว่าที่จะแข็งแรงและปกป้องเด็กๆ ของเรา คนที่อยู่ข้างๆ เรายังไง แล้วเราจะสอนให้เขาคุ้นชิน และคุ้นเคยกับสิ่งเร้าตรงนี้ยังไง ให้แข็งแรงและเลือกที่จะรับสารเพราะเดี๋ยวนี้ปฏิเสธยาก เพราะติ๊กต๊อก แอปพลิเคชั่นต่างๆ ในมือถือค่อนข้างที่จะไปไกลมากๆ แล้ว เด็กๆ ก็ติดมือถือกันตลอด ฉะนั้นจริงๆ แล้วมันอาจจะต้องขึ้นอยู่กับการสอนของลูกเราในการเลือกรับ สิ่งที่ดีเห็นเราก็ดู ไม่ดีเราก็เลื่อนผ่านไป คือเกรซว่ายังไม่ได้อยู่ในฐานะของพ่อแม่เนอะ เลยอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าพูดในแง่ของตัวเอง อะไรที่เรารู้สึกว่าหนักเกินไปเราก็ข้าม อะไรที่เรารู้สึกโอเค เราก็เอ็นจอยกับมัน แค่นั้นเอง”













กำลังโหลดความคิดเห็น