“หยอง ลูกหยี” โต้หิวแสงเกาะกระแส “ป๋าเทพ” ยันไม่ใช่ตลกตกยาก มีงานในวงการตลอด แถมมีธุรกิจที่ต่างประเทศ เสื้อผ้าที่ใส่ก็ส่งมาจากต่างประเทศทั้งนั้น เชื่อ “ป๋าเทพ-นุ้ย” แค่เห็นต่าง แต่ซัด “ยุ้ย ญาติเยอะ” หมดยุค หมดสภาพ ไม่มีงานมาตั้งนานแล้ว ยังจะออกมาด่าป๋าเทพอีก จวกม็อบไม่ควรออกมาตอนนี้เพราะโควิด จะขับไล่ใครก็ตามใจ แต่ต้องไม่จาบจ้วงสถาบัน มั่นใจอีกกี่ปีกี่ชาติเมืองไทยก็ขาดสถาบันไม่ได้ เห็นใจ "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ ที่ถูกด่าเยอะที่สุด
เป็นตลกรุ่นใหญ่อีกคนที่ออกมาพูดเชียร์ฝั่งรัฐบาลแล้วโดนทัวร์ลงไม่น้อย สำหรับ “หยอง ลูกหยี” ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อนเจ้าตัวก็โดนหาว่าเกาะกระแส “ป๋าเทพ โพธิ์งาม” ล่าสุดเจ้าตัวก็เลยออกมาไลฟ์ชี้แจง บอกว่าตนไม่ได้เกาะกระแสใคร และที่สำคัญตนไม่ได้ตกอับอย่างที่ใครเข้าใจ เพราะยังมีงานในวงการตลอด
“วันก่อนอาจจะรุนแรงไป วันนี้จะพยายามเซฟๆ ลง ตัวเงิน ตัวทองก็จะไม่พูดนะ พวกอุปกรณ์การเกษตรหรือว่าควายก็จะพยายามพูดให้น้อยที่สุดนะครับ แล้วยอดไลก์ 2 วันที่ผ่านมาก็ขอบคุณมากนะครับ ผมก็ไม่ได้หวังอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น ผมไม่ได้รับเงินรับทองมาจากใคร ผมพูดจากความรู้สึกของผม ชาวบ้านคนหนึ่ง บางรายก็ออกมาบอกว่าผมเกาะกระแสป๋าเทพ เห็นป๋าเทพขายขนมเปี๊ยะดีก็เลยออก จริงๆ ผมทำแบบนี้มานานแล้วเดือนละ 1-2 ครั้งนะครับ เพราะเราก็เป็นประชาชนคนนึงก็วิพากษ์วิจารณ์ได้
ผมไม่ได้ไปยกย่องรัฐบาล รัฐบาลก็ไม่ได้ถูกอะไรทุกอย่างนะครับ มีอะไรเชื่องช้า มีอะไรที่ไม่ทันหลายเรื่อง แต่วันนี้บางคนก็บอกผมหิวแสง เข้าใจผิดครับ ผมไม่ใช่หิวแสงนะครับ จากใจจริงต่อหน้าพระ ผมเป็นคนหนีแสงด้วยนะจะบอกให้รู้ ผมไม่ใช่ตลกตกยาก ตกอับนะ งานหน้าจอผมมีตลอด สังเกตได้ มีทุกช่อง แต่ทีนี้คนที่เขาไม่ยุ่งการเมืองเขาก็อาจจะไม่ชอบ คนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หมั่นไส้ผมก็อาจจะไม่จ้างผมอะไรก็แล้วแต่”
เชื่อ “ป๋าเทพ” กับ “นุ้ย เชิญยิ้ม” แค่เห็นต่างกันเท่านั้น
“ผมเองไม่ได้ตกยากอะไรมากมายหรอกครับ ไม่เหมือนที่สื่อเขาเอาไปเผยแพร่ อันนั้นเขามาหลอกสัมภาษณ์ผมเรื่องโควิด แล้วก็แอบมาถามผมว่าเป็นยังไงพอขึ้นเวทีกปปส.แล้วคนเลิกคบโน่นนี่นั่น ผมก็บอกว่าคนที่คิดไม่เหมือนผมก็อาจจะมีบ้าง แต่เราตลกไม่ได้ทะเลาะกัน เหมือนกรณีป๋าเทพกับนุ้ย เชิญยิ้มนี่ผมต้องเรียนให้ทราบ ผมไม่ได้ว่าเลย บางคนไปแซะให้ตลกทะเลาะกัน
ป๋าเทพเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพรัก และป๋าเทพเป็นคนเล่นไปตามความรู้สึก พูดไปตามความรู้สึก แล้วป๋าเทพอาจจะเจ๊ง อาจจะไม่ประสบความสำเร็จอะไรมา แต่ป๋าเทพไม่เคยโทษอะไรเลย ผมไม่ได้เกาะกระแสป๋าเทพ ผมไม่ได้มาขายขนมเปี๊ยะ ผมขายลาบ ขายก๋วยเตี๋ยว แต่ของผมส่งไม่ได้ ตอนนี้ผมต้องปิดด้วยซ้ำทำตามทางการเขา แต่นั่นร้านแม่ยายไม่ได้เกี่ยวกับผมหรอก เพราะว่าผมตัวคนเดียวแล้ว ผมไม่ได้มีเมีย
นุ้ย เชิญยิ้มก็เป็นน้องชายที่น่ารักของผมนะครับ เราอยู่กันมาตั้งแต่เด็กๆ นุ้ยอายุ 13-14 ตอนนั้นผมก็ประมาณ 19-20 เราอยู่วงการด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ นะครับ นุ้ยก็เป็นน้องชายที่อาจจะดื้อบ้าง แต่พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก มีครอบครัวที่อบอุ่น ผมก็ดีใจกับน้องด้วย นุ้ยกับป๋าเทพผมมองนะอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญที่นุ้ยอาจจะโพสต์พอดีกับจังหวะป๋าเทพไลฟ์ ถ้านุ้ยพูดความจริงก็จะเป็นแบบที่นุ้ยพูดนั่นแหละ เพราะนุ้ยมันมองเห็นคนละมุมกับผมอยู่แล้ว ถึงจะเป็นพี่น้องกันก็จริง แต่เห็นกันคนละมุมก็ไม่ว่ากัน เราต้องเปิดใจกว้าง แต่ไม่ใช่ต้องขัดแย้งกัน มันไม่ใช่เรื่อง
ทีนี้คนฝั่งนุ้ยกับคนฝั่งป๋าเทพมันก็มาบูลลี่ใส่กัน ก็เลยทำให้สองคนเกิดปัญหาได้ ฉะนั้นแล้วป๋าเทพก็ต้องหนักแน่น นุ้ยก็ต้องหนักแน่น อย่าไปคล้อยตามใคร อันนี้พูดในฐานะเราคนบ้านเดียวกัน วงการเดียวกัน”
ซัด “ยุ้ย ญาติเยอะ” หมดยุค หมดสภาพ ไม่มีงานมานานแล้วยังจะออกมาด่า “ป๋าเทพ”
“พวกดาราที่ออกมาบูลลี่ ออกมาด้อยค่าวัคซีน ออกมาด่ารัฐบาล คุณบอกจะอดตายอยู่แล้ว ใครเขาก็จะอดตายทั้งนั้นแหละ ทุกประเทศเป็นแบบนี้หมดเลย อย่างยุ้ย ญาติเยอะ อีห่- มึงก็ต้องรู้สิ มึงมันหมดยุคไปแล้ว ศิลปินคลื่นลูกใหม่มันขึ้นอย่างกับอะไร มึงจะมาด่าป๋าเทพกะโหลกกะลา ครูบาอาจารย์ มันไม่ใช่ เพราะมึงมันหมดสภาพไปแล้ว งานมึงมันไม่มีตั้งแต่ก่อนที่ยิ่งลักษณ์จะมาเป็นนายกฯ อีก เพราะกูก็เห็น
ผมนี่เตรียมตัวไว้แล้ว กลับมาอยู่บ้าน มาซื้อตึก มาสร้างบ้านเอาไว้ ผมไม่ได้ตกยากหรอก ผมอยู่ได้ มีธุรกิจหุ้นร้านอาหารอยู่ต่างประเทศด้วยซ้ำ เสื้อผ้านี่ก็ส่งมาจากต่างประเทศ ยุโรปผมก็มีหุ้นกับเพื่อน แต่ตอนนี้เขาก็โดนวิกฤตเหมือนกัน เขาก็หยุด อย่ามาบอกว่าผมเป็นตลกตกยาก ตลกลำบาก ทุกคนก็ลำบากหมดแหละ ทุกคนก็ไม่มีงาน ผมก็อยากมีงานทำ ผมเบื่อ
บางคนเข้ามาสมน้ำหน้าเมียเลิก ก็มีอยู่ น่ารักดี (หัวเราะ) ไม่ชอบไม่เป็นไร เพราะผมเลิกกับเมียมันเป็นอุบัติเหตุทางครอบครัว ผมถูกกระทำ ผมไม่ได้เลวร้าย ผมตั้งใจทำมาหากิน ผมดูแลลูกเต้าดี ผมดูแลเมียดี ถึงแม้ผมจะผ่านมาหลายคนก็จริง แต่ผมก็ไม่เคยทอดทิ้งใคร อีกอย่างผมก็ยังมีงานในวงการ ผมก็ยังอยู่ได้ ผมมีธุรกิจ แต่บอกไม่ได้หรอกว่าผมทำอะไรบ้าง ผมก็ทำหลายอย่าง ผมอยู่ได้ เพราะผมรู้ว่าวิกฤตนี้มันเป็นวิกฤตโลก ไม่ใช่มาตีโพยตีพายพอมีปัญหาเรื่องโควิดก็เอาเรื่องวัคซีนเข้ามาตีรวมกับการเมือง มันก็ไม่ใช่นะ คนไทยต้องดูนะครับว่าต่างประเทศเขาเป็นยังไง เราเป็นยังไง”
บอกพวกม็อบจะขับไล่ใครก็ไม่ว่า แต่อย่าจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์
“วันนี้มีม็อบมีอะไรที่บ้านเรา ผมก็ไม่ได้ว่านะ คุณจะออกไปไล่ใคร คุณไม่ชอบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ไปไล่ แต่ถ้าจะมาจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันฯ อันนี้มันค่อนข้างรับไม่ได้ หลายๆ คนก็อาจจะเป็นแบบผมนี่แหละครับ ตัวเลขมันเพิ่มขึ้นทุกวัน ผมว่าม็อบตอนนี้มันไม่สมควรเลย มันไม่เหมาะกับการสร้างม็อบมากๆ เพราะคนไทยอยู่ด้วยกันอย่างหวาดระแวง ต้องระวัง ทั้งที่คนไปม็อบบางคนก็ติดเชื้อแล้ว คนก็ออกมายอมรับว่าติดเชื้อแล้ว อันนี้เป็นการซ้ำเติมวิกฤตประเทศไทยจริงๆ นะครับ
ผมถามว่าทำเพื่ออะไรครับ อีกไม่นานก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว พอยุบสภาแล้วใครจะมาเป็นนายกฯ อันนี้ก็น่าเห็นใจนะครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกครับ เอาอย่างนี้ อีกปีกว่าๆ นิดๆ เอง มันก็มีการเลือกตั้งแน่นอน ทำไมไม่หยุดใส่ร้ายป้ายสี ไม่หยุดด่ากันสักที ในยุคที่โควิดมันซ้อนโควิดแบบนี้ ผมก็ไม่เคยเห็นว่านายกฯ คนไหนจะโดนด่ามากเท่าพลเอกประยุทธ์ พลเอกประยุทธ์เป็นคนน่าสงสารครับ ผมเห็นใจท่านมากเลยนะ ท่านเหนื่อย ท่านต้องระแวงกับคนด่า คนประท้วง แล้วต้องมาระแวงพรรคร่วม มาระแวงในสภาฯ ด้วย แล้วคนใกล้ตัวก็ไม่ค่อยได้ปกป้องท่านเท่าไหร่
พลเอกประยุทธ์น่าเห็นใจ แต่ท่านไม่เด็ดขาดหลายเรื่อง ผมยอมรับเลยว่าท่านเกรงใจพรรคร่วม เกรงใจพี่น้อง รุ่นพี่ที่เอามาทำงานด้วยกัน คนดี คนชั่วมันมีอยู่ทั่วไป มีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลเราก็รู้กันอยู่ ฉะนั้นแล้วท่านนายกฯ ต้องเด็ดขาดกว่านี้นะครับ ไหนๆ เขาก็บอกว่าท่านเป็นเผด็จการอยู่แล้ว ท่านก็ต้องเอาให้สุดๆ เลยครับ ไม่ต้องไปเอาขนาดจอมพลสฤษดิ์ ไม่ต้องเอาขนาดจอมพลป.ขนาดนั้นก็ได้ ท่านมาปฏิวัติด้วยความจำเป็นอยู่แล้ว ทีแรกท่านก็ไม่อยากปฏิวัติอยู่แล้ว ทุกคนอยากปฏิรูป แต่ทีนี้มันปฏิรูปไม่ได้ ก็ต้องค่อยทำกันไป”
ยืนยันประเทศไทยยังคงต้องมีระบอบกษัตริย์ที่จะต้องอยู่ไปอีกนานแสนนาน
“ก็มีคนว่าผมเยอะว่าผมเป็นสลิ่ม ผมก็ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไรนะ ผมรู้แต่ว่ามันอร่อย เมื่อวานผมก็เพิ่งกินสลิ่มกับทับทิมกรอบ (หัวเราะ) ฉะนั้นสิ่งที่ผมบอกมา ทัศนะทางการเมืองของผมชัดเจน ที่ผ่านมาอาจจะยืนข้างกปปส. แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ผมก็ออกไปยืนในแนวฉบับของผม เข้าไปด้วยจิตใต้สำนึก
ผมว่าบ้านเราขาดพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้จริงๆ ท่านเป็นศูนย์รวมใจ จะอีกกี่ปีกี่ชาติมันก็ไม่ได้ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่มาชั่วนาตาปี และจะต้องอยู่ไปอีกยาวนานแสนนาน บางคนบอกว่าผมเลียจังนะเจ้าน่ะ โอ้โห มึงเอาอะไรคิดวะ ไม่ได้เลีย แต่กูปกป้อง กูเป็นคนเลือดรักชาติ กูได้ยินเพลงชาตินี่กูปลื้มใจมากเลย วันที่น้องเทนนิสได้เหรียญทอง ผมดูแล้วผมร้องไห้จากใจจริงเลย ผมนึกสะท้อนว่าในขณะที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย แต่เด็กผู้หญิงคนนึงอายุ 20 ปีเธอเก็บตัวฟิตซ้อมไต่เต้าขึ้นมาใช้เวลา 10 กว่าปีแล้วประสบความสำเร็จได้เหรียญทอง มันสง่างามมากครับ”