xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนรอยหนังไทย "ขยี้" หนึ่งในตำนานงานประกาศผลรางวัลหนังไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังถูกต่อต้านอย่างหนักถึงกฏเกณฑ์ในการพิจารณาภาพยนตร์ไทยที่สามารถส่งประกวดเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ที่ทำให้หนังภาพยนตร์ไทยบางเรื่องไม่สามารถเข้าไปมีบทบาทในเวทีนี้ได้ ล่าสุดทางด้านของสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติก็ออกแถลงการณ์ใหม่ถึงเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือดใหม่แล้วโดยระบุว่า...

ตามที่ได้มีกระแสต่อกรณีเกณฑ์การพิจารณาภาพยนตร์ไทยเพื่อเข้าประกวดรางวัลสุพรรณหงส์ คณะอนุกรรมการอำนวยการจัดงานรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 31 ได้มีการประชุมหารือ และมีมติเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาภาพยนตร์ไทยที่สามารถส่งประกวดเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ให้เป็นไปเพื่อเปิดโอกาสให้กับภาพยนตร์ไทยที่หลากหลายและครอบคลุม ดังนี้

"ภาพยนตร์ไทยที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 60 นาที เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยเป็นการฉายในโรงภาพยนตร์ หรือสถานที่อื่นใดที่มีการจัดฉายภาพยนตร์ใน เชิงพาณิชย์ในประเทศไทย และมีระยะเวลาการฉายไม่น้อยกว่า 7 วัน"

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการประกาศผลรางวัลต่างๆ ที่เกี่ยวกับวงการบันเทิงบ้านเรานั้นได้กลายเป็นประเด็นมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากจะมีเวทียิบย่อยมากมายจนถูกมองว่ามีแต่ปริมาณแต่ไร้คุณภาพแล้ว หลายครั้งที่เวทีการประกวดใหญ่ๆ เองก็กลายเป็นที่ครหาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาที่กลายเป็นเรื่องระดับตำนานเกี่ยวกับประเด็นนี้ก็คงจะต้องย้อนกลับไปในการประกาศผลรางวัลตุ๊กตาทองในปี พ.ศ. 2534

ในปีนั้นภาพยนตร์เรื่อง "ขยี้" ซึ่งกำกับโดย "ปุ๊ก ยังเติร์ก" สามารถกวาดเอารางวัลใหญ่จากเวทีนี้ไปถึง 4 รางวัล แถมยังเป็นครั้งเดียวที่ผลรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมนั้นมีการให้กับนักแสดง 2 คน (จากหนังเรื่องเดียวกัน) นั่นคือ "ลิขิต เอกมงคล" และ "สามารถ พยัคฆ์อรุณ"
อันที่จริงถ้าดูกันถึงความสามารถของทั้งสอง และฟอร์มของหนังที่ค่อนข้างจะอลังการ มีทุนสร้างที่สูงถึง 15 ล้านบาท ซึ่งสูงมากในตอนนั้น การจะคว้ารางวัลอะไรมาก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

เพียงแต่ที่มันกลายเป็นประเด็นก็เพราะหนังเรื่องนี้ถูกเสนอชื่อเข้าประกวด(แถมได้รับรางวัลมาดังที่บอก) โดยที่ตัวหนังเองไม่ได้เข้าฉายในโรงแต่อย่างใดนั่นเอง

เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อถ่ายหนังเสร็จแล้วแต่อยู่ในกระบวนการตัดต่อ ตอนนั้นทีมงานจึงได้ส่งวิดีโอไปประกวด แต่ว่าหลังจากนั้นทางทีมงานได้มีการแก้ไขตัวหนังไม่ มีการรื้อถ่ายบางฉากใหม่ แถมยังมีการแก้โน่นแก้นี่ ใช้เวลาตกแต่งซีนต่างๆ ซึ่งโดยรวมใช้เวลานานถึง 4 ปีเลยทีเดียว

สุดท้ายหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้เข้าฉายในโรงแต่อย่างใด แต่ก็คว้าตุ๊กตาทองมาถึง 4 ตัวกลายเป็นหนึ่งในการประกาศผลรางวัลบันเทิงของไทยที่เป็นตำนานมาจนถึงวันนี้



กำลังโหลดความคิดเห็น