xs
xsm
sm
md
lg

“วิน อังคทะวานิช” ออกมิวสิควีดีโอ แต่งเอง ร้องเอง ลุยหาเสียง ลงการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตา และคุ้นกับน้ำเสียงนุ่มๆของหนุ่มมาดเท่ “วิน-เมธวิน อังคทะวานิช” อดีตนักร้อง นักแต่งเพลง พิธีกรและผู้ประกาศข่าวมากความสามารถ วันนี้ วิน ยอมวางไมค์ ที่ตัวเองรักชั่วคราว ถอดสูทโก้มาสวมแจ็คเก็ตค่ายสีฟ้า บอกเล่าอุดมการณ์และความตั้งใจในการรับใช้สังคมให้ชาวบ้าน ในพื้นที่เขตพญาไทในฐานะที่เคยอยู่ในวงการบันเทิง และเป็นนักแต่งเพลงมาก่อน การหาเสียงครั้งนี้ วินได้นำความสามารถที่มี มาเป็นต้นทุนมาทำงานการเมือง

กลายเป็นผู้สมัคร ส.ก.เพียงคนเดียว ที่ทั้งแต่งเนื้อร้องและทำนองเพลงที่ใช้หาเสียงด้วยตนเอง“ผมเคยทำงานในวงการเพลง เป็นนักร้องและแต่งเพลงออกอัลบั้ม มีเพลงที่คุ้นหูคนฟัง เช่น ไม่นานเกินรอ ใจอุ่นอุ่น จากนั้นได้เป็นพิธีกรรายการทีวี “ที่นี่…ประเทศไทย” และผู้ประกาศข่าว ซึ่งในช่วงที่เป็นพิธีกรผมก็ได้แต่งเพลงให้กับทางรายการด้วย”

สำหรับเพลงที่จะใช้หาเสียงในครั้งนี้ วิน เลือกเพลง“มือที่มองไม่เห็น” ที่เขาแต่งเนื้อร้องและทำนองรวมถึงร้องเองด้วย “ผมแต่งเพลงนี้จากประสบการณ์และความรู้สึก มันคล้ายๆกับเวลาเราเจอเรื่องตื่นเต้นหรือมีความประทับใจอะไรแล้วเราก็มาเล่าให้เพื่อนฟัง การแต่งเพลงก็คล้ายๆกัน ผมก็กลั่นกรองประสบการณ์และความรู้สึกออกมาเป็นเนื้อร้องและทำนองเพื่อเล่าให้คนฟังเข้าใจ

ความประทับใจของเพลงนี้คงมาจากประสบการณ์จริงของตัวเอง เวลาที่เรามีความทุกข์ มีน้ำตา แล้วมีคนรับรู้และอยู่ข้างๆเรา มันทำให้เรามีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้ต่อ แม้ว่าวันนี้หลายคนอาจมีปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาชีวิตแต่ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถลุกขึ้นสู้และเดินไปข้างหน้าได้เสมอ”

วิน ยังเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเลือกใช้เพลงนี้อีกว่า “ผมเคยทำโปรเจกต์เล็กๆส่วนตัว ชื่อว่า “วันสุข” เป็นการซื้อของกินของใช้นำไปให้คนไร้บ้าน นั่งคุยกับเขา รับฟังและเข้าใจเขา ไม่เพียงแค่ผู้รับจะมีความสุขนะ

ผมเองก็มีความสุขด้วย ดังนั้น ถ้าผมสามารถใช้เพลงนี้สื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ขึ้น และทำ “วันสุข” ให้คนจำนวนมากได้มีความสุขไปพร้อมกันได้ มันก็คงจะเป็นเรื่องวิเศษมาก”สำหรับงานที่ทำมาตลอดและเป็นความภาคภูมิใจของเขา นอกเหนือจากงานเพลง คือการเป็นอาสาสมัครนำทีมไปช่วยเหลือชาวบ้านในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นการรับใช้สังคมที่ทำให้สุขใจ และยังได้ต่อยอดเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยในช่วงโควิด-19 ที่ระบาดหนักอีกด้วย







กำลังโหลดความคิดเห็น