ว่ากันว่านอกจากความสามารถ ความพยายาม และความมานะอดทนแล้ว สำหรับความเชื่อของชาวเอเชียนั้นการที่คนเราสักคนหนึ่งจะประความสำเร็จในชีวิตได้เรื่องของโชคลาภวาสนาก็มีส่วนไม่น้อย
เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจแต่อย่างใดที่จะมีคนส่วนหนึ่งพยายามไขว่คว้า ค้นหาวิธีการต่างๆ นานาเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ "มองไม่เห็น" ดังกล่าว
โดยหนึ่งในคนที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในตอนนี้ก็เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนักร้องหญิงไทยหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี BLACKPINK อย่าง "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" ที่กำลังสร้างชื่อตัวเองในระดับโลกกับงานโซโล LALISA ซึ่งหลายคนมองว่าเจ้าตัวนั้นคือหนึ่งในสายมูเตลูตัวจริงคนหนึ่งก็ว่าได้
เริ่มกันตั้งแต่ "ชื่อ"
เดิมเจ้าตัวมีชื่อเล่นและชื่อจริงว่า "ป๊อกแป๊ก ปราณปรียา" อย่างไรก็ตามหลังจากที่ไปทำการออดิชันกับค่ายเพลงเกาหลีและไม่ได้รับการตอบรับเสียทีทำให้เธอตัดสินใจให้ญาติที่มีความรู้ในเรื่องของศาสตร์การดูหมอที่มารดาและเธอเรียกว่า "ป้าใหญ่" ดูดวงให้
ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนชื่อให้เธอเป็น "ลลิซ ลลิษา" ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ที่ได้รับการยกย่อง" และก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจทีเดียว เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันเธอก็กลายเป็นเด็กเพียงหนึ่งเดียวจากจำนวนกว่า 4 พันคนที่ค่ายเพลงจากเกาหลีเลือกให้ไปเป็นศิลปินฝึกหัด
ทั้งนี้ในขณะที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะหนึ่งในสมาชิก BLACKPINK นักร้องหญิงก็ถูกจับจ้องถึงเรื่องนี้หลังเจ้าตัวหยิบเอาสร้อยแบรนด์ไทย “ระวิภา” (RAVIPA) ที่จัดทำเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับโชคลาภในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยองค์พระตรีมูรติ, เจ้าแม่กวนอิม, องค์พระศิวะ, กิเลน, ปี่เซียะ ฯ มาสวมใส่
รวมถึงล่าสุดกับการเปิดตัวมิวสิควิดีโอซิงเกิ้ล LALISA เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมาก็ยังมีหลายคนโยงเข้ามาในเรื่องของมูเตลูจนได้
เนื่องจากในวันดังกล่าวเป็นหนึ่งในกี่วันของปีนี้ที่เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์บ้านเกิดของเธอที่ถูกนำมาประกอบเป็นส่วนหนึ่งในตัวมิวสิควิดีโอดังกล่าวซึ่งหลายคนเชื่อว่าถ้าเรื่องนี้ไม่ถูกคิดเอาไว้ก่อนก็ถือเป็นถือเป็นความบังเอิญเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้หลายคนยังโยงไปอีกว่าในวันที่ 10 ก.ย. ที่มีการปล่อยตัวมิวสิควิดีโอนั้นตรงกับวัน "คเณศจตุรถี" หรือวันเกิดพระพิฆเนศ หนึ่งในเทพที่คนบันเทิงส่วนใหญ่ให้ความเคารพบูชากราบไหว้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามตัวเลขตรงนี้ค่อนข้างจะไม่ตรงกันสักเท่าไหร่
เนื่องจากการบูชาพระพิฆเนศนั้นจะทำกันในวันแรม 4 ค่ำ เดือน 9 และวันแรม 4 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวันที่พระพิฆเนศเสด็จลงมาเพื่อประทานพรแก่ผู้บูชาและเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์ ซึ่งหากดูในปฏิทินก็จะพบว่าแรม 4 ค่ำ เดือน 9 และแรม 4 ค่ำ เดือน 10 ของปีนี้ตรงกับวันที่ 27 สิงหาคม และ 25 กันยายนนั่นเอง
...
1 ปีมี 4 ครั้ง พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ลอดช่อง 15 ประตู “ปราสาทพนมรุ้ง”
“ธนิสา วีระศักดิ์ศรี” ผู้ออกแบบสร้อยข้อมือสายมู “RAVIPA” ที่ลิซ่า BLACKPINK ยังต้องใส่!