กลายเป็นประเด็นสังคมสำหรับการบุกรวบตัวจับ “อาบี” หรือ “น.ส. ปกชนน์ ดิษยบุตร” พร้อมกับ “นก อุษณีย์ วัฒฐานะ” ว่าทำเกินไปกว่าเหตุไหม เพราะบางข่าวถึงขั้นพาดหัวว่ามีการนำกำลังบุกจับโดยคอมมานโดเลยทีเดียว ทำให้หลายคนที่เสพข่าวนี้ถึงกับตกใจว่าแค่คดีหมิ่นประมาท ทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ยังขอประกันตัวได้ในชั้นสอบสวน จนทำให้ “นก อุษณีย์” ได้พูดระหว่างถูกนำตัวไปสอบสวนว่า “ทำไมต้องทำขนาดนี้ ไม่ได้ไปฆ่าใครตายซะหน่อย” รวมไปถึงยังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
“ชี้แจงค่ะ..เราไม่เคยหลบหนีหมายเรียกตามที่มีข่าวออกไป ไม่เคยขาดการติดต่อกับพนักงานสืบสวนเจ้าของคดี มีหลักฐานการติดต่อและหนังสือ แจ้งเลื่อนเข้าพบครบถ้วน ที่มาโคราชเพราะรับปากชาวบ้านไว้เรื่องทำโรงทาน เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้ไม่ยกเลิกนะคะ เจอกันเหมือนเดิมตามที่ อสม.ได้ประสานไว้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
แต่ด้วยหลักของกฎหมายแล้ว หากเจ้าหน้าที่ได้ส่งหมายเรียกไป 2 ครั้งแล้ว แต่ยังได้รับการปฏิเสธ พอครั้งที่ 3 เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับ ก็หมายถึงว่าเจอที่ไหนหรือว่าทราบว่ากบดานอยู่ตรงไหนก็สามารถรวบตัวได้ทันที่ ด้าน “พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี” สว.(สอบสวน) สน.บางเขน เปิดเผยว่า
“คดีนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ทนายความของฝ่ายนก อุษณีย์และ อาบี ทราบแล้วว่า พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 โดยนัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ โดยในช่วงเช้าเวลา 09.00 น.จะนำตัวอาบีไปส่งต่อพนักงานอัยการคดีแขวงดอนเมือง 9 ศูนย์ราชการ ศาลเพื่อพิจารณาสำนวนในความผิดฐานหมิ่นประมาท จากนั้นจึงนำตัวนก อุษณีย์พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ไปมอบให้แก่พนักงานอัยการคดีอาญาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก
โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่ในฐานะพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เพียงพอจะฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ยนั้นในชั้นตำรวจได้เลยจุดนั้นมาแล้ว เพราะก่อนที่จะออกหมายจับได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาแต่ไม่มาพบ มีการขอเลื่อนนัดถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกในช่วงกลางเดือนเมษายนอ้างว่าป่วย ทางพนักงานสอบสวนได้อนุญาต ต่อมาช่วงพฤษภาคมได้ขอเลื่อนเป็นครั้งที่ 2 พนักงานสอบสวนได้แจ้งว่าจะให้เวลาถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคมเท่านั้น หากประวิงเวลาพนักงานสอบสวนจะออกหมายจับ
ซึ่งตัวผู้ต้องหาทราบดี กระทั่งมาขอเลื่อนเป็นครั้งที่ 3 พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต เมื่อเห็นว่าผู้ต้องหายังคงเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ได้กักตัวตามที่อ้าง ทั้งนี้เป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนในการพิจารณาขอศาลออกหมายจับ ส่วนเขาจะอ้างว่าอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของตัวผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานปฏิบัติไปตามหน้าที่”