"อ.อ๊อด" เผย "ไอซ์ ปรีชญา" ใช้ไซยาไนด์ผิดประเภท ชี้อาจขาดความรู้ ระบุอาจส่งผลอันตรายต่อผู้ใช้มากกว่าผลดี แนะใช้ยาเบื่อหนูใช้ไล่สัตว์ปลอดภัยกว่า
จากกรณีกระแสข่าวนางเอก 100 ล้าน ซื้อยาไซยาไนด์ที่เดียวกับ “แอม ไซยาไนด์” มือวางยาฆ่า “ก้อย ศิริพร” จนเสียชีวิต และเชื่อมโยงไปอีกหลายคดี ซึ่งต่อมา "แม่ไอซ์ ปรีชญา" ดาราสาวคนดัง ได้อกมารับแล้วว่า ลูกสาวซื้อไซยาไนด์ล็อตเดียวกับ "แอม" ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมจริง แต่เอามาไล่สัตว์เลื้อยคลานที่เข้าบ้าน ยินดีให้ปากคำหากตำรวจเรียกพบตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (5 พ.ค.) เฟซบุ๊ก "Weerachai Phutdhawong" หรือ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอเพื่อออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "ดาราสาวไอซ์ ปรีชญา สั่งซื้อสารไซยาไนด์ไว้กำจัดสัตว์ว่า สารโพแทสเซียมไซยาไนด์ในรูปแบบเกลือ ที่คุณไอซ์ ปรีชญา ได้สั่งซื้อไว้ ซึ่งเป็นคนละรูปแบบกับที่สัตวแพทย์ใช้ โดยในโรงพยาบาลสัตว์จะใช้ตัวไฮโดรเจนไซยาไนด์ในการรมควันสัตว์ให้ตายและนำไปสตัฟฟ์
ทั้งนี้เป็นความเข้าใจผิด เพราะ โพแทสเซียมไซยาไนด์ใช้ในรูปแบบอุตสาหกรรม และปฏิกิริยาทางเคมีและวัตถุประสงค์อื่น โพแทสเซียมไซยาไนด์ เป็นของแข็ง โดยทางคุณไอซ์เข้าใจผิด ว่ามาละลายน้ำ-ผสมอาหาร เพื่อให้สัตว์มีพิษกิน เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะ ในการไล่สัตว์ใหญ่พวกตัวเงินตัวทอง หรือตะขาบ ซึ่งมีวิธีอื่นที่ปลอดภัยมากกว่านี้
สำหรับโพแทสเซียมไซยาไนด์ถือว่าอันตรายมาก หรือหากตัวเงินตัวทองหรือหนู กินโพแทสเซียมไซยาไนด์เข้าไป แล้วไปเจอสุนัข กัดกินเหยื่อหรือศพของมันก็อาจจะตายต่อได้ เพราะฉะนั้นยังขาดความรู้เรื่องไล่ตัวเงินตัวทองหรือตะขาบ ซึ่งความจริงสามารถใช้กำมะถัน หรือปูนขาวและสารเคมีอื่นๆ ที่มีความปลอดภัยมากกว่านี้ เวลานี้ยาเบื่อหนูก็ไม่ได้ใช้สารโพแทสเซียมไซยาไนด์แล้ว จากเมื่อก่อนที่มีการผสมสารดังกล่าว ซึ่งยาเบื่อหนูก็ใช้ได้ เพราะมีการคำนวณระยะ การมีพิษและช่วงสลายตัว จะมีความปลอดภัยกว่า
อ.อ๊อดกล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นจึงฝากให้ คุณไอซ์ ไปให้ปากคำตำรวจ และแสดงถึงเจตนาว่านำโพแทสเซียมไซยาไนด์ไปทำอะไร ซึ่งปกติที่ซื้อขายกันรูปแบบอุตสาหกรรม มักจะนำไปชุบเงินชุบทองหรือล้างเครื่องเงิน หรือในรูปแบบโลหะเป็นหลัก เพราะการนำไปไล่สัตว์ไม่ค่อยพบเห็น นอกจากนี้หากนำโพแทสเซียมไซยาไนด์ไปใช้ โดยไม่รู้จักวิธีที่ดีพออาจทำให้เกิดอันตราย เช่น ไม่สวมถุงมือ หรือผสมน้ำทิ้งไว้ หากปนเปื้อนก็จะเกิดอันตรายต่อมนุษย์หรือผู้ใช้ได้"