เปิดใจ“เพลง-ชนม์ทิดา”บนถนนสายการเมือง แล้วทำไมต้อง“ภูมิใจไทย”

เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย “เพลง” ชนม์ทิดา อัศวเหม เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ ไปเปิดตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมประกาศจะเสนอตัวลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ในนามพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ด้วยความที่ “เพลง-ชนม์ทิดา” เป็นทายาทของ“พ่อเอ๋” ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจ.สมุทรปราการ และ “แม่ตู่” นันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ.สมุทรปราการ ซึ่งปัจจุบัน “กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า” ของ “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์” ก็ยังอยู่ในสังกัด และประกาศจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่

ขณะเดียวกันก็มองกันว่า “สาวเพลง” คือ “ว่าที่สะใภ้ภูมิใจไทย”เพราะคบหาดูใจอยู่กับ "หนุ่มเป๊ก” เศรณี ชาญวีรกูล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กระทั่งเมื่อช่วงเดือน ต.ค.65 ที่ผ่านมา ได้มี “ดรามาการเมือง” เมื่อปรากฏว่า ภาพ “อนุทิน-ชนม์สวัสดิ์” ร่วมโต๊ะกินข้าวกับ “หนุ่มเป๊ก-สาวเพลง” จนถูกตีความว่าเป็น “ดีลทางการเมือง” ไปต่างๆ นานา ก่อนที่จะมีการชี้แจงว่า เป็นเพียงการกินข้าวภายในครอบครัวตามประสาคนรู้จักกันเท่านั้น

แต่ความเป็น “ว่าที่สะใภ้ภูมิใจไทย”ก็ดูจะยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ “น้องเพลง” แยกทางเดินทางการเมืองกับ“พ่อเอ๋” ที่อยู่ในอีกสีเสื้อหนึ่ง

ที่มาที่ไปของการตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัวภายใต้สีเสื้อภูมิใจไทย รวมไปถึงการเปลี่ยนสายงานจากด้านบันเทิงมาทางสายการเมืองของ “สาวเพลง” จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้จากเจ้าตัวเอง…


**จุดเริ่มตันจากคนบันเทิงสู่คนการเมือง?

จริงๆเรื่องการเมืองก็ซึมซับมาตั้งแต่เพลงเด็กๆด้วยครอบครัวทำงานการเมืองมาเป็นระยะเวลานานส่วนที่เริ่มต้นแบบเป็นทางการเลยก็คือได้โอกาสได้มาเป็นเลขานุการของคุณแม่ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.สมุทรปราการทำให้เราได้รู้ว่าแต่ละท้องถิ่นหรืออบจ.จริงๆแล้วทำงานกันอย่างไรหน้าที่บทบาทของใครเป็นอย่างไรปัญหามันติดอยู่ที่ไหนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนคืออะไร
การที่เพลงได้ติดตามคุณแม่ทำงานในส่วนท้องถิ่นเราเดินลงไปเห็นจริงๆและที่เหมือนทำในตำราเราก็จะรู้ว่าจริงๆการที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้นโยบายต่างๆต้องขับเคลื่อนตั้งแต่บนลงล่างและล่างขึ้นบนแต่สำคัญต้องขับเคลื่อนด้วยความเข้าใจหากส่วนไหนไม่เข้าใจมันก็ทำงานไม่ได้ข้างล่างบอกฉันอยากได้แบบนี้แต่นโยบายข้างบนไม่ได้สนับสนุนกันก็จะเป็นปัญหาเช่นในเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกตื่นตัวกันมาก

**จากท้องถิ่นสู่การเมืองระดับประเทศ?

การทำงานของท้องถิ่นก็เหมือนจิ๊กซอว์อบต.เทศบาลหรืออบจ.เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆแต่การที่เราจะขับเคลื่อนอะไรใหญ่ๆอย่างเช่นสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่แค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งหรือไม่ใช่เรื่องของประเทศไทยประเทศเดียวเราต้องเอาจิ๊กซอว์มาขยายใหญ่เนื่องจากสิ่งแวดล้อมมันคือทั่วโลก

มนุษย์เราเป็นแค่มดตัวเล็กๆถ้าทุกคนร่วมมือกันเข้าไปสนับสนุนช่วยกันพัฒนาก็จะกลายเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนได้วันนี้ถามว่าเพลงอยากเข้าการเมืองมาทำอะไรก็ตอบได้เลยว่าอยากลุยเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เป็นเป้าหมายหลักที่เราศึกษามาอย่างต่อเนื่องแต่ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่มองเพลงแล้วจะจับเพลงไว้ตรงไหน สำหรับเพลงถ้าจะทำงานแล้วจะทำเต็มที่ด้วยศักยภาพตรงนี้ที่มี

ในการทำงานหลายหลายครั้งเรารู้สึกว่าตอนนี้คงเป็นโอกาสในช่วงชีวิตของเราโอกาสและความพร้อมอาจมาไม่พร้อมกันชีวิตของเพลงในวันนี้เป็นประตูเปิดเข้ามาในอายุ 28ปีวันรุ่งขึ้นก็ไปยื่นใบสมัครที่พรรคภูมิใจไทยจังหวะเวลาและช่วงอายุมันประจวบเหมาะที่จะเดินก้าวเข้ามาทางหลักแล้ว

**มุมมอง “เพลง-ชนม์ธิดา”กับประเด็นสิ่งแวดล้อม?

เรื่องสิ่งแวดล้อมเพลงยังมองว่าถ้าเราจะทำให้ประชาชนกระตือรือร้นการที่จะสื่อสารออกไปคือเราต้องให้เขาเข้าใจว่าทำแล้วได้อะไรในเชิงที่ว่าทั้งสภาวะอากาศดีขึ้นเพื่อที่จะจูงใจเขาให้เขาทำตรงนี้ เช่นพรรคภูมิใจไทยระบุว่าจะติดโซล่าเซลล์ให้ประชาชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่มันเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนทุกวันนี้ค่าไฟก็แพงขึ้นค่าน้ำมันก็แพงไหนจะเผาน้ำมันเพื่อมาทำไฟฟ้าก็ทำให้อากาศแย่ลง
ในการทำอะไรหลายๆอย่างก็ต้องลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเขาได้สมมุติถ้าเขาใช้รถ EVได้ก็ทำให้เขาประหยัดเรื่องพลังงานแล้วมีเงินใช้จ่ายอย่างอื่นคือสิ่งที่หมุนเป็นวงกลมในเรื่องของสิ่งแวดล้อม

ในเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเรื่องของการจัดการขยะซึ่งต้องรวมกันหลายหน่วยงานที่จะช่วยกันผลักดันให้ประสบความสำเร็จและมันคงดีถ้าวันหนึ่งเราสามารถเก็บขยะเหมือนต่างประเทศได้วันจันทร์เก็บแค่ขยะเปียกวันอังคารเก็บพลาสติกอะไรแบบนี้เป็นต้น

**เรื่องสิ่งแวดล้อมกับบทบาทที่อบจ.สมุทรปราการ?

สิ่งแรกที่เราเริ่มคือปลูกฝังตอนนี้พวกโรงเรียนท้องถิ่นต่างๆก็มีการสอนเด็กเล็กให้คัดแยกขยะเราต้องขยายการปลูกฝังแบบนี้ให้ครอบคลุมเด็กเหล่านี้จะเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองของเราเพราะต้องยอมรับว่าเปลี่ยนผู้ใหญ่อาจจะยากหน่อยสมมุติว่าเราไปขุดลอกคลองเวลาที่น้ำท่วมเราจะได้ยินแต่น้ำท่วมๆแต่เรากลับไม่ได้ไปดูที่คลองเลยซึ่งมีขยะเยอะมากเจอโซฟาเตียงสิ่งที่เราเห็นทุกอย่างต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน

การแก้ปัญหามันต้องเริ่มจากต้นตอและต้องควบคู่กันไปกับสิ่งที่ช่วยประชาชนได้ก็ต้องทำแต่มันก็ต้องมีการมองการณ์ไกลเพื่อเพิ่มความยั่งยืนสิ่งที่ต้องทำปัจจุบันคืออะไรทำต่อไปทำดีแล้วก็ทำไปให้ดียิ่งขึ้นแต่สำหรับภาพใหญ่สิ่งที่ต้องแก้ไขอาจใช้เวลานานในการแก้สำคัญคือถ้าเรามองว่านี่คือบ้านของเรานี่คือโลกของเรานี่คือสิ่งที่ต้องเผชิญ

**ทำไมต้องเป็นพรรคภูมิใจไทย?

เพลงตัดสินใจมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเพราะเป็นพรรคการเมืองที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆสำหรับคนรุ่นใหม่แนวคิดใหม่ๆเพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ความยั่งยืนและมองว่าการทำงานของพรรคภูมิใจไทยที่มีท่านอนุทินเป็นหัวหน้าพรรคทำได้อย่างนโยบายพูดแล้วทำจริงๆพรรคภูมิใจไทยมีจุดขายในเรื่องพูดแล้วทำนโยบายทำได้จริงไม่เฉพาะประชาชนที่ถูกใจเท่านั้นคนทำงานก็อยากเข้าไปมีส่วนร่วมเพราะได้เห็นหลายๆอย่างประสบความสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรมทันที

ส่วนนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าเช่นเรื่องพักหนี้สิน 3ปีหรือในเรื่องสาธารณสุขอย่างการฟอกไตนโยบายเหล่านี้เหมือนจิ๊กซอว์ที่ต้องทำควบคู่กันไปตรงนี้มันก็ต้องแก้เฉพาะหน้าก่อนสุดท้ายจะเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือประชาชนได้จริงๆในทุกๆด้าน

อีกนโยบายที่เพลงคิดว่าสร้างประโยชน์มากๆแล้วตรงกับความตั้งใจของเราคือนโยบายพลังงานสะอาดลดรายจ่ายประชาชนเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและเป็นการนำประเทศไทยเข้าสู่กฎกติกาใหม่ของโลกคือการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อโลกและไม่ทำร้ายสุขภาพประชาชนเพราะโครงการใช้หลังคาบ้านติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ในบ้านเรือนของตนเองจะทำให้ประชาชนไม่ต้องแบกรับภาระซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจรายรับไม่พอรายจ่ายก็คือค่าใช้จ่ายด้านพลังงานทั้งน้ำมันและไฟฟ้า


**คำแนะนำจากคุณพ่อในเรื่องการทำงานการเมือง?

เพลงทำงานมา 2ปีกว่าตั้งแต่คุณแม่เข้ารับตำแหน่งเพลงเชื่อว่าในการทำงานของเพลงคุณพ่อจะมองว่าลูกทำงานแล้วเป็นอย่างไรมนุษย์ทุกคนคงไม่มีใครเก่งมากๆไปได้ทุกเรื่องเพลงอาจจะอายุน้อยในแวดวงการเมืองแต่สำหรับครอบครัวของเพลงเมื่อเพลงพูดกับผู้ใหญ่พวกท่านรับฟังความคิดของเพลงเพราะว่าเวลาที่เราพูดเราไม่ได้พูดมาลอยๆเรามีเหตุผลในการขับเคลื่อนด้วยความคิดก่อนที่จะพูดเพราะฉะนั้นทุกคนก็จะรับฟังซึ่งกันและกันอันนี้คือเรื่องในบ้าน

ส่วนเรื่องนอกบ้านก็เช่นเดียวกันเพลงทำงานมาตั้งแต่เด็กทำให้เพลงดูโตกว่าคนที่มีอายุรุ่นราวเดียวกันเพลงอาจจะมีหัวโขนหลายใบวันนี้หลายคนมองว่าเพลงเป็นนักการเมืองในอดีตเพลงก็คือดารานักแสดงตอนเด็กๆเพลงก็คือลูกของนักร้องที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยแต่ไม่ว่าจะอยู่ในหัวโขนใดถ้าเพลงได้รับมอบหมายให้ทำงานอะไรแล้วเพลงจริงจังเสมอจนคนรอบข้างจะรู้กันว่าเพลงเป็นคนค่อนข้างซีเรียสในเวลาทำงานแต่นอกเวลางานก็เป็นผู้หญิงโก๊ะๆตลกๆคนหนึ่ง

**คุณพ่อ-คุณแม่ไฟเขียวให้เข้าพรรคภูมิใจไทย ?

คุณพ่อคุณแม่กับเพลงเราคุยเราแชร์กันตลอดว่าคิดว่ายังไงแบบนี้โอเคไหมอย่างนี้โอเคหรือเปล่าครอบครัวเพลงคุยกันทุกเรื่องและคุณพ่อคุณแม่ก็เคารพในการตัดสินใจของเพลงอันนี้คือความโชคดีของเพลงคุณพ่อพูดเสมอว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ทำงานคือทำด้วยใจเพลงจึงยึดติดเสมอว่าทำงานด้วยความซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตัวเอง
ส่วนท่านหัวหน้าพรรคก็พูดกับเพลงว่าถ้าเข้ามาแล้วต้องตั้งใจทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที่เพลงเชื่อว่าท่านหัวหน้าพรรคมองเห็นว่าเพลงมีความตั้งใจในการทำงานตรงนี้ท่านก็ถามด้วยความแบบเอ็นดูว่า "ทำงานตั้งใจทำจริงนะพอพูดแล้วทำแล้วก็ทำจริงๆด้วยนะ"


**มีการพูดกันว่าเล่นการเมืองสมัยนี้ต้อง “หิวแสง" ?

ขอตอบในมุมความคิดของเพลงไม่ได้พาดพิงไปถึงใครเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เพลงสนใจอาจจะไม่ได้อยู่ในกระแสสังคมหรือในโลกโซเชียลฯเท่ากับเรื่องอื่นๆแต่เพลงเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญกับทั้งโลกซึ่งเป้าหมายของเพลงคือผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงให้มากที่สุดเพลงไม่ได้ต้องการเข้ามาเล่นการเมืองเพราะต้องการหรือหิวแสงหรือเป็นนักการเมืองน้ำเน่าสิ่งที่เพลงจะทำคือทำตามเป้าหมายที่ตัวเองวางเอาไว้ให้ดีที่สุด
เพลงอยากเข้ามาเป็นตัวแทนประชาชนเพื่อขับเคลื่อนสิ่งที่เป็นประโยชน์กับสังคมให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายหลายเรื่องตามนโยบายที่เราตั้งใจไว้ในส่วนของที่เป็นเรื่องการเมืองมากๆที่มีความขัดแย้งเพลงขอไม่ยุ่งเกี่ยวดีกว่าเพลงไม่ได้ตั้งใจมาดิสเครดิตใครมาเพื่อเถียงกับใครเพลงตั้งใจเข้ามาทำงานไม่ได้เข้ามาทะเลาะกับคนอื่น

**วางอนาคตทางการเมืองของตัวเองไว้แค่ไหน?

เพลงเดินเข้ามาในเส้นทางการเมืองเพลงรู้ว่าเพลงต้องเดินไปข้างหน้าแล้วต้องมีการรับมืออีกแบบหนึ่งก่อนหน้านี้เพลงทำงานมาตลอดก็จริงแต่ก็เป็นการรับมือในรูปแบบหนึ่งแต่การเมืองก็ต้องรับมือในจุดที่แตกต่างออกไปซึ่งต้องบอกว่าเพลงได้รับกำลังใจที่นำมาสร้างความมั่นใจได้จากคนในครอบครัวอย่างคุณพ่อท่านพูดเสมอว่า "ยูทำได้ต้องเชื่อมั่นและก็ตั้งใจในทุกๆก้าวไม่ว่าจะเลือกไปในทางเส้นทางไหนท่านก็จะคอยเป็นแบคอัปถึงยูล้มก็ลุกขึ้นได้"
การเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเพลงเพราะเพลงเติบโตมาตรงนี้ได้เห็นการทำงานของทั้งคุณพ่อและคุณแม่เพราะฉะนั้นเมื่อเราต้องลงมือทำงานจริงๆแล้วเราจะเชื่อใจตัวเองว่าเราพร้อมและเราก็มีความเข้มแข็งในการทำหน้าที่ของเราและที่สำคัญจะต้องไม่เป็นตัวถ่วงของใครการทำงานก็จะได้ประสบการณ์ที่จะสอนเรา

**ความมีชื่อเสียงของครอบครัวกดดันตัวเราหรือไม่ ?

ความกดดันของเพลงคือแรงผลักดันในจุดหนึ่งการที่เราเกิดเป็นลูกคุณพ่อคุณแม่เราอาจจะได้รับความรักความเมตตาแต่อีกเหตุผลก็คือความคาดหวังว่าจะทำให้ได้เหมือนคุณพ่อคุณแม่ไหมในมุมหนึ่งเพลงก็ไม่ชอบทุกอย่างเหมือนเป็นการจำกัดความเป็นตัวตนของเพลงเพลงจึงอยากให้คนจดจำเพลงที่ตัวตนของเพลงว่าเพลงมีคุณค่าอะไรมีความเชื่อแบบใดก็ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้คนยอมรับเพลงให้ได้

**อยากให้รู้จัก “เพลงชนม์ทิดาอัศวเหม”แบบไหน ?

เพลงหวังจะเป็นอีกหนึ่งกำลังในการพัฒนาประเทศใจของเพลงพร้อมแล้วแต่คำว่าพร้อมก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างแต่คติในการทำงานของเพลงคือเพลงพร้อมที่จะเรียนรู้ในอีกหลายๆเรื่อง "ถ้าคุณหยุดเรียนรู้เมื่อไหร่คุณจะเสียกำไรในชีวิต"ทุกวันคือการเรียนรู้หากวันใดที่เราคิดว่าฉันเก่งที่สุดแล้ววันนั้นชีวิตคุณคือหยุดทันทีไม่สามารถทำงานต่อไปได้

สิ่งที่ดีที่สุดคือการเป็นกระดาษหน้าใหม่ในทุกๆวันที่เราจะรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างตรงไหนเราทำได้สุดทางตรงไหนเราเจอกันได้ครึ่งทางการคุยการแชร์จะเกิดประโยชน์แล้วเพลงก็จะเลือกทางนั้นขอให้ทุกคนติดตามการทำงานของเพลงแล้วจะรู้ว่าเพลงตั้งใจมากแค่ไหน