“เมทัลลิก้า” สุดยอดวงเมทัลระดับโลกในตำนาน ประกาศปล่อยอัลบั้มใหม่ “72 Seasons” ในปีหน้า พร้อมส่งซิงเกิ้ลแรก “Lux Æterna” มาให้แฟนเพลงชาวหูเหล็กได้หายคิดถึงกัน
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับชาวหูเหล็กทั้งหลาย เมื่อโคตรวงเมทัลในตำนานอย่าง “เมทัลลิก้า” (Metallica) ประกาศออกอัลบั้มใหม่ “72 Seasons” ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 14 เมษายน ปี ค.ศ. 2023
“72 Seasons” เป็นผลงานสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 11 ของวงเมทัลลิก้า ภายใต้ต้นสังกัด Blackened Recordings มีโปรดิวเซอร์ คือ Greg Fidelman และ 2 แกนนำของวงอย่าง “เจมส์ เฮทฟิลด์” (James Hetfield) และ “ลาร์ส อุลริช” (Lars Ulrich)
อัลบั้มชุดนี้เบื้องต้นทางวงประกาศว่ามี 12 เพลงด้วยกัน ได้แก่
1.72 Seasons
2.Shadows Follow
3.Screaming Suicide
4.Sleepwalk My Life Away
5.You Must Burn!
6.Lux Æterna
7.Crown of Barbed Wire
8.Chasing Light
9.If Darkness Had a Son
10.Too Far Gone?
11.Room of Mirrors
12.Inamorata
ทั้งนี้ล่าสุดทางวงเมทัลลิก้าได้ส่งซิงเกิ้ลแรก คือ “Lux Æterna” (แทรคที่ 6 ในอัลบั้ม) ออกมาให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงกัน กับบทเพลงเมทัลมัน ๆ ตามสไตล์ของวง
สำหรับวง “เมทัลลิก้า” (Metallica) มีสมาชิกปัจจุบันประกอบด้วย “เจมส์ เฮทฟิลด์”(James Hetfield) - แหกปากร้องนำ ริทึ่มกีตาร์, “ลาร์ส อุลริช”(Lars Ulrich) - หวดฟาดกระหน่ำกลอง, “เคิร์ก แฮมเม็ตต์”(Kirk Hammett) -โซโล ขยี้กีตาร์ ร้องประสาน และ “โรเบิร์ต ทรูจิลโล” (Robert Trujillo) ตะปบเบส
เมทัลลิก้าเป็นวงเมทัลร็อกสัญชาติอเมริกัน หนึ่งในวงเมทัลสุดยิ่งใหญ่ในตำนาน เป็นผู้บุกเบิกแนวเพลง Speed Metal และ Thrash Metal จนโด่งดัง หลายเป็นอีกหนึ่งกระแสธารหลักของวงการเพลงร็อก ซึ่งเป็นที่แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน และการันตีด้วยรางวัล Grammy Awards หลากหลายสาขามากมาย
เมทัลลิก้า ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ปฏิวัติวงการเพลงร็อก พวกเขาถูกยกให้เป็น “บิ๊กโฟว์” หัวหอกผู้บุกเบิกวงการแทรชเมทัล (Tharsh Metal) ของโลก ซึ่งประกอบไปด้วย 4 วงแทรชเมทัลระดับตำนานคือ เมทัลลิก้า (Metallica), เมกาเดธ (Megadeth), สเลเยอร์ (Slayer), และแอนแทรกซ์ (Anthrax)
เมทัลลิก้าเริ่มต้นจากวงใต้ดิน ก่อนที่จะส่งอัลบั้มแรกคือ “Kill 'Em All” (1983) มาสร้างความเซอร์ไพร์สให้กับชาวหูเหล็กทั่วโลกกับดนตรีที่รวดเร็ว ดุดัน หนักแน่นปวดตับ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวของวงอย่างสวยหรู ที่มาพร้อม ๆ กับคำว่า Speed Metal และ Tharsh Metal
ชุดต่อมาเมทัลลิก้าได้ออกอัลบั้มที่เป็นตัวตนชัดเจนในแนวทางของวงคือ “Ride the Lightning” (1984) ที่เป็นดังแบบร่างของความยิ่งใหญ่ ก่อนตามด้วย “Master of Puppets” (1986) ที่เป็นอัลบั้มแห่งตำนานเมทัล เป็นสุดยอดอัลบั้มของวง และเป็นอัลบั้มแทรชเมทัลที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก
จากนั้นเมทัลลิก้ากอบโกยความสำเร็จจาก “...And Justice for All” (1988) เป็นอัลบั้มคู่ ซึ่งมาพร้อมกับมือเบสคนใหม่ “เจสัน นิวสเตด” (Jason Newsted) ที่เข้ามาแทนที่ “คลิฟ เบอร์ตัน” (Cliff Burton) ผู้ล่วงลับ กับซาวนด์ของวงที่เริ่มเปลี่ยนไป
ถัดมาเป็นอัลบั้ม “Metallica” (1991) หรือ “The Black Album” ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี อัลบั้มชุดนี้แม้จะงานดนตรีที่เบาสุด (ลดระดับจากแทรชมาเป็นเฮฟวี่) แต่ก็เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มในตำนาน เนื่องจากเป็นอัลบั้มที่โด่งดังที่สุด ขายดีที่สุด ประสบความสำเร็จสูงสุด สามารถขยายนฐานแฟนเพลง ทะยานขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ได้ในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงมีเพลงฮิตอยู่หลายเพลงด้วยกัน นอกจากนี้ความยิ่งใหญ่ของ Black Album ยังสร้างชื่อเสียงให้กับวงเมทัลลิก้าอีกมากมาย
หลังจากนั้นเมทัลลิก้าก็ทิ้งช่วงไปราว 5 ปี ก่อนจะทยอยส่งอัลบั้มออกมาแบบมีการทิ้งช่วง ไม่สม่ำเสมอ กระทั่งล่าสุดหลังทิ้งช่วงจาก “Hardwired... to Self-Destruct” (2016) อัลบั้มชุดที่ 10 ไปประมาณ 7 ปี วงเมทัลลิก้าได้หวนคืนสู่การทำสตูดิโออัลบั้มอีกครั้ง ก่อนจะประกาศผลงานอัลบั้มใหม่ “72 Seasons” ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในปีหน้า (2023) ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ซึ่งงานนี้บรรดาชาวหูเหล็กและสาวกเมทัลลิก้าต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้ง