กลายเป็นประเด็นที่ทำคนบันเทิงและเอฟซีต่างช็อกไปตามๆ กัน หลังจากที่ “ครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่” ครูสอนเต้นและคอมเมนเตเตอร์ชื่อดัง ถูกจับกุมในข้อหาล่วงละเมิดเด็กชายอายุ 16 ปี
วันนี้ เราจะย้อนไปฟังบทสัมภาษณ์ที่ครั้งหนึ่ง ครูเทียม ได้เผยชีวิตก่อนดังในรายการคุยแซ่บโชว์ ในปี 63 กับความลำบากที่ได้พบเจอ จากการเป็นลูกเมียน้อยที่คุณพ่อเสียชีวิต ต้องกลายมาเป็นกรรมกร และจุดที่ค้นพบตัวตนว่าไม่แมน!
“เด็กๆ เคยลำบากมาก่อน คล้ายๆ คนดังหลายๆ คนที่มามันลบศูนย์หมด เราค่อยๆ หาทางที่จะเดินยังไง ทำนาก็ทำ แต่ก่อนจะทำเป็นลูกคหบดีมาก่อน สมัยก่อนย้อนหลังไปนานมากมีรถขับ หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตเราเป็นลูกเมียน้อย แม่ก็หอบลูก 6 คน มาบ้านนอก ควายเราเคยเห็นแต่ไม่เคยเลี้ยง เคยนั่งรถแต่ต้องมาขี่หลังควาย คือต้องมาลำบากอยู่บ้านนอก เรียนหนังสือบ้านนอกด้วย
เมื่อก่อนเรากับคุณพ่อไปแจกของเด็กยากไร้ แต่พอคุณพ่อเสียเราต้องไปนั่งรับแจก พอ 12-13 เริ่มคิดแล้วว่าลำบาก กางเกงนี่ปะแล้วปะอีก รองเท้าไปโรงเรียนแทบไม่มี ครูใหญ่เขาเป็นลูกศิษย์พ่อ เขาเจอเราเขาจะร้องไห้ตลอด เราไม่รู้ว่าเขาร้องไห้เรื่องอะไร แต่เรารู้ว่าความลำบากเริ่มมาเยือนเมื่อเราโตขึ้น อยู่ ม.1-ม.2 ต้องนั่งรถเกือบ 20 กิโลไปเรียน ความอดอยากเริ่มเกิดขึ้น คุณแม่ต้องดูแลลูก 6 คน ฉะนั้นอยู่บ้านนอกไม่ได้แล้ว ปิดเทอมก็ต้องเข้ากรุงเทพฯ มาทำงานก่อสร้าง ตอนนั้นอายุ 14 เริ่มเข้ากรุงเทพฯ แล้วกลับไปเรียนหนังสือ
เมื่อเข้ากรุงเทพฯ มันเหนื่อยมากนะทำงานก่อสร้าง แต่เหนื่อยด้วยความสนุก คนจนไม่มีสิทธิ์จะร้องไห้ คนจนทำทุกอย่าง แล้วจะมีเรื่องราวนึง คือมีวงดนตรีลูกทุ่งเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย เราก็เลยไปดู เห็นเขาเปิดรับสมัคร เพราะเราเคยรำมาก่อน แต่พอไปสมัครแต่เขาไม่รับ เพราะเราไปสมัครเป็นนักร้อง เรามีความฝันอยากเป็นเหมือนยอดรัก, สายันต์ มีเงินมากมายแล้วกลับไปบ้านช่วยพ่อ แม่ ของเรา เราไปสมัครไปหลายๆ วงแต่ไม่ได้เลย พอถึงวงสุดท้าย ศรเพชร ศรสุพรรณ เราก็แบบไม่ได้แล้ว ไม่ได้เป็นนักร้อง ทำอะไรก็ได้ เขาบอกว่าเป็นคอนวอย ตอนนั้นเราก็ไม่เก็ตว่าคอนวอยคืออะไร ก็ยกของ แบกตู้ ทุกอย่าง
ตอนนั้น น้ำตาจะเล็ด แต่ความจน เดินก้าวมาข้างหน้าจะไม่ถอยหลัง ก็แบก ทำทุกอย่าง แต่คราวนี้วงดนตรีก็จะมีเครื่องเต้น เราเห็นเราก็ทำได้นี่หว่า เราก็เต้นตาม พี่ที่สอนเต้นเขาเห็น มันมีโอกาสทองเกิดขึ้น คนขาด ป่วย ไม่มา เขาก็ถามว่าไหวไหม แล้วเต้นคู่กับเมีย ศรเพชร ศรสุพรรณ
ไม่ต้องซ้อมเลย จับขึ้นได้เลย แล้วสมัยก่อนมีโอกาสทองฉันต้องทำ ฉันต้องอิน เข้าคู่ จนกลับมาพี่ตุ่มเมียศรเพชร ศรสุพรรณ ลงมาทะเลาะกัน เพราะคิดว่ากิ๊กกัน”
จุดเริ่มต้นค้นพบว่าตัวเองไม่แมน
“ตอนนั้นแมนๆ นะคุณ ไม่คิดเรื่องนี้เลย ไม่ชอบเลย สมัยก่อนเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นยากมาก มันน้อยมาก ก็มาค้นพบตอนที่เราเป็นครูสอนเต้นที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแล้ว แล้วปรากฎการณ์เราต้องอยู่กับผู้หญิงทั้งหมด แต่ถ้าเราเป็นแมนเราทำไม่ได้เลย นั่นลูกมีพ่อ มีแม่ แตะเนื้อต้องตัวมันบาปมาก
มันไปพลิกผันตอนอยู่เชียงใหม่ เราเป็นครูสอนเต้นครั้งแรก หลังจากเราอยู่ตรงนี้ ทำวงดนตรีลูกทุ่งหลายวงมาก พอวงที่สาม เริ่มถูกไว้วางใจให้เป็นผู้ช่วยครูสอนเต้น เริ่มดีขึ้น เชื่อไหมความที่เราเป็นคนขยันมาก อยู่วงดนตรี ต้องซักเสื้อผ้า เราไม่มีหน้าที่แต่เราช่วยทุกอย่าง ทำทุกอย่างจนครูสอนเต้นตั้งให้เป็นผู้ช่วย หลังจากนั้นก็กระเถิบตัวเอง แล้วครูของเรา ชื่อครูดอกรัก ไปสอนเชียงใหม่ แล้วพาเราไปด้วยเป็นผู้ช่วย พอไปถึงเชียงใหม่ ครูรับเงินเสร็จต้องรีบกลับกรุงเทพฯ ด่วน แล้วทิ้งเราให้ดูวงดนตรีลูกทุ่ง เราก็เป็นครูสอนเต้น คุมงานทั้งหมด มันก็ต้องถูกเนื้อต้องตัว แล้วคนเหนือเขาถือ เราแมนไม่ได้ เราก็รู้สึกว่าต้องมาทางนี้ไหม เราได้อาชีพ เพราะถ้าแมนๆ ทำอาชีพนี้ไม่ได้เลย แต่จริงๆ ครูสอนเต้นมีแมนๆ เยอะมาก แต่ถ้าจะเอ็นจอยงานโชว์ต้องมาแบบนี้ไหม เราก็เลยทดลองเดินทางอีกสายนึง หลังจากที่เราปลดล็อก มันก็อยู่ในชั้นเชิงของเรา เป็นแบบนี้ ถึงได้เป็นครูเทียม เดินให้คนไหว้ ได้อย่างสนิทใจ”
นอกจากนี้ ครูเทียมเคยเผชิญสารพัดดรามาทั้ง เปิดค่ายเพลงกินเด็ก , วิพากษ์วิจารณ์เหล่าผู้บริหารของโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต ประเด็นไม่พอใจที่นักเรียนไม่ได้รับการสนับสนุนไปทำการแข่งขันดนตรี จนต้องนั่งรถกระบะไปกัน ในปี 2560
แต่ที่เผชิญมรสุมดรามาแรง เห็นจะเป็นการที่ถูกชาวเน็ตฟาดปากกลับแรง ทำนองว่าเป็นถึงครูบาอาจารย์แต่วิพากษ์วิจารณ์เหยียดหยามรูปร่างนางไหหาว่าเป็นนางไหหรือนางโอ่ง จนแฮชแท็ก #เซฟนางไหตักสิลานคร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ชั่วข้ามคืน ก่อนนำไปสู่อีกหนึ่งดรามา หลังชาวเน็ตขุดคลิปที่ครูเทียม เคยวิจารณ์ จ๊ะ นงผณี มหาดไทย เมื่อ 10 ปีก่อน สมัย คันหู กำลังดัง ซึ่งจ๊ะโดนครูเทียมวิจารณ์แรง ถึงขั้นหน้าเสียกลางรายการ
ต่อมาจ๊ะก็ได้เผยว่าตอนนั้น ตนสมควรโดนด่าจริงๆ เพราะเต้นแรง ก็โดนด่าแรง ส่วนครูวิจารณ์แรง ครูก็โดนวิจารณ์แรงกลับ มันคือกรรมใครกรรมมัน เราทำอะไรไว้ ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่จะตามมาให้ได้ แค่นั้นเอง