ดาราย้ายหนีหมด หมู่บ้าน “ไอซ์ ปรีชญา” โอดซ่อม 5 ล้าน ต้องทนอยู่ เล่าชีวิตโคตรซวยจากลูกคนรวย นั่งรถเบนซ์ไปโรงเรียน ครอบครัวล้มละลาย ดาราคิวทองแต่กลับขับรถชนด้านขวาไปทั้งแถบ ผ่าตัด 5 หมอ 6 ชม. ต้องฉีดมอร์ฟีนแก้ปวด พักงาน 2 ปี ถูกแฟนทิ้ง ฉีดโบท็อกซ์ยังปากเบี้ยว
เป็นอีกหนึ่งนางเอกที่ชีวิตเจอมรสุมเยอะมากๆ สำหรับ “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจในรายการแฉ วันที่ 22 พ.ค. เล่าความซวยของตัวเอง ที่ต้องเจอกับเรื่องไซยาไนด์ โดนกล่าวหาเป็นฆาตกรวางยาอดีตผู้จัดการ รวมทั้งเรื่องราวในอดีต จากลูกคุณหนู พ่อล้มละลายจากวิกฤตต้มยำกุ้ง กำลังเป็นนางเอกร้อยล้านแต่กลับเจออุบัติเหตุ จนหน้าพัง ต้องซ่อมหน้าซ่อมสภาพจิตใจเป็นเวลาถึง 2 ปี นอกจากนี้ยังโดนแฟนทิ้งอีก
“เรียกว่าซวยค่ะ (หัวเราะ) ไม่รู้ชงไหม ตอนข่าวออกปุ๊บ ก็คิดว่าหนูแน่ๆ แหละ เพราะเพิ่งสั่งซื้อ ก็คิดว่าไม่น่าเป็นใคร นางเอกคนอื่นอาจเสียวๆ อยู่ แต่หนูรู้เลยว่าเป็นหนู ก็รีบบอกคุณแม่เลยแล้วไปสถานีตำรวจ แสดงตัวก่อนเลย
หมู่บ้านที่อยู่ ดาราอยู่เยอะมาก อยู่เป็นหมู่บ้านดารา สักพักดาราย้ายออกหมดเลย เพราะมีสัตว์เลื้อยคลานไปอยู่ในบ้าน บ้านตรงกลางๆ จะเจอแค่งู แต่บ้านของไอซ์อยู่ติดกับคลองเป็นป่า แล้วเป็นบ้านหลังสุดท้ายแล้วเป็นรั้วเดียวกัน ก็จะมีทั้งงู มีทั้งตะขาบ แมงมุม พวกตัวเงินตัวทอง มีทุกอย่าง มีทุกสัตว์ค่ะ
อันนี้มีคนในหมู่บ้านเจองูเห่า ส่วนบ้านไอซ์เองเจอบนจานข้าว อยู่ในห้องครัว มานอนชิลๆ ในห้องครัว อยู่ตรงปิ่นโต ตกใจเพราะแม่บ้านไปเจอ เขาทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เจอบ่อยมากจนรปภ.ไม่อยากมาจับแล้ว ทุกๆ หลังค่ะ ไม่ใช่หลังเดียว แต่ของไอซ์หนักสุด เพราะหมู่บ้านไอซ์ทำหมู่บ้าน มีดินที่ทรุดลงไป มันสามารถลอดเข้ามาได้
บ้านจะทรุดแล้วแตก ที่อยู่ใต้ดินก็ขึ้นมาได้หมด ปรากฏไอซ์เคยพยายามทำแล้ว เรียกช่างมา ค่าสร้างประมาณ 5 ล้าน เพื่อซ่อมใหม่ เพราะแตกช่วงหลังบ้าน พื้น และกำแพงข้างๆ พอทรุดก็ไปทั้งโครงสร้าง และเราต้องออกเองหมดเลย เพราะหนูมีส่วนที่ต่อเติมด้วย แล้วหมดประกัน ทำให้ทำอะไรไม่ได้จริงๆ เราเจอตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาอยู่ ซึ่งเราซื้อแล้ว ทำอะไรไม่ได้ นอกจากย้ายอย่างเดียว ก็ต้องทนๆ อยู่ ทุกวันนี้พยายามเอาน้องหมา 4-5 ตัวเล็กๆ เอาเข้าบ้านหมดเลย”
ซื้อไซยาไนด์เพราะอยากลองกับสัตว์ เพราะทำมาหมดทุกวิธีแล้ว
“เราก็อยากเอาไซยาไนด์มาลองใช้ คนที่ลองคือแม่บ้านนี่แหละ แต่พอของมา หนูตกใจ เพราะขวดเป๊ะเลย เหมือนในข่าวเลย แม่บ้านก็น่ารักมาก แกะพัสดุวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เราก็ทำยังไงดี เอาไปให้ตร.ดีกว่า อย่าไปแกะดีกว่า เราซื้อมาก็ไม่รู้จะใช้ยังไง เราลองมา 3-4 วิธีแล้วสำหรับไล่สัตว์ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เขาก็เลื้อยเข้ามาอยู่ดี
โยงผู้จัดการมั่วไปหมด เครียดด้วย พอมีข่าวเรารู้สึกผิด เราไม่ควรทำอะไรแบบนี้เลย กลายเป็นโยงเรามั่วซั่ว ว่าเรามีผู้จัดการตายเวลาเดียวกัน ชี้นำไปว่าไอซ์หรือเปล่า มีรูปหนูและผู้จัดการของหนูเป็นรูปขาวดำ มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะ หนูก็รู้สึกว่าไม่โอเคกับพี่โก้เรารักมาก ผู้จัดการทำหน้าที่หางานหาเงินให้เราแต่ไปโยงว่าเราเป็นฆาตกรเลยก็งงๆ อยู่ตอนนั้น”
รับแย่มาก สภาพจิตใจรับไม่ไหว
“ร้องไห้ขนาดไหน หนูร้องเลย ร้องแบบไม่หยุด ไม่รู้ว่าร้องทำไม แต่รู้สึกแย่มากๆ เป็นภาวะที่เรารับไม่ไหวในช่วงนั้น มันอ่อนแอมาก สภาพจิตใจเราแย่ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ตอนที่ไปออกรายการพี่หนุ่ม กรรชัยตลกไม่ออก ตอนนั้นถ้าพลาดอาจเป็นเราหรือคนใกล้ตัวเราด้วยซ้ำ”
ย้อนอดีตเด็กบ้านรวยมาก เรียนอินเตอร์ ไม่ใช่รถเบนซ์ไม่นั่ง ก่อนเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง
“ไอซ์เมื่อก่อนเป็นเด็กรวยมาก เรียนอินเตอร์มาตลอด คุณพ่อไปต่างประเทศ เรียนจบโทที่อเมริกา กลับมาบ้านก็อยากให้หนูเรียนอินเตอร์พูดภาษาอังกฤษกับเขา หนูก็ไม่พูดภาษาไทย พูดภาษาไทยไม่ได้ ตอนเด็กแทบไม่พูดภาษาไทยเลย ตอนเด็กๆ ไม่ใช่รถเบนซ์ไม่นั่งไม่รู้หนูโดนสปอยหรือเปล่า แต่หนูต้องเลือกรถที่จะมารับ ว่าวันนี้จะนั่งรถอะไร แต่ก่อนนะ ตอนเด็กมากๆ อนุบาล
ตอนนั้นเด็กมาก คุณพ่อคุณแม่เล่าว่าหนูเดินไปในห้าง หยุดยืนมองเสื้อร้านนึง คุณพ่อก็เข้าไปซื้อหมดเลย ซื้อทุกสี ซื้อทุกอย่าง แค่ลูกหยุดมองดู คุณพ่อคุณแม่รักมาก สปอยมาก
จนวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 40 พ่อล้มละลาย ชีวิตที่เคยอยู่สังคมอินเตอร์ พ่อพาไปอยู่ต่างจังหวัด นอกอำเภอเมือง ไม่มีสังคมที่เคยเจอ มันเป็นเรื่องที่เป็นประสบการณ์ที่ดีของหนู ทำให้หนูแกร่งขึ้น หนูต้องปรับตัวเยอะมาก พอคุณพ่อล้มละลายตอนปี 40 คุณพ่อก็ต้องไปทำงานต่างจังหวัด หนูต้องย้ายสำมะโนครัวไปอยู่เพชรบูรณ์ อยู่นอกเมือง และต้องไปเรียนโรงเรียนที่ค่อนข้างต่างจังหวัดหน่อย เป็นโรงเรียนที่ตั้งชื่อตามหลักกิโลเมตร
เราเรียนแบบไม่รู้จักใคร ไม่มีเพื่อน อยากเข้ากับเพื่อนได้บ้าง พยายามคุยกับเขา ไปถึงคำแรก เอ็งชื่ออะไร หนูก็ร้องไห้ เพราะคิดว่าเอ็งคือคำหยาบ ก็ไปบอกแม่ๆ เขาถามหนูว่าเอ็งชื่ออะไร แม่ก็ขำใหญ่เลย แล้วไม่อธิบายว่าเอ็งไม่ใช่คำหยาบ เป็นภาษาท้องถิ่น ตอนนั้น ป.3 ป. 4 ปรับตัวนานมาก เพราะต้องเล่นกับแมลง แมงทุกอย่าง ต้องมีเกาะที่ตัวนะ ไม่เกาะไม่เก๋ ช่วงพักเที่ยงเอาด้วงเอากว่างมาชนกัน หนูก็จะมียางหนังสติ๊ก มีเหรียญแล้วพันๆ กันหาย สนุกค่ะ (หัวเราะ) แต่กว่าจะปรับได้ แต่โชคดีที่ยังเด็ก ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน”
จากดาราคิวทอง สู่อุบัติเหตุพลิกชีวิตครั้งใหญ่
“ตอนเป็นดาราคิวทองแล้วเกิดอุบัติเหตุ รอดมาได้ก็บุญแล้ว หนูขับรถไปเอง แรกๆ ขับไป ตอนนั้นประมาณตีห้ากว่า กองนัดประมาณ 7 ครึ่ง 8 โมง หนูขับไปแล้วดูแมปไปด้วย หนูหลับใน หนูมีแผลอยู่เต็มหน้าเลย ถ้าสังเกตดีๆ ตอนนั้นไม่ได้คาดเข็ดขัดนิรภัย กระดูกซี่โครงทิ่มปวด ปวดรั่ว หน้าเย็บ 300-400 เข็ม เย็บ 3 ชั้น เห็นกระดูกโหนกแก้มหนู หมอบอกว่าต้องมาทำนะ ถ้าไม่ได้ต้องเอาเนื้อจากตรงนี้มาแปะหน้า
แล้วตอนชนประกันรถก็หมดด้วย รถก็ขายซากทิ้ง หนูนอนอยู่รพ.นานเลย รักษาจริงๆ 2 ปี เงินที่ทำมาทั้งหมดไม่เหลือเลย ต้องใช้หมอศัลย์ หมอตา หมอสมองด้วย เงินที่เก็บมาหมดเลย ตอนนั้นผ่าตัดทีละ 5 หมอ หมอกระดูก หมอตา หมอสมอง หมอศัลยกรรมพลาสติก หมอปอด พักงาน 2 ปี
ด้านขวาไปหมดแล้ว หักหมดเลย ตั้งแต่ไหปลาร้า หมอไทยเก่งมาก ข้างขวาหักหมดเลย หมอลุ้นว่าถ้าทิ่มปอด ถ้ามาไม่ทันก็อาจหายใจไม่ออกได้ เวลาหายใจปุ๊บมันรั่วออก ไม่มีอากาศ”
จากผู้หญิงสวยๆ ผู้ชายหิว กลายเป็นคนไม่กล้ามองกระจก
“แม้แต่เดินผ่านกระจก เหมือนมีนิ้วแปะอยู่ตรงหน้าเพราะเป็นคีรอยด์จะเหมือนตะขาบเกาะอยู่ตรงหน้า ตรงคิ้วตรงตา เวลาไปไหนก็เอาผมบังหน้าไว้ มันเป็นรอยแล้วอาย หน้าเราไม่เคยมีรอยขนาดนี้ แล้วคิดว่าเราคงกลับมาทำงานแบบนี้ไม่ได้แล้ว เพราะหน้าก็คงไม่เหมือนเดิม
ดวงจะซวย ไปฉีดโบท็อกซ์ปากยังเบี้ยว (หัวเราะ) จริงๆ ไม่ได้อยากทำ เพราะเจ็บ จมูกทำสองรอบ ตอนเกิดอุบัติเหตุไม่มีเนื้อแล้ว มีกระดูกโผล่ ด้านขวาทำหมดเลย
เกือบปีไม่มองกระจก ไม่รับสายใคร ไม่คุยกับใครเลย ตอนนั้นแฟนทิ้งด้วย แฟนทิ้งไปเลย เขาคิดว่าหน้าหนูกลับมาไม่เหมือนเดิมแล้วไง หนูบอกว่าไม่รู้ว่าหน้าหนูจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม เพราะมันใหญ่มาก ก็หายไปเลยจ้า ตอนนั้นอยู่กับแม่ มีแต่ครอบครัวที่รักเราจริงๆ วันที่เราหนัก ไม่มีใคร
ตอนนั้นสภาพจิตใจแย่ แฟนก็ทิ้ง ตอนรักษาตัวคนที่อยู่ข้างเราคือคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนที่เรารับ สำคัญหมด ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ขับรถอีกเลย เพราะกลัว คุณพ่อคุณแม่ก็ห้าม”
รักษาสองปี เลือดเป็นกรด กระเพาะอาหารติดเชื้อ ซึ้งไม่คุ้มกับการทำงานหนัก 6 ชม.ฉีดมอรฟีน 1 ครั้ง
“รักษาสองปี เลือดเป็นกรด กระเพาะอาหารติดเชื้อ ไอซ์ว่าน่าจะเกี่ยวกับสุขภาพตัวเองด้วย ไอซ์ทำงานหนักมาก ก่อนหน้านี้ไอซ์รับทั้งละคร หนัง เคยละคร 3 หนัง 1 ใน 7 วัน มันเหนื่อยมากๆ จริงๆ ไม่มีเวลาพักผ่อนแล้วก็คิดว่าไม่คุ้ม 6 ชั่วโมงฉีดมอร์ฟีน 1 ครั้งเพราะยาเอาไม่อยู่แล้ว กลับมาบ้านยังปวดอยู่ คุณหมอเลยต้องให้มอร์ฟีนเม็ดเพื่อเอามากินที่บ้านต่อ”