ในโลกยุทธจักรของท่านกิมย้งนั้นมีบุรุษที่มีฝีมือเก่งกาจมีวรยุทธสูงส่งอยู่มากมายหลายคนโดยเฉพาะในอมตะนิยาย มังกรหยก ภาคแรก จอมยุทธล่าอินทรี หรือ กำเนิดก๊วยเจ๋ง มีผู้เยี่ยมยุทธที่ชาวยุทธทั่วหล้าต่างยกย่องว่า เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครอยู่ถึง 5 คน
ได้แก่ เฮ้งเตงเอี้ยง ผู้ก่อตั้งสำนักชวนจินก่า เป็นผู้ชนะการประลองถกกระบี่ที่ยอดเขาหัวซานครั้งแรกและได้ครอบครองคำภีร์เก้าอิมจินเก็ง คำภีร์ที่ชาวยุทธทั่วหล้าต่างหมายปอง นอกจากนั้นยังมี ยาจกอุดร อั้งชิดกง เจ้าสำนักพรรคกระยาจก มารบูรพา อึ้งเยียกซือ เจ้าเกาะดอกท้อ พิษประจิม อาวเอี๊ยงฮง เจ้าแห่งวิชาพิษ และราชันย์ทักษิณ ฮ่องเต้แห่งต้าหลี่ เจ้าของวิชาดรรชนีเอกสุริยัน
ทั้ง 5 นับเป็นยอดยุทธที่โลดแล่นอยู่ในมังกรหยกภาคแรกและภาคสองทุกคนมีฝีมือร้ายกาจ มีเรื่องราวของชีวิต ความดี ความชั่ว ความรัก ความหลง และความผิดพลาดที่โลดโผนน่าสนใจไม่แพ้วรยุทธที่ใช้ต่อสู้เช่นเดียวกัน
ราชันย์ทักษิณ หรือ ฮ่องเต้แห่งต้าหลี่ ผู้สำเร็จวิชาดรรชนีเอกสุริยัน เป็น 1 ใน 5 ยอดฝีมือที่เข้าร่วมการประลองถกกระบี่ที่เขาหัวซาน ประลองกันอยู่หลายวัน สุดท้ายเฮ้งเตงเอี้ยงได้รับชัยชนะ ได้ครอบครองคำภีร์เก้าอิม ฮ่องเต้ต้าหลี่กลับเมืองของตน พยายามฝึกฝนวิชาเพื่อการประลองในครั้งต่อไป และหมายมั่นว่าจะเป็นผู้ชนะแต่เรื่องราวกลับไม่เป็นดั่งหวังและความผิดพลาดก็เกิดขึ้น
ฮ่องเต้ต้าหลี่มีพระสนมที่รักใคร่และเอ็นดูมากอยู่คนหนึ่งคือ สนมเล้า หรือ เอ็งโกว นางเป็นหญิงสาวที่งดงามและฉลาด ฮ่องเต่สอนวิชายุทธให้นางไม่เท่าไหร่สนมเล้าสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว กระทั่งเฮ้งเตงเอี้ยงมาเยือนถึงวังต้าหลี่ เฮ้งเตงเอี้ยงมาเยีอนต้าหลี่มีจุดประสงค์เพื่อต้องการถ่ายทอดวิชาพลังธาตุธรรมชาติให้กับราชันย์ทักษิณเพื่อเอาไว้กำราบอาวเอี้ยงฮงในภายหน้า เพราะรู้ว่าตนเองมีโรคภัยคงอยู่ได้อีกไม่นานแต่อยู่ๆจะมาถ่ายทอดวิชาให้ยอดฝีมือในระดับเดียวกันคงไม่เหมาะ เฮ้งเตงเอี้ยงจึงมาเยือนเพื่อขอแลกเปลี่ยนความรู้กับราชันย์ทักษิณ เฮ้งเตงเอี้ยงไม่ได้มาคนเดียวเขาพาศิษย์น้อง จิวแป๊ะทง หรือ เฒ่าทารก มาด้วย ทั้งราชันย์ทักษิณและเฮ้งเตงเอี้ยงเก็บตัวแลกเปลี่ยนความรู้ทางวรยุทธ หารู้ไม่ว่าภายนอกมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น
จิวแป๊ะทงกับสนมเล้าเกิดสนิทสนมกันจนเลยเถิดกลายเป็นเรื่องชู้สาวขึ้น เมื่อฮ่องเต้ต้วนและเฮ้งเตงเอี้ยงออกมาจากการเก็บตัวฝึกวิชาทราบเรื่องทั้งสองต่างไม่พอใจคนของตน เฮ้งเตงเอี้ยงขออภัยต่อราชันย์ทักษิณและพาศิษย์น้องของตนกลับสำนัก ฮ่องเต้ต้วนด้วยความเกรงใจและมีความสัมพันธ์อันดีต่อเฮ้งเตงเอี้ยงจึงปล่อยจิวแป๊ะทงกลับไป ฮ่องเต้ต้วนทั้งโกรธทั้ง เสียใจ และผิดหวังต่อสนมเล้าที่สวมเขาให้ตนคิดจะลงโทษแต่เพราะยังรักอยู่จึงไม่ได้ทำอะไร ปล่อยสนมเล้าพักอยู่ที่ตำหนักแต่ฮ่องเต้ต้วนไม่เคยไปพบอีกเลย
กระทั่งสนมเล้าคลอดลูกที่เกิดจากจิวแป๊ะทงและเด็กทารกถูกคิ้วไชยิ้มลอบทำร้ายกระดูกแตกทั่วตัว สนมเล้าวิงวอนขอร้องราชันย์ทักษิณให้ช่วยชีวิตลูกชายของนาง แต่ฮ่องเต้ต้วนปฏิเสธ เพราะการรักษาชีวิตที่ถูกทำร้ายจนกระดูกแตกไปทั่วตัวนั้นต้องเสียพลังภายในมาก การรักษาจะทำให้ผู้รักษาสูญเสียกำลังซึ่งจะมีผลต่อการประลองที่เขาหัวซานในครั้งหน้า และที่สำคัญฮ่องเต้ต้วนยังโกรธแค้นและเสียใจในสิ่งที่สนมเล้ากับจิงแป๊ะทงได้ทำไว้
สุดท้ายทารกน้อยเสียชีวิต สนมเล้าเสียใจจนเส้นผมขาวโพลน ใบหน้าแก่ชราก่อนวัย กลายเป็นคนคลุ้มดีคลุ้มร้ายประกาศจะแก้แค้นราชันย์ทักษิณที่ไม่ช่วยรักษาลูกของนาง สนมเล้าออกจากวังไปเก็บตัวฝึกวิชาเพื่อหาทางแก้แค้นฮ่องเต้ต้วนและสืบหาคนที่ทำร้ายลูก
เมื่อสนมเล้าจากไปราชันย์ทักษิณจึงคิดได้ว่า สิ่งที่เขาทำไปนั้นไม่ถูกต้อง การฆ่าคนหรือการปล่อยให้คนตายโดยนิ่งดูดายก็ไม่ต่างกัน ตัวเขาเป็นถึงฮ่องเต้ เป็นถึงยอดฝีมือแห่งยุค แต่ไม่ยอมช่วยชีวิตเด็กทารกและปล่อยให้ตายไปต่อหน้าต่อตา เพราะกลัวจะสูญสียพลังไม่ได้รับชัยชนะในการประลองจะไม่ได้ครอบครองคำภีร์เก้าอิม และยังโกรธสนมเล้าที่ทำเรื่องเสื่อมเสีย แต่ทั้งหมดไม่ใช่ข้ออ้างในการปฏิเสธการช่วยชีวิตคน แล้วอย่างนี้จะฝึกวิทยายุทธไปเพื่ออะไรและเป็นฮ่องเต้ต่อไปได้อย่างไร
ด้วยเหตุนี้ ราชันย์ทักษิณ จึงตัดขาดทางโลกสละราชสมบัติและออกบวชเปลี่ยนชื่อเป็น อิดเต็งไต้ซือ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในยุทธภพและการชิงดีชิงเด่นอีกต่อไป เพราะความโกรธ ความอยากและความโลภเพียงชั่ววูบสามารถทำให้คนที่มีจิตใจดีงามกลายเป็นคนใจดำอำมหิตได้เพียงชั่วพริบตา
หลายปีต่อมา ก๊วยเจ๋งพาอิ้งย้งที่บาดเจ็บจากฝ่ามือของคิ้วไชยิ้มมาให้อิดเต็งไต้ซือช่วยรักษา อิดเต็งไต้ซือยอมรักษาให้โดยไม่คำนึงว่าจะสูญเสียพลังภายในใดๆทั้งสิ้น
จะว่าไปแล้วคนที่หวังจะเป็นหนึ่งในใต้หล้าและครอบครองคำภัร์เก้าอิมจินเก็งมากที่สุดหาใช่ราชันย์ ต้วน คนๆนั้นคือ อาวเอี้ยงฮง หรือ พิษประจิม เจ้าของวิชาพิษ สัตว์พิษ ไม้เท้าอสรพิษ และที่เป็นเอกลักษณ์คือ พลังคางคกอันร้ายกาจ ในจำนวน 5 ยอดฝีมือ อาวเอี้ยงฮง นับว่าร้ายกาจ เจ้าเล่ห์และชั่วช้าที่สุด แต่นั่นแหละในความเลวยังมีความน่ารัก ความดีและน่าสงสารอยู่บ้าง แม้ไม่มากนักก็ตามที
อาวเอี้ยงฮงแห่งแดนประจิม เจ้าแห่งวิชาพิษและพลังคางคก ผู้หลงใหลในวรยุทธ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตนได้เป็นหนึ่งในยุทธภพและครอบครองคัมภีร์เก้าอิม หลังจากพ่ายแพ้จากการประลองให้กับเฮ้งเตงเอี๊ยงเขากลับไปเก็บตัวฝึกวิชาที่สำนักเพื่อการประลองในครั้งต่อไป ในวัยหนุ่ม อาวเอี้ยงฮงหลงรักพี่สะใภ้ของตนและลักลอบเป็นชู้กับนาง จนพี่สะใภ้ให้กำเนิดบุตรชื่อ อาวเอี้ยงเคียก อาวเอี้ยงฮงรู้อยู่แก่ใจว่าเด็กคนนี้เป็นลูกชายของตนจึงรักดั่งดวงใจและมุ่งหมายให้สืบทอดวิชาของเขา ซึ่งจะถ่ายทอดให้รุ่นต่อรุ่นเพียงคนเดียวเท่านั้น อาวเอียงเคียกจึงมีชีวิตไม่ต่างจากคุณหนูที่ถูกตามใจ เมื่อโตขึ้นมาจึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว แยกแยะผิดถูกไม่เป็นและชอบจับหญิงชาวบ้านมาเป็นนางบำเรอ จนกลายเป็นศัตรูกับก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง
อาวเอี้ยงเคียกหลงรักอึ้งย้งฝ่ายเดียว อาวเอี้ยงฮงก็ตามใจพาไปสู่ขอกับอึ้งเยียกซือถึงเกาะดอกท้อจนมีการประลองกับก๊วยเจ๋งขึ้นสุดท้ายพ่ายแพ้ แต่เมื่ออึ้งเยียกซือรู้ภายหลังว่าก๊วยเจ๋งเคยท่องจำคัมภีร์เก้าอิมจากเฒ่าทารกมาก่อนการประลองจึงโมฆะ ทั้งหมดขึ้นเรือเพื่อกลับแผ่นดินใหญ่แต่เกิดเรื่องขึ้นจนไปติดเกาะร้าง อาวเอี้ยงฮงต่อสู้กับอั้งชิดกงบนเรือขณะเรือเกิดไฟไหม้ อาวเอี๊ยงฮงลอบกัดทำร้ายอั้งชิดกงจนบาดเจ็บสาหัส แม้ในใจลึกๆเขาจะรู้สึกละอายที่ต้องลอบทำร้ายศัตรูแต่เขาก็ยังทำ อาวเอี้ยงเคียกหลงกลอึ้งย้งกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ อาวเอี๊ยงฮงดูแลช่วยเหลือหลานชายหรือลูกชายของตนอย่างดีจึงรอดกลับมาได้
อาวเอี๊ยงฮงทำงานให้กับอ้วนง้วนเลียก อ๋องแห่งกิมก๋ก เขาช่วยอ๋องกิมก๊กหาตำราพิชัยสงครามของ งักฮุย เพื่อใช้กำราบต้าซ้อง อาวเอี๊ยงฮงร่วมมือกับเอี้ยคังวางแผนทำให้ชาวยุทธตงง้วนแตกความสามัคคี ลงมือสังหารอาจารย์ทั้งห้าคนของก๊วยเจ๋งแล้วป้ายสีว่าเป็นฝีมืออึ้งเยียกซือ ก๊วยเจ๋งกับอาจารย์กัวเต็งอัก 7นักพรดแห่งชวนจิน และอึ้งเยียกซือต้องต่อสู้กันเพราะการยุแยงและเข้าใจผิดเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ด้วยความเป็นคนที่ลุ่มหลงในวรยุทธ อาวเอี้ยงฮงบังคับให้ก๊วยเจ๋งท่องคำภีร์เก้าอิมให้ฟัง อึ้งย้งออกอุบายให้ท่องสลับไปสลับมาแบบทวนทิศ แต่แล้วจะด้วยความเป็นอัจฉริยะหรือด้วยทิฐิมานะพยายามอย่างไรก็ตามแต่ อาวเอี้ยงฮงฝึกวิชาเก้าอิมแบบทวนทิศได้สำเร็จ เขากลายเป็นคนเสียสติความจำเละเลือนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่สามารถเอาชนะอึ้งเยียกซือและอั้งชิดกงได้ในการประลองที่ยอดเขาหัวซานครั้งที่สองกลายเป็นเจ้าแห่งยุทธภพ แต่นั่นจะมีความหมายอันใดเมื่อสิ่งที่แลกมาคือ สติและความเป็นตัวตนที่สูญหายไป
เมื่อสติเลอะเลือนจำตัวเองไม่ได้ อาวเอี้ยงฮงกลายเป็นคนไร้บ้านเร่ร่อนไปทั่ว แต่อาวเอี้ยงฮงคนที่สติไม่ดีกลับไม่ได้ทำความเดือนร้อนให้กับยุทธภพเหมือนอาวเอี้ยงฮงคนก่อน ซ้ำยังได้เป็นพ่อบุญธรรมของเอี้ยก้วย ซึ่งสูญเสียแม่และกลายเป็นเด็กเร่ร่อนหากินไปวันๆเช่นเดียวกัน อาวเอี้ยงฮงให้ความช่วยเหลือในบางครั้งและช่วยสอนพลังคางคกให้เอี้ยก้วยไว้ป้องกันตัว
การที่อาวเอี้ยงฮงกลายเป็นคนเสียสติความจำเลอะเลือนก็ไม่ต่างกับอิดเต็งไต้ซือที่ปล่อยวางทางโลกเข้าสู่เส้นทางธรรม เพียงแต่ว่า อิดเต็งไต้ซือ เข้าใจและยอมปล่อยวางได้เองจากความเสียใจในการกระทำของตน ส่วนอาวเอี้ยงฮงนั้นเป็นเพราะความลุ่มหลงและมุมานะที่จะสำเร็จวิชาเก้าอิมแบบทวนทิศจนเกิดผลกระทบต่อจิตใจและสมอง เมื่อกลายเป็นคนเลอะเลือนความโลภ โกรธและความลุ่มหลงในใจก็เลือยหายไปด้วย
ในบั้นปลาย อาวเอี้ยงฮง โคจรมาพบกับ อั้งชิดกง ในฤดูหนาวบนยอดเขาหัวซานอีกครั้ง ทั้งคู่ต่อสู้กันแต่ไม่ใช่เพราะความแค้นเคืองในอดีตแต่เป็นการถกวิชาของยอดฝีมือแห่งยุค ต่อสู้กันด้วยความสนุกและฉันท์มิตร ไร้ความเจ้าเล่ห์และผลประโยชน์แต่อย่างใด เมื่อสู้เหนื่อยก็หยุดทำอาหารกินและนอนพักผ่อนจากนั้นก็ต่อสู้กันใหม่เหมือนเด็กสองคนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานแก้เคล็ดวิชาและท่าทางกันไปมาจนไม่มีใครแพ้ชนะ
เอี้ยก้วยเห็นว่าสู้กันมานานมีแต่บอบช้ำจึงไปขอร้องอั้งชิดกง ยาจกเฒ่าก็ยอมจากไปแต่อาวเอี้ยงฮงไม่ยอมเข้าไปท้าสู้ใหม่ สุดท้ายแลกกันคนละหมัดอาวเอี้ยงฮงถูกฟาดที่ศีรษะความทรงจำกลับคืนมา เห็นยาจกเฒ่าศัตรูเก่าอยู่ตรงหน้าอาวเอี้ยงฮงกลับยิ้ม ทักทายและหัวเราะ ขณะที่อั้งชิดกงเองก็ดีใจที่เฒ่าสารพัดพิษได้ความทรงจำคืนมาก็ยิ้มและหัวเราะเช่นกัน ทั้งคู่กอดคอกันละสังขารในที่สุด
นับเป็นการจบชีวิตที่สุดแสนพิสดารและน่าประทับใจ “หัวเราะสลายแค้น” ฉากสำคัญในอมตะนิยาย ลูกมังกรหยก หรือ มังกรหยก ภาค2 ที่ท่านกิมย้งได้สร้างสรรค์ขึ้นมา ยังมียอกฝีมือแห่งยุคอีก 3 คน ซึ่งจะกล่าวถึงในบทต่อไป
...
ประวัติผู้เขียน
ชาติณรงค์ วิสุตกุล ผู้ช่วยศาสตรจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จบการศึกษาปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยทำงานเป็นนักข่าวและนักเขียนสารคดีที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำสถานีวิทยุแห่งชาติจีน (China Radio International) ณ กรุงปักกิ่ง(พ.ศ.2550-2551)
เคยได้รับรางวัลสุภาว์ เทวกุล ปี 2552 จากเรื่องสั้น ใบหน้าของโจโฉ รางวัลชมเชยพานแว่นฟ้า ปี2545 จากเรื่องสั้น ภาพเก่า และเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ปี2552 จากเรื่องสั้น หนูน้อยกลางถนนกับคนใจยักษ์ และเรื่องสั้น กบฏเพื่อสันติภาพ ได้รับคัดเลือกตีพิมพ์ในนิตยสารราหูอมจันทร์ ฉบับที่ 5 เดือนตุลาคม 2551 มีผลงานหนังสือรวมเล่มมาแล้ว 4 เล่ม ได้แก่
1. นางฟ้าจากไปแล้ว รวมเรื่องสั้น ปีพ.ศ.2549 สนพ.สยามอินเตอร์
2. คน(ไม่)เหมือนกัน รวมเรื่องสั้น ปีพ.ศ.2554 สนพ.บ้านวารสารฯ
3. สาวน้อยบนตึก นวนิยาย ปีพ.ศ.2558 สนพ.บ้านวารสารฯ
4. กลืนกินความมืด รวมเรื่องสั้น ปีพ.ศ.2560 สน.พ.บ้านวารสารฯ
ติดต่อผู้เขียน : โทรศัพท์ 094-9451451 / E-mail : jr.chatnarong@gmail.com