“แพท” ร่ำไห้อบอุ่นหัวใจ ภาพฝันที่ฝันมาตลอด 20 ปี วันนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว เชื่อเพลงใหม่จะทัชความรู้สึก ยอดวิวเป็นกำไร อยากให้คนดูได้อะไรกลับไป จะเป็นความภูมิใจในชิ้นงาน เพื่อนร่วมวงอ้อนหากได้ 100 ล้านวิว จะวิ่ง 100 กิโล จำคิวงานไม่ไหว แน่นไปถึงเดือนมิ.ย. แล้ว แพทไม่รู้ตัวเขิน “แอฟ” มีความสุขได้เจอใกล้ๆ
วันที่รอคอยก็มาถึงซะที สำหรับ “แพท พาวเวอร์แพท” หรือ “วรยศ บุญทองนุ่ม” เพลงใหม่หลังออกจากเรือนจำที่ได้ทำกับเพื่อนร่วมวง อาทิ ฟ้า ปัณณวิช, เปรม วริทธิ์ธร, เจี๊ยบ กมลชัย ได้ทำตามความฝันที่รอมานานถึง 20 ปี โดยในงานเปิดตัวเพลง “ต้องคำสาป" วันนี้ ที่ ร้าน Chill Chill Restaurant ถ. เลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา ทำเอาหนุ่มแพทตื้นตันใจจนร้องไห้ออกมา
แพท : “โอ้โห วันนี้มันเต็มอิ่ม มันตื้นตัน มันมีความสุข หลากหลายอารมณ์มากเลยครับ เหมือนภาพความฝันที่เราฝันมาตลอด 20 ปี แล้วมันเกิดขึ้นจริงคือทุกคนมาร่วมบรรยากาศในวันนี้ด้วยกันคือมันเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ เลยครับ”
เปรม : “มันเหมือนได้ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วโดยความรู้สึกแล้วไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง”
ฟ้า : “ก็เหมือนได้กลับมาร่วมเล่นดนตรีกับเพื่อนอีกครั้งหนึ่งมีความสุขมากอย่างที่พี่แพทบอกเลยครับ”
เจี๊ยบ : “ผมก็รู้สึกดีมากครับคิดถึงเพื่อนๆ”
แพท : “วันนี้เป็นมินิคอนเสิร์ตครั้งแรกในการรวมตัวของเรา มีความสุขที่เราได้กลับมาเล่นดนตรีด้วยกัน และแน่นอนว่าได้เล่นต่อหน้าพี่ๆ สื่อมวลชน และต่อหน้าแฟนคลับ รวมถึงแฟนคลับที่อยู่ทางบ้านที่ชมไลฟ์ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์ของพวกเรา ที่ทุกคนมาร่วมกันในวันนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นเกียรติมากครับที่มาร่วมงาน รวมถึงติดตามดูไลฟ์ในการเล่นดนตรีของเราในวันนี้”
มองต้นสังกัด เป็นค่ายน้องใหม่ที่มีคุณภาพ ตั้งใจมอบความสุขให้แฟนๆ เต็มที่
แพท : “คือก่อนหน้านี้ผมได้ดูงานทางค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์มาพอสมควร ได้เห็นศิลปินที่ออกมาก่อนหน้านี้ ผมก็รู้สึกว่าเป็นค่ายน้องใหม่ที่มีคุณภาพ แล้วก็ศิลปินแต่ละท่านก็เป็นศิลปินที่มีความสามารถ และโปรเจกต์ ขอบคุณที่กลับมา ผมว่ามันทำให้แฟนๆ ทุกคนที่โหยหาบรรยากาศในยุคเก่าๆ ได้กลับมาฟังเพลงในแบบที่ตัวเองคิดถึง ได้ดูศิลปินที่ตัวเองรักที่ตัวเองชอบอีกครั้งนึง ผมว่ามันเป็นความสุขนะครับ ไม่ว่าจะเป็นในตัวของศิลปินเองหรือจากแฟนเพลง ผมว่าโปรเจกต์เป็นโปรเจกต์ตั้งใจที่จะมอบความสุขให้กับทุกๆ คนอย่างเต็มที่
เรื่องเซ็นสัญญาผมว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องทีหลังมากกว่าครับ ผมได้คุยกับทางค่ายข้าวสารแล้วผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ความเป็นครอบครัว ผมถึงตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับทางข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ครับ เราคุยกันไว้สองปีครับ ก่อนหน้านี้มีติดต่อมาเยอะมากครับ เรื่องค่ายเพลงต่างๆ แต่ว่าสุดท้ายแล้วเรามาลงเอยที่นี่ครับ”
อย่าเพิ่งน้อยใจ ต่อไปจะจัดมีตติ้งให้แฟนๆ ได้เจอมากกว่านี้
แพท : “อบอุ่นมาก เราทราบกันดีในเรื่องของสถานการณ์ โควิด-19 ก็มีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดในเรื่องของคนที่เข้างานผมว่าถ้าในสถานการณ์ปกติน่าจะมากันแน่นหนามากกว่านี้อีกเยอะ ยังไงก็อย่าพึ่งน้อยใจนะครับ ต่อไปในอนาคตหากสถานการณ์ปกติ ผมว่ายังมีโอกาสที่เราจะจัดมีตติ้งหรือกิจกรรมดีๆ ให้แฟนคลับได้มาพบกับพวกเราในเร็วๆวันนี้ ยังไงก็อดใจรอครับ ถ้าช่วงนี้ถ้ายังคิดถึงกันอยู่ก็ช่วยติดตามกดไลก์กดแชร์มิวสิควิดีโอของเราด้วยนะครับ
ร่ำไห้ดูมิวสิก ภาพความอบอุ่นส่งผลต่ออารมณ์ ตื้นตันและสะเทือนใจ
แพท : “อย่างที่เรียนไว้บนเวทีเมื่อสักครู่ ผมได้ดูมิวสิกวิดีโอตัวนี้ตั้งแต่ตอนที่เราตัดกันแรกๆ และทุกครั้งผมก็เสียอาการทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมเป็นหนักมาก เพราะว่ามิวสิกวิดีโอที่ได้ถูกคัดกรองแล้วก็ตัดในแบบที่เราคิดว่ามันสมบูรณ์ที่สุดแล้ว แล้วก็สื่ออารมณ์ในเรื่องราวตามชีวิตของเราถ่ายทอดอารมณ์ได้ตามที่เราตั้งใจที่จะแสดงไว้ที่สุดแล้ว บวกกับบรรยากาศของความอบอุ่นในวันนี้ บวกกับแฟนคลับพี่น้องน้องที่มารวมกัน บรรยากาศแบบนี้มันเป็นการส่งอารมณ์ให้ยิ่งรู้สึกตื้นตันและสะเทือนใจมากขึ้นกว่าทุกครั้ง
น้อยมากที่จะเห็นแบบนี้ คือมันเป็นเรื่องเศร้าที่เราเฝ้าฝันอยู่ตลอดเวลาแล้วในเรื่องของมิวสิกวิดีโอมันเป็นเรื่องของชีวิตของเราเองอยู่แล้ว ในเรื่องราวที่ผ่านมามันเข้ามาในหัวอีกครั้งหนึ่งมันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”
เป็นเรื่องชีวิต รอคอยคนที่รักด้วยความหวัง เชื่อจะทัชความรู้สึก
แพท : “คือมันเป็นเรื่องของชีวิตจริงมันเป็นเนื้อหาของเพลงเพลงนี้ที่เราได้ตั้งใจที่จะเขียนจริงๆ เรื่องของการรอคอยคนที่เรารักด้วยความหวัง มันเป็นเรื่องที่ผ่านเข้ามา แล้วเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องของตัวเราเอง คนที่ได้ฟังความหมายของเพลงเพลงนี้น่าจะอินไปในเรื่องของตัวเองได้ไม่ยาก
คนที่อาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองรักด้วยจำเป็นหรือเหตุจำเป็น อาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องมาทำงานในกรุงเทพฯ หาเงินส่งเสียไปให้ลูกที่ต่างจังหวัด อาจจะไม่ได้กลับไปดูแลลูก แต่ก็ยังคิดถึงเขาตลอดคืออะไรต่างๆ เหล่าเนี่ยมันสามารถทัชความรู้สึกของคนได้ไม่ยากกับเพลงนี้ ต้องคำสาป"
ส่วนการขีดกระดานนับวันเวลา มันเป็นเรื่องของเทคนิคในการเล่าเรื่องมากกว่า จริงๆ เราไม่ถึงขั้นมานั่งขีดผนังหรอก ในเรือนจำเนี่ยเราไปขีดอะไรเขาจะฟ้องเราข้อหาทำข้าวของราชการเสียหาย(หัวเราะ) เขาห้ามขีดเขียนใดๆ ทั้งสิ้นนะ แต่ว่ามันจะมีแค่คล้ายกันคือเรื่องของการขีดฆ่าปฏิทิน มันจะมีลักษณะนี้เกิดขึ้น แล้วเราจะนับวันนับคืนเฝ้ารอวันที่เราจะออกมาตลอด มันเป็นในส่วนของตัวแทนความรู้สึก
ในส่วนของนางเอกเอ็มวีก็คือพลิกล็อกไปเลย คือทำให้มันรู้สึก อยากให้ทุกคนเดาว่านางเอกเอ็มวีคือใคร สุดท้ายมันก็คือคุณแม่ของเรา ที่ดูแลเราแล้ว เราก็คิดถึงอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายเราก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนทุกวันนี้
เนื้อหาของเอ็มวีมันเป็นเรื่องของเราก็ได้มีการพูดคุยกับทีมทางมิวสิกวิดีโอซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพมาก คือเขาได้ทำมิวสิกวิดีโอหลายตัวที่มียอดวิวเป็นร้อยๆ ล้านวิว ซึ่งผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับทีมมิวสิกวิดีโอนี้ แล้วก็เรื่องของการคิดภาพต่างๆ เขาค่อนข้างที่จะละเอียดมาก คือมันมีผลต่อการส่งต่อการแสดงของผมด้วย คือการแสดงออกมาแล้วมันกลมกลืนเนื้อหา กลมกลืนกับฉากต่างๆ ผมว่ามันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญครับ ส่วนร่วมก็มีมากมาย ทั้งเรื่องการแสดง การออกความคิดเห็น รวมถึงเรื่องของการตัดต่อด้วยครับ
เปรมเผยเพื่อนอินเป็นเรื่องปกติ ถ่ายทอดจากชีวิตจริง
เปรม : “คือโดยส่วนตัวผมดูหนังที่สร้างจากชีวิตจริงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตัวเอ็มวีมันถ่ายทอดออกมาจากชีวิตจริง เราสามารถที่จะอินกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยากเลย เปิดดูกี่ครั้งก็คือก็คือเป็นฟีลนี้ทุกครั้งเลยนี่พูดจริงๆ
แพท : “ก่อนทำเอ็มวีถามว่ามีหลายตัวเลือกไหมก่อนลงเอยเป็นเรื่องราวของเรา เราเคยมีการคุยกันหลายครั้งนะครับว่า เอ๊ะ หรือจะเป็นเรื่องของทหารที่ไปรบอยู่ชายแดนภาคใต้แล้วก็ห่างไกลจากบ้านหรือเปล่า สุดท้ายมันก็ไม่อินเท่ากับสิ่งที่มันกำเนิดมาจากเพลงนี้ นั่นก็คือเรื่องของตัวตนเรา มันก็เลยมาจบลงที่ว่า มันน่าจะเป็นเรื่องของชีวิตเราที่ถ่ายทอดมาในมิวสิกวิดีโอมากกว่า”
ไม่หวั่นกระแสดรามา
แพท : “ผมว่าไม่ครับ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันเป็นความรู้สึกดีๆ ในการรอคอย แน่นอนว่าการเข้าไปอยู่ในเรือนจำมันเป็นเรื่องของการรับโทษทางกฏหมาย แต่ในขณะนึงมันเป็นสถานที่ๆ เราได้รู้จักพัฒนาแล้วก็ปรับทัศนคติบางอย่างในตัวเราเองด้วย ผมว่าสิ่งที่ดีมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ มันไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องในเรือนจำหรอกครับผม แล้วเรื่องที่เราถ่ายทอดมันเป็นเรื่องในมุมดีๆ ที่เรารอคอยอย่างมีความหวังครับ”
ยอดวิวเป็นกำไร อยากให้คนดูได้อะไรกลับไป จะเป็นความภูมิใจในชิ้นงาน
แพท : “เรื่องของการคาดหวังในงานชิ้นนี้ ผมบอกได้เลยว่าการที่ผมได้นำชีวิตออกมาจากเรือนจำ ได้มาเจอเพื่อน ได้มาเล่นดนตรี แล้วยิ่งได้นำเพลงที่ผมเขียนข้างในออกมาเป็นตัวเพลงจริงๆ และมีมิวสิกวิดีโออีก ก็เกินสิ่งที่ผมคาดคิดและคาดหวังมากแล้ว
ส่วนต่อจากนี้จะได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับหรือจากคนไทยทั่วประเทศ ได้ยอดวิวอะไรเท่าไหร่ ยังไงต่างๆ หรือวงนี้จะเดินต่อได้ดังขนาดไหน มันเป็นเรื่องของกำไรแล้ว ผมไม่ได้ตั้งความหวังหรือคาดหวังกับสิ่งนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าได้ก็ดี ถ้าถามถึงตัวเลขในใจเท่าไหร่ก็ได้ แค่ขอให้ทุกคนได้ดูและได้อะไรกลับไปจากมิวสิกวิดีโอนี้ และทำให้มีความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้น ได้ข้อคิดดีๆ ตรงนี้เป็นความภูมิใจของผมในงานชิ้นนี้แล้ว”
อ้อนขอหลายล้านวิว แต่ถ้าได้ร้อยล้านวิว จะวิ่งร้อยกิโล
ฟ้า : “ยอดวิวก็หวังอยู่ครับ อยากให้เรื่องราวของแพท คนรู้สึกอินเข้ามาดูกันเยอะๆ ถ้าได้หลายล้านวิวก็ดีครับ ถ้าได้ร้อยล้าน เดี๋ยววิ่งร้อยกิโลเลยครับ”
เจี๊ยบ : “ก็คาดหวังบ้างครับ ได้เล่นกับพวกพี่ๆ เขาก็ดีกว่าครับ ให้พี่ฟ้าเขาวิ่งแก้บนครับ”
แพท : “ผมปั่นจักรยานครับ ผมมีความสุขกับการปั่นจักรยาน (หัวเราะ)”
จำคิวงานไม่ไหวจริงๆ ยาวถึงมิ.ย. แล้ว ทุกคนอ้าแขนรับ ที่สุดแล้วในชีวิต
แพท : “ผมไม่อยากมานั่งจำแล้วว่าวันๆ ผมต้องไปไหนบ้าง คือแล้วแต่ทางทีมงานเขาจะพาผมไปไหน ผมจำไม่ไหวจริงๆ ครับ รู้สึกว่าตอนนี้คิวงานวงจะยาวถึงมิถุนายนแล้ว คอนเสิร์ตเดือนหน้าคิวเต็มแล้ว ความรู้สึกตอนนี้ที่แฟนๆ ต้อนรับ มันเป็นความอบอุ่น ความตื้นตัน ทุกคนอ้าแขนรับเราที่ทุกคนอยากเจอ อยากฟังเพลงของพวกเรา มันที่สุดในชีวิตแล้วครับ”
เคลียร์งานประจำ ลั่นเป็นพรหมลิขิตได้กลับมาร่วมงานกัน
เจี๊ยบ : “ก็ต้องลาสอนบ้าง ต้องเคลียร์กับทางโรงเรียนที่สอนอยู่”
ฟ้า : “จริงๆ ช่วงนี้ผมว่างอยู่แล้วส่วนหนึ่ง เพราะโควิดไปไหนไม่ได้ มันเป็นจังหวะที่พอเหมาะ เหมือนที่แพทบอกว่ามันเป็นพรหมลิขิต เป็นโชคชะตาที่ทำให้เรากลับมา ถ้าเป็นช่วงปกติก็ไม่น่าจะได้อยู่เมืองไทย เพราะผมทำพวกทัวร์ปืนเขา ก็ไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทย ช่วงนี้เป็นช่วงเดียวที่อยู่”
เปรม : “ลักษณะงานผมค่อนข้างจะเป็นฟรีแลนซ์อยู่แล้ว เลยจะเมเนจเวลาได้เองอยู่แล้ว สบายมากครับ”
แพท : “เราไม่รู้เลยว่าจะมีวันนี้ เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายมากๆ ผมว่าแค่นี้มันก็เต็มที่แล้วครับ เรื่องคอนเสิร์ตเราเตรียมพร้อมอย่างมาก เราซ้อมกันบ่อย เตรียมโชว์ให้มันสุดๆ ไปเลย การแสดงสดเราก็ได้เตรียมพร้อมเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมในการเล่นด้วย”
เรตค่าตัวยังน่ารักอยู่
แพท : “ยังน่ารักนะ (ยิ้ม) เรื่องรายละเอียดต้องถามทางผู้รับงานครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน จริงๆ ผมโฟกัสเรื่องของการเล่นดนตรี ผมมีความสุขผมก็ล่นไป ได้เจอทุกคนก็เป็นอะไรที่สนุก อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ ส่วนร่างกายก็พร้อมครับ อายุ 40 กว่า แต่ยังเป๊ะปังกันอยู่”
ก็อยากจะขอฝากมิวสิกวิดีโอเพลงต้องคำสาปเป็นวิงเกิลแรกของพวกเราพาวเวอร์ แพท อยากจะให้เข้าไปดู กดไลก์ กดแชร์ ติดตามผลงานต่างๆ ของวงพาวเวอร์ แพท ต่อไป ฝากด้วยครับ”
ไม่รู้ตัวเอง เขิน “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” มีความสุขได้เจอใกล้ๆ
แพท : “(ยิ้ม) หลายคนได้เห็นในคลิปเขาหาว่าผมเขิน (หัวเราะ) คือรึเปล่าไม่รู้ ผมไม่รู้ตัวเอง แต่ดีใจและมีความสุขทีได้เจอคุณแอฟใกล้ๆ เขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถ มีความนอบน้อม มีความน่ารักอย่างมากเลยครับ สวยมากด้วยครับ
ก็ทำตัวไม่ถูกครับ ไม่รู้จะทำตัวยังไง เพราะเขาก็เป็นนักแสดงที่ดังมากๆ แฟนคลับเขาก็เยอะมาก คุณแอฟก็ไหว้ผมและขอบคุณเรื่องการสัมภาษณ์ต่างๆ ทุกครั้งที่ผ่านมาว่าคุณแพทตอบได้ดีมาก ตอบได้น่ารัก ขอบคุณที่ตอบคำถามให้เกียรติคุณแอฟมาก ตอนเขาขอบคุณผมก็ไหว้กลับ ขอบคุณเขาเหมือนกัน ผมเองก็ไม่คิดว่าจะมีข่าวอะไรแบบนี้กับคุณแอฟครับ เป็นอะไรที่ผมไม่กล้าคิดอยู่แล้วครับ
เรื่องการร่วมงานกัน อันนี้ก็ต้องแล้วแต่อนาคต ก็อยากเรียนตรงนี้ว่าผมอยากจะโฟกัสเรื่องงานคอนเสิร์ต งานเพลง การเล่นดนตรีกับเพื่อนก่อน ส่วนในอนาคตถ้าจะมีงานละครเข้ามาได้ร่วมงานกับคุณแอฟจริงๆ ผมขอให้เป็นเรื่องขออนาคตดีกว่า และก็ต้องสอบถามคุณแอฟด้วยว่ายินดีไหมที่จะมาร่วมงานกับผม ส่วนที่เขาบอกว่าสะดวกหากได้ร่วมงานกัน ก็ต้องรอดูต่อไปว่าจะเกิดขึ้นหรือเปล่า”
ยังคิดถึงการแสดงอยู่ ละคร ภาพยนตร์ติดต่ออื้อ แต่ยังรับไม่ได้
แพท : มีเยอะครับ ทั้งละครและภาพยนตร์ คิวผมยังรับไม่ได้เลย ถามว่าเสียดายไหม ผมว่าในอนาคตถ้าไทม์มิ่งลงตัว ก็อาจจะได้ร่วมงานกัน ยังไงก็ต้องขอขอบพระคุณผู้จัดละคร ผู้กำกับหนังทุกท่านที่ติดต่อผมมา ขอบคุณที่คิดถึงผม และต้องขอโทษด้วยที่ช่วงเวลานี้ยังไม่สามารถรับงานประเภทนี้ได้จริงๆ แต่ผมก็ยังคิดถึงการแสดงอยู่เหมือนกัน ยังไงผมว่าในอนาคตคงจะได้ร่วมงานกันครับ ขอบคุณครับ”
