ความสามารถที่พิเศษสุดที่ “ฟรานเชสโก ทริสตาโน” (Francesco Tristano) จะนำมาแสดงที่กรุงเทพฯ ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดแสดงทัวร์ทั่วโลกเพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่ของเขา On Early Music (โซนี่ คลาสสิคัล) ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ โดยฟรานเชสโก จะเปิดการแสดง 3 โชว์ ที่แตกต่างและไม่ควรพลาด สำหรับทั้งแฟนๆ ทั้งเพลงคลาสสิกและเพลงอิเล็กทรอนิก โดยเริ่มด้วย การแสดง Piano 2.0 ณ อาคาร AUA ในวันศุกร์ที่ 10 มิถุนยายน ตามด้วยการแสดง Electronic live set ที่ Bangkok Island ในวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน ก่อนจะส่งท้ายการเยี่ยมเยียนกรุงเทพฯ ของเขาในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน ด้วยคอนเสิร์ต On Early Music ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยความร่วมมือกับวงดนตรีรอยัลแบงค์คอกซิมโฟนีออร์เคสตร้า (RBSO)
การแสดงที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว จะเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของรายการแสดงดนตรีของกรุงเทพฯ ในเดือนหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย
ฟรานเชสโก ทริสตาโน เกิดที่ลักเซมเบิร์ก เขาฝึกเป็นนักเปียโนเพลงคลาสสิกที่โรงเรียน Juilliard ที่มีชื่อเสียงในแมนฮัตตัน โดยเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กในช่วงปลายทศวรรษที่ 90 ซึ่งความความหลงใหลในโทนเสียงที่สะอาดและจังหวะเร้าใจของเพลงเทคโนของเขาได้เริ่มต้นขึ้น ความต้องการที่จะรวมความรักในการเล่นเปียโนคลาสสิกเข้ากับแนวเพลงอิเล็กโทรนิกา นำมาสู่คอนเสิร์ตเปิดตัวในชื่อ Not For Piano ในปี 2007 โดยคอนเสิร์ตนี้เขาได้เล่นคัฟเวอร์ดนตรีเฮาส์แบบดีทรอยต์ซึ่งเป็นไอคอนิก และเพลงเทคโน รวมทั้งเพลงคลาสสิก Strings of Life โดยเดอร์ริก เมย์ (Derrick May)
“ด้วยความจริงที่ว่า ขนาดเพลงของ Bach ยังสามารถใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงหรือซินธิไซเซอร์ (Synthesizer) เล่นได้อย่างไพเราะจับใจ แล้วทำไมเพลงของคาร์ล เครก หรือเดอร์ริก เมย์ จะไม่ไพเราะเมื่อเล่นด้วยเปียโนเหมือนกันล่ะ” ทริสตาโน ตั้งข้อสังเกต ความโด่งดังของทริสตาโน เกิดขึ้นเมื่อปี 2011 เมื่อเขาเซ็นสัญญากับค่าย Deutsche Grammophon ซึ่งเขาร่วมอัดเสียง 3 เพลง โดยได้แรงบันดาลใจจากการขึ้นเป็นนักเปียโนในคอนเสิร์ตที่โด่งดังทั่วโลก ได้แก่ Bach/Cage (2011), Long Walk (2012) และ Scandale (2014) ซึ่งเขาอัดเสียงร่วมกับ อลิซ ซารา ออต
ในปี 2017 ฟรานเชสโก ทริสตาโน เริ่มการทำงานร่วมกับโซนี่ คลาสสิคัล โดยมุ่งไปที่ความพยายามผลิตผลงานของตัวเองในเฟสใหม่ในฐานะศิลปินเจ้าของเพลง เขาผู้ขึ้นชื่อว่าเป็น เจ้าแห่งการทดลองในด้านเสียงเพลง ได้ทำการผสมผสานความสมบูรณ์แบบของเปียโน และเสียงกึกก้องกัมปนาทของอิเล็กโทรนิกเข้าด้วยกัน งานของทริสตาโน พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง และท้าทายความคาดหวังของโลกดนตรี และด้วยความทุ่มเทที่เขามีให้กับนวัตกรรมทางดนตรี ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเปียโนที่น่าตื่นเต้นที่สุดของวันนี้ เป็นเรื่องยากที่จะหาศิลปินเพลงคลาสสิกที่ได้อิทธิพลทั้งจาก Bach และ Daft Punk สำหรับทริสตาโน เขามองว่าการแบ่งประเภทของเพลง ถือเป็นข้อจำกัดทางดนตรีมากจนเกินไป
เพลงใหม่จากชุด On Early Music เป็นสัญญาณว่าทริสตาโน ได้กลับมาหาผู้เป็นแบบอย่างทางดนตรีในช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งที่อยู่ในใจเขาเป็นพิเศษ ซึ่งสอดประสานอยู่ในผลงานแต่งเพลงดั้งเดิมของเขา คืองานจากผู้ประพันธ์เพลง และนักออร์แกนชาวอังกฤษที่ยิ่งใหญ่บางคน เช่น ออร์แลนโด กิบบอนส์, จอห์น บูล, และปีเตอร์ ฟิลลิปส์ และหนึ่งในแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่ของทริสตาโน คือนักประพันธ์เพลงชาวอิตาเลียน Girolamo Frescobaldi อย่างไรก็ตาม งานเพลงในชุด On Early Music ไม่ได้เป็นการอุทิศให้แก่ผู้เป็นแบบอย่างของเขาเท่านั้น แต่ยังให้ความสดใหม่ ความร่วมสมัย ซึ่งต้องขอบคุณความเยี่ยมยอดของโปรดักชั่น และความเป็นมืออาชีพของสตูดิโอ รวมถึงมุมมองที่เฉียบคมในรายละเอียดต่างๆ
สำหรับการแสดง Piano 2.0 ที่น่าตื่นตาตื่นใจของเขานี้ จัดขึ้นด้วยความร่วมมือกับยามาฮ่า โดยทริสตาโน จะเพิ่มความซับซ้อนของความเป็นมินิมัลลิสต์ที่มีมนต์ขลังให้กับเพลงยุคเรอเนซองส์ และบาโร้ค โดยใช้เครื่องมือในการแสดงซีเควนเซอร์ และซินทิไซเซอร์ที่ทันสมัยล่าสุด
ซื้อบัตรเข้าชมและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคอนเสิร์ต ที่อาคารเอยูเอ (สำหรับการแสดง Piano 2.0 วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน) และที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (สำหรับการแสดง On Early Music วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน) ได้ที่ rbso@bangkoksymphony.org หรือ 02 255 6617-18/ 02 255 9191-2
คอนเสิร์ตสนับสนุนโดย Cargolux, King Power, Siam Music Yamaha, B. Grimm, Indorama Ventures, Paul Wurth, Muang Thai Insurance, Villeroy & Boch, Rotarex, SET และ OSM.