“คริสโตเฟอร์ โนแลน” อำลา Warner Bros. ที่ร่วมสร้างผลงานระดับคลาสสิกด้วยกันมาอย่างเป็นทางการแล้ว หลังการร่วมงานกันมานานถึงเกือบ 20 ปี โดย “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ตัดสินใจหอบโปรเจ็คหนังดราม่าเล่าเรื่องการค้นคิดระเปิดนิวเคลียร์ไปสร้างกับ Universal Pictures แทน
หลังจุดเริ่มต้น การสร้างหนัง Insomnia เมื่อปี 2002 กับ Warner Bros. นับแต่นั้นเป็นต้นมา คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้กลายเป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของ Warner Bros. มาตลอด และร่วมกันสร้างผลลานที่ประสบความสำเร็จมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นไตรภาค Batman ที่หนังสองภาคหลังอย่าง The Dark Knight กับ The Dark Knight Rises สามารถทำเงินผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญฯ ได้ทั้งคู่ ร่วมถึงหนังไซไฟที่ประสบความสำเร็จทั้งแง่รายได้ และคำวิจารณ์อย่าง Inception กับ Interstellar
แต่เมื่อปีก่อนได้เกิดปัญหาขึ้นเพราะผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 กับการฉายหนังไซไฟ Tenet ที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ไม่เห็นด้วยที่ทาง Warner Bros. ตัดสินใจฉายหนังเรื่องนี้พร้อมกับการเผยแพร่ทางสตรีมมิง
ตัวของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ถึงกับเรียก HBO Max บริการสตรีมมิงของ Warner Bros. ว่าเป็น “สตรีมมิงที่ห่วยที่สุด” ในวงการกันเลยทีเดียว
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา จึงมีข่าวลือมาตลอดว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน น่าจะ “พอแล้ว” กับการทำงานกับ Warner Bros. และกำลังฟังข้อเสนอจากสตูดิโอทั่วฮอลลีวูดสำหรับเป็นบ้านใหม่ของหนังชีวประวัติ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ ที่ว่ากันว่าจะเป็นผลงานเรื่องต่อไปของเขา
ซึ่งล่าสุดก็ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน เลือกที่จะทำหนังเรื่องนี้กับ Universal Pictures
“แหล่งข่าวบอกว่าหนังได้รับไฟเขียวให้สร้างได้อย่างเป็นทางการแล้ว และน่าจะเปิดกล้องได้ในไตรมาสแรกของปี 2022” Deadline อ้าง
โดยหนังเรื่องนี้จะเล่าถึงชีวิตของ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ นักฟิสิกส์ชาวสหรัฐอเมริกาผู้เป็นบิดาของระเบิดปรมาณู โดยเขาเป็นผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการสร้างระเบิดปรมาณูเพื่อยุติสงครามในโครงการแมนฮัตตันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีข่าวว่า ซิลเลียน เมอร์ฟีย์ น่าจะรับบทสำคัญบทหนึ่งในเรื่อง
