สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) : สบร. หรือ OKMD (Office of Knowledge Management and Development: Public Organization) OKMD ร่วม เชิญชวนคนไทยท่องเที่ยวไปด้วย เรียนรู้ไปด้วย ตลอดปีกับ 12 สุดยอดแหลล่งเรียนรู้สร้างสรรค์ประจำปี หลังจากทุกภาคธุรกิจหยุดชะงักจากสถานการณ์โควิด-19 ตลอดปี 2565 เชื่อมั่นการท่องเที่ยวยังคงเป็นรายได้ หลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และยกคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น เหตุยังมีแหล่งท่องเที่ยว เรียนรู้ที่ น่าสนใจและค้นหาทั่วไทยอีกมาก
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวว่า “อยาก ชวนคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่เรียกว่า ‘การเดินทางเชิงความรู้’ หรือ Knowledge-based Tourism ซึ่งเป็นการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน หย่อนใจ แสวงหา และเรียนรู้ไปตามที่ต่างๆ ไปพร้อมกัน ซึ่งแตกต่างจากการเดินทางท่องเที่ยวแบบที่เราคุ้นเคย ที่มีเป้าหมายในการพักผ่อน ผ่อนคลาย การเดินทาง เชิงความรู้เป็นที่นิยมในยุโรป ที่ผู้คนจะออกเดินทางเพื่อเรียนรู้ และเติมเต็มประสบการณ์ให้กับชีวิต สนุกสนาน ไม่เคร่งเครียด และได้ความรู้ประเภทฝังลึก (Tacit Knowledge) ที่จะอยู่กับเราไปนาน
“ช่วงสองปีที่ผ่านมาพบว่า คนไทยเรียนรู้จากสื่อออนไลน์เป็นหลัก แต่การเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์จะ แตกต่างกับการเรียนรู้ที่เกิดจากการได้ออกไปสัมผัสประสบการณ์จริง ได้หยิบจับ สัมผัส และเห็นของจริง เราจึงทำการศึกษา และจัดทำข้อมูลจากฐานข้อมูลการท่องเที่ยวที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 4,000 แหล่ง และคัด สรรมา 12 แหล่ง และมีเครือข่ายที่มีแหล่งย่อย ๆ ในบริเวณใกล้เคียงรวมแล้วจำนวน กว่า 100 แหล่ง ทำ ให้คนไทยมีสถานที่ที่น่าสนใจและสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยสามารถเข้าไปศึกษา ค้นคว้าข้อมูลก่อนออกเดินทาง ได้ที่ www.okmd.or.th”
สำหรับ 12 เดือน 12 สุดยอดแหล่งเเรียนรู้สร้างสรรค์ประจำปี ที่ทาง OKMD คัดสรร ตามความ เหมาะสมของฤดูกาล สถานที่ตั้ง เทศกาล อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน มีทั้งแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์ เกษตรกรรม ชาติพันธุ์วิทยา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลินไป กับการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยกคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่
1.มกราคม : อุทยานธรณี จังหวัดสตูล เป็นหนึ่งในอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) ที่มีทั้งหมด 120 แห่ง และเป็นแห่งแรกของไทย ช่วงเวลานี้เป็น High Season ของฝั่งอันดามัน จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวแถบนี้
2.กุมภาพันธ์ : อุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งโบราณคดีที่แสดง พัฒนาการทางสังคมและศาสนาของมนุษย์ ช่วงเดือนนี้อากาศเย็นเหมาะกับการเดินทางเที่ยวชม
3. มีนาคม : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย จังหวัดชลบุรี พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ริมทะเล เดือน นี้เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอ่าวไทย ผู้เข้าชมจะได้ชื่นชมกับจุดชมวิวในมุมสูง
4. เมษายน : โฮงเฮียนสืบสานล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ เมษายนตรงกับเทศกาลสงกรานต์ นักท่องเที่ยว นิยมไปเที่ยวเชียงใหม่ นอกจากจะได้องค์ความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านล้านนาแล้วยังมีกิจกรรมพิเศษในช่วงเทศกาล สงกรานต์อีกด้วย
5. พฤษภาคม : อุทยานธรรมชาติวิทยาสิริรุกขชาติ และพฤกษาดุริยางค์ (พิพิธภัณฑ์ต้นไม้ดนตรี) ช่วงนี้ เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ต้นไม้เริ่มเขียวขจี สวยงาม และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สมุนไพรอีกด้วย
6. มิถุนายน : Space Inspirium อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ จังหวัดชลบุรี ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ในร่ม ดังนั้นแม้เป็นช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวก็สามารถเข้าชมได้
7. กรกฎาคม : โครงการชั่งหัวมันตามแนวพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ก่อตั้งขึ้นในเดือนนี้ โครงการนี้ ตั้งอยู่กลางหุบเขาที่งดงาม เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาหาความรู้ด้านเกษตรกรรมและพลังงาน
8. สิงหาคม : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ มีทางเดินลอยฟ้าที่ออกแบบ ให้กลมกลืนกับการชมธรรมชาติ สถานที่แห่งนี้มีการจัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบรม ราชชนนีพันปีหลวงในเดือนนี้
9. กันยายน : อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เดือนนี้เป็นหนึ่งในสี่ช่วง ที่เหมาะแก่การชม พระอาทิตย์ขึ้นที่ปราสาทพนมรุ้ง
10. ตุลาคม : วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร ถือเป็นมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของไทย เป็นช่วงที่เหมาะแก่การศึกษาเรื่องสุขภาวะ และเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวด้วย
11. พฤศจิกายน : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ตรงกับเทศกาลลอยกระทง ซึ่งสุโขทัยถือ เป็นต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ จึงเหมาะกับการมาเยือนในช่วงเวลานี้อย่างยิ่ง
12. ธันวาคม : หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย ที่นี่ให้ความรู้และมีความน่าตื่นเต้น ประกอบกับเป็นช่วงฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยวมักนิยมมาเยือนภาคเหนือ