xs
xsm
sm
md
lg

รายการทีวีญี่ปุ่นบุกพิสูจน์สาวบิ๊กไบค์ลึกลับคนสวย กลับเจอลุงวัย 50 แทน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นกระแสฮือฮาในสังคมออนไลน์ของญี่ปุ่นอยู่ในตอนนี้ กับกรณีของสาวบิ๊กไบค์ผมบลอนด์หน้าตาดี ที่มีชื่อว่า “อาโออิ โซยะ” เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า azusagakuyuki

โดยในบัญชีทวิตเตอร์ที่เธอเข้าร่วมตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 ได้ให้รายละเอียดไว้ว่า เธอสูง 166 ซม. อาศัยอยู่ที่อิบารากิมัน รักการขี่มอเตอร์ไซค์ ชอบเที่ยว ภูเขา ทะเล แต่กระนั้นก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เท่าใด ในขณะที่ในทวีตดังกล่าวก็ได้มีการโพสต์ภาพตนเองกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กระทั่งมีหลายคนให้ความสนใจเข้ามาติดตามกันมากมาย

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หนุ่มๆ หลายคนสนใจอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเธอ ก็มีบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่าตัวตนของเธอจะเป็นเหมือนกับที่ในโลกออนไลน์หรือไม่ โดยเฉพาะหลังภาพรถภาพหนึ่งที่เธอโพสต์นั้น เป็นที่สังเกตว่าในกระจกรถนั้นได้มีใบหน้าของผู้ชายกำลังยกโทรศัพท์มือถือทำท่าถายภาพสะท้อนขึ้นมา จนเป็นที่เถียงกันว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟน พ่อ หรือใคร?

งานนี้หลายคนเลยติดต่อไปยังรายการวาไรตี้ที่มีชื่อ “เก็ตสึโยบิคาระโยะฟุกาชิ” หรือ “ราตรีวันจันทร์” (Monday Late Show) เพื่อพิสูจน์และคลายข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับนักบิดสาวลึกลับคนนี้

หลังจากที่ทางรายการติดต่อไปยัง “อาโออิ โซยะ” อีกฝ่ายก็ตกปากรับคำ ทีมงานจัดการนัดหมายเจ้าตัวในสถานที่แห่งหนึ่งของอิบารากิ ซึ่งพอถึงเวลา “โซยะ” ก็ขับรถบิ๊กไบค์คันที่หลายคนเห็นบ่อยๆ ในทวิตเตอร์เข้ามา อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ผู้ขับเปิดหมวกกันน็อกออกมา ก็ทำเอาทีมงานต้องตะลึง!

เพราะแทนที่จะได้พบกับสาวผมบลอนด์หน้าตาดีเหมือนกับในทวิตเตอร์ ใบหน้าภายใต้หมวกกันน็อกกลับเป็นลุงคนหนึ่ง ซึ่งแม้จะมีผมบลอนด์เหมือนกัน ทว่า ใบหน้าของเขากับภาพหญิงสาวในทวิตเตอร์ก็ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

โดย “อาโออิ” ตัวจริงในวัย 50 เปิดเผยแบบตรงไปตรงมาว่า สาเหตุที่ตัดสินใจแต่งภาพของตนเองเป็นผู้หญิงว่า...“เพราะไม่มีใครอยากเห็นคุณลุง ใครๆ ก็อยากเห็นผู้หญิงสวยๆ”

เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนโพสต์ภาพหน้าจริงๆ ลงไปแทบจะไม่มีใครสนใจเลย แต่พอแต่งภาพเป็นใบหน้าหญิงสาวปรากฏว่า แต่ละภาพมีคนมากดไลก์หลายพันไลก์ให้เขา พร้อมกับสาธิตการใช้แอปฯ ในมือถือเปลี่ยนภาพใบหน้าของตัวเองให้กลายเป็นหญิงสาวให้ดู

เรียกว่าเรื่องนี้ก็พาเอาชาวเน็ตญี่ปุ่นถึงกับบอกเหมือนๆ กัน ว่า ไม่สามารถไว้วางใจโลกในอินเทอร์เน็ตได้อีกต่อไปแล้วจริงๆ

ที่มา https://www.setn.com/News.aspx?NewsID=910993















กำลังโหลดความคิดเห็น