“มะตูม” สารภาพดื่มแอลกอฮอล์ในห้องสูท! ขอโทษไร้จิตสำนึก รับเรียนไม่จบ ป.ตรี โคตรอายกับสิ่งที่ทำลงไป!

“มะตูม” เปิดหมดใจ สิ่งที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน สารภาพดื่มแอลกอฮอล์ในห้องสูทจริง ขอโทษ “ข้าวโอ๊ต” ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นดารา โต้ใส่ท่อหายใจใกล้ตาย ขอความยุติธรรมไม่เคยออกจากปากเรียนจบจาก ม.ศิลปากร ลั่นเรียนไม่จบ ป.ตรี เพราะอยากได้เงินมากกว่าใบปริญญา ด่าตัวเองเป็นคนไร้สามัญสำนึก เห็นแก่ตัว ทำให้ ปชช.ลำบาก โคตรอายกับสิ่งที่ทำลงไป

เจอสารพัดดรามาตั้งแต่ออกมาประกาศว่าติดโควิด-19 ทั้งเรื่องปกปิดไทม์ไลน์ที่แท้จริง ดื่มแอลกอฮอล์ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ควบคุมโรคระบาด โกหกเรื่องประวัติการศึกษา อ้างจบจาก ม.ศิลปากร แต่ไม่มีใครรู้จัก สำหรับ “มะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” ล่าสุดเจ้าตัวไลฟ์สดผ่านอินสตาแกรมชี้แจงทุกเรื่อง เผยอยากบอกในสิ่งที่ไม่เคยพูดมาก่อน ยอมรับว่าดื่มแอลกอลฮอล์ในห้องสูทจริง แต่ไม่ได้ดื่มบนปาร์ตี้ดาดฟ้าโรงแรม พร้อมรับโทษทางกฎหมายหลังจากนี้หากตนมีความผิด ยอมรับเป็นความหละหลวมและผิด การ์ดตกเอง อยากทำวันเกิดให้เป็นวันพิเศษ จึงนัดเพื่อนๆ มากินข้าวกัน ยันไม่เคยรู้มาก่อน “ข้าวโอ๊ต” เป็นดารา ถูกด่าก็แฟร์แล้ว พร้อมด่าตัวเองว่าจะไม่ใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หละหลวม แต่เป็นเพราะความไร้สามัญสำนึก เห็นแก่ตัว ประชาชนตาดำๆ ต้องมาเดือดร้อน โคตรอายกับสิ่งที่ทำลงไป

"อัปเดตอาการหลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วยความใกล้ชิดของหมอวันนี้เป็นวันที่ 15 พอดีครับ ครบ 14 วันตรวจแล้วยังพบเชื้อโควิดอยู่ แต่อาการแทรกซ้อนไม่มีเลย ปกติดีทุกอย่าง สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ผลเอ็กซเรย์ปอดออกมาก็ปกติดีครับ เดี๋ยวรอผลของวันนี้อีกรอบหนึ่ง ที่เหลืออยู่น่าจะเป็นซากเชื้อ แต่ก็ตัดสินใจยังอยู่โรงพยาบาลต่อ เพื่อตรวจหาเชื้อเพิ่มแบบละเอียดอีกครั้ง

หลังจากที่หายไป 2 อาทิตย์ วันนี้อยากจะพูดถึงกรณีวันเกิดของตูมในวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ขอแยกเป็น 2 ประเด็นจะได้เข้าใจง่ายๆ คือเรื่องข้อกฎหมายกับเรื่องข่าวลือข่าวโจมตี ในวันที่ 9 เป็นวันเกิดตูม แต่ปีนี้เราไม่สามารถจัดงานได้ ด้วยสถานการณ์โควิด แต่ปกติตูมจะจัดทุกปีตลอดอยู่แล้ว ตูมก็เลยตัดสินใจจะไปรับประทานอาหารกับคุณแม่กับเพื่อนที่สนิท เล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โต เรากะว่าแค่ไปกินข้าวกันปกติ เลยหาสถานที่ไปเจอโรงแรมสวยมาก เป็นชั้นดาดฟ้าชื่อห้องอาหารเวอร์ทิโก้ โรงแรมบันยันทรี เลยตัดสินใจจองไว้ประมาณ 8 ที่ เอาแค่เพื่อนสนิทจริงๆ ยืนยันนะครับว่าไม่ได้มีดาราและคนในวงการ คือเพื่อนนอกวงการทั้งสิ้น แล้วก็มีคุณแม่

แล้วใจตูมอยากมาตั้งแต่เช้าวันที่ 9 แล้วเข้าไปพักผ่อนในห้อง ตอนกลางคืนก็แต่งตัวสวยหล่อขึ้นไปรับประทานอาหารข้างบน แพลนตูมคือแบบนี้ เลยถามเพื่อนว่ามีใครจะเอาห้องบ้าง ซึ่งเพื่อนในไลน์กรุ๊ปก็บอกว่าจะเอา ก็เลยเปิดห้องเหมือนสวีตสูท เป็นห้องใหญ่ 3 ห้อง ในห้องจะมีห้องรับแขก แล้วก็มีห้องนอนแยกอีก 3 ห้องนอนได้ 6 คน

ก็มาที่ร้านเวอร์ทิโก้ประมาณ 1 ทุ่ม แต่เข้าไปเช็กอินห้องตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้ว จากนั้นประมาณ 19.30 น. เพื่อนก็เริ่มมาถึง แล้วก็รับประทานอาหารพร้อมกัน คือจริงๆ วันนั้น คนติดต่อตูมไม่ได้เยอะมาก เพราะมีคนส่งข้อความมาเยอะ ก็เลยให้เลขาเป็นคนรับเรื่องให้ว่ามีใครมา เลขาก็บอกมีคนมาเพิ่ม ซึ่งเราขอโต๊ะเพิ่มมาเป็น 10 ที่จนมาจบที่ 13-14 ที่ กลายเป็นโต๊ะยาว แล้วก็มีลูกค้าท่านอีกด้วย

จากนั้นก็ทานอาหารกันปกติ เสิร์ฟเป็นคอร์ส มีการแยกภาชนะแยกทุกอย่าง โรงแรมเขาเป็นระดับอินเตอร์สากลมาตรการไม่มีหละหลวมเลย วัดไข้ข้างล่าง ขึ้นเวอร์ทิโก้ก็ตรวจอีกรอบ ทุกอย่างมันดีมาก ก็เลยกลายเป็นว่านั่งทานกันทานเสร็จ ไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอล์นะครับ ขอยืนยันอีกเสียง เพราะอย่างที่บอกทางโรงแรมไม่มีการจำหน่ายแอลกอฮอล์อยู่แล้ว แล้วที่เห็นแก้วคือแก้วม็อกเทลน้ำส้ม

ซึ่งเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็สั่งน้ำผลไม้กันหมดเลย รวมถึงคุณแม่ตูมด้วย ไม่มีการเสิร์ฟเหล้าเหมือนกับตอนแรกที่ข่าวออกมาครับ พอ 20.30 น. พนักงานก็มาแจ้งว่าจะรับของหวานเลยไหม เพราะอีกครึ่งชม.ร้านจะปิดพอ 21.00 น. เขาก็ปิดเก็บโต๊ะเลย เกณฑ์ให้คนเริ่มทยอยลงเลย แต่ตูมไม่ได้ลงเลย ตูมยังอยู่ข้างบนถึง 21.15 น. เพราะถ่ายรูปอยู่ ตามที่โพสต์ในไอจี

จากนั้นพอจะลงมาลิฟต์ ซึ่งลิฟต์ร้านอาหารกับลิฟต์โรงแรม มันคนละตึกกัน เราต้องผ่านล็อบบี้ ซึ่งลงมาตูมก็เจอกลุ่มน้องที่อยากเอาของขวัญมาให้ตูม อีกประมาณ 4-5 คน ก็คือเอาช่อดอกไม้มาให้ แล้วก็ถ่ายรูปกันแล้วก็แยกย้าย แต่เพื่อนบางส่วนที่อยู่ที่เวอร์ทิโก้ที่ไม่ได้ค้าง แล้วก็ไม่ได้จองห้องไว้ เขาก็กลับบ้านครับ ส่วนเพื่อนที่จองห้องไว้ที่พักกับตูม เขาขึ้นห้องไปก่อนแล้ว เราก็ส่งเพื่อนกลับหมดประมาณ 4 ทุ่มก็ขึ้นไป

ทีนี้เรื่องในห้องพักที่มีการจั่วหัวข่าว ว่าเปิดห้องสูทปาร์ตี้ต่อ ตูมขออนุญาตไม่ใช่คำว่าปาร์ตี้นะครับ เพราะมันไม่ได้มีการปาร์ตี้ครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องสูท 3 ห้องก็อยู่กัน ตูมก็อยู่ของตูม ซึ่งตอนนั้นมีคนวิดีโอคอลมาเยอะมาก ส่งของขวัญ ส่งเค้กมาให้เรื่อยๆ มีเพื่อนที่มาไม่ทัน 21.00 น. ที่เวอร์ทิโก้ ก็เอาของขวัญมาให้ มาถ่ายรูปกันแล้วก็กลับครับ"

สารภาพดื่มเหล้าในห้องสูทจริง แต่เป็นเพื่อนหิ้วมาให้ ขอน้อมรับความผิดคนเดียว
"ทีนี้สิ่งที่ตูมอย่างจะพูดแต่ยังไม่ได้พูดที่ไหน คือเรื่องราวของการดื่มแอลกอฮอล์ในห้อง มีจริงๆ ครับอันนี้ คือต้องบอกก่อนว่า ตูมยอมรับว่ามันมีการดื่มเหล้าในห้องจริงๆ ซึ่งไม่ใช่เหล้าที่เอามาจากโรงแรม เพราะโรงแรมไม่มีการขายเหล้า แต่เพื่อนตูมที่มาหาทีหลังหิ้วมาเป็นขวดเลย เพราะปกติของขวัญที่ตูมได้ ไม่เป็นดอกไม้ ก็เป็นเหล้า แล้วก็เป็นเค้ก

จะมาโกหกว่าไม่กินเหล้าในห้องก็ไม่ได้ คือเราคิดว่าเราอยู่ในห้องส่วนตัวแล้ว อันนี้คือเราทำผิดครับ ตูมจะไม่ไปฟื้นว่าใครเป็นคนเริ่มเปิดเหล้า ตูมไม่พูดว่าใครขอเปิด แต่ในฐานะที่เป็นแม่งาน ตูมขอออกมายอมรับผิดเพียงคนเดียว ในกรณีครับซึ่งตูมก็ไม่รู้ว่าตูมจะโดนข้อกฎหมายไหนบ้าง แต่ตูมพร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน จะไม่มีการหนีความผิด

แล้วไม่ต้องกลัวว่าที่เล่ามาทั้งหมดจะเป็นการบิดเบือนข้อความต่างๆ เพราะทางเจ้าหน้าที่ได้มาเอาหลักฐานทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโรงแรม ตั้งแต่วันที่ตูมก้าวเท้าเข้าจนออกจากโรงแรมไปหมดแล้ว กล้องทุกมุม จำนวนคน ทุกสิ่งทุกอย่าง คือตามที่รัฐแถลงเลยครับ"

หละหลวมและผิดเอง เป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด
"อันนี้คือตูมหละหลวมและผิดเองครับ ถ้าตูมไม่อนุญาตเพื่อนหรือไม่รับไม่ทำให้การดื่มเหล้ามันเกิดขึ้นมัน ก็คงจะไม่มีการแพร่ระบาด พูดกันแบบตรงๆ คือการ์ดตก เพื่อนตูมคนหนึ่งไปพื้นที่เสี่ยงมา แล้วก็เอาเชื้อมาแพร่ในงานตามที่ข่าวออก แต่ตูมว่าการแพร่จริงๆ มันเกิดขึ้นในห้อง เพราะเราชนแก้วกัน แต่ตูมก็ไม่สามารถเล่าละเอียด เพราะไม่ได้อยู่ในห้องเพื่อนตลอดเวลา ตูมวิ่งออกมาถ่ายรูปกับเพื่อนอีกห้องหนึ่ง คือเดินเข้าเดินออกอยู่อย่างนี้ทั้งคืน จนน่าจะตีสอง จำเวลาไม่ค่อยได้ ตูมแยกย้ายไปนอน แต่เพื่อนดื่มต่อหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่ถามแล้วก็คือมีนั่งเมาท์มอยกันต่อ"

รู้สึกแย่มากที่เป็นต้นเหตุ
"ไม่ได้อยากจะปกปิดเรื่องของการดื่มเหล้าเลย แล้วก็มีการเปิดเหล้าจากมินิบาร์เพิ่มด้วย ก็ผิดครับตูมขอโทษครับ ขอโทษอย่างไม่มีอะไรมาแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้นครับ มันเป็นความผิดที่เกิดขึ้นจากตูม ตูมเป็นคนเริ่มถ้าวันนั้นไม่มีการนัดมารวมตัวกัน มันก็คงไม่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อครับ

เป็นความผิดที่รู้ว่ายากจะให้อภัยนะครับ ก็อยากจะให้สิ่งที่เล่าตอนนี้ เป็นประโยชน์กับทางเจ้าหน้าที่ทั้งกระทรวงสาธารณสุขทั้งกทม.ได้ดำเนินการต่อ ว่าตูมสามารถให้ชุดข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อการยับยั้งโรคระบาดนี้ยังไงบ้าง พอตูมมาทราบข่าวว่าเพื่อนคนหนึ่งติดจากวันเกิดตูม ตูมก็รีบไปตรวจทันที พอรู้ว่ารับเชื้อไม่เกินครึ่งชม. ตูมรีบแจ้งอัปคลิปลงทันที ไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไรอย่างแน่นอนนะครับ ว่าตัวเองเป็น

ตูมก็พยายามจะทำออกมาให้ดีที่สุดแล้วครับ รู้สึกผิดพลาดจริงๆ ตูมขอโทษครับ ที่ตูมไปกินข้าวในวันเกิดของตัวเอง ตูมขอโทษจริงๆ ขอโทษจริงๆนะครับ รู้สึกผิดจริงๆ ครับ ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนี้ยังไง มันแย่มากครับ"

ไปเชียงใหม่จริง แต่ไม่ได้ไปสถานบันเทิง
"ส่วนเรื่องไทม์ไลน์ที่คนพูดถึงกันเยอะมาก ทำไมไม่ใส่ที่ไปเชียงใหม่ในไทม์ไลน์ ตูมขอย้ำว่าไปเชียงใหม่มาจริง แต่ในสถานการณ์ที่เขาปิดทุกอย่างหมดแล้ว ไม่ได้ไปเจอคนเยอะ ไม่ได้ไปเจอใครที่ติดเชื้อโควิดเลย สองไม่ได้ไปสถานที่บันเทิงเหมือนที่ข่าวออกตอนแรก ว่าติดว่ามาจากสถานบันเทิง ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ ไม่ได้ไป แล้วก็ไม่อยากให้คนไปโทษจังหวัดไหนแล้ว ตอนนี้พี่น้องทางภาคใต้ ภาคเหนือ เขาเจอมาเยอะแล้วกับข่าวของตูม แล้วเขาก็กำลังจะดีขึ้น เพราะฉะนั้นการแพร่ระบาดทั้งหมด มันเริ่มจากงานวันเกิดตูมวันที่ 9 ครับ

ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อจากวันเกิดตูม ที่เป็นเพื่อนตูมนะ ตอนนี้อยู่ที่ 8 คน 8 คนนี้คือตูมรู้จักและพูดคุยเป็นการส่วนตัวแล้ว แล้วคนที่ไม่ติดรวมถึงคุณแม่ตูมด้วย ก็มีการกักตัวตั้งแต่ที่ทราบข่าวว่าตูมเป็น จนกระทั่งหลัง 14 วันก็ตรวจอีก แล้วก็ไม่มีใครพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อ เพราะฉะนั้นมันคือ 8 คนนะครับ ที่ติดจากงานตูม ซึ่งตอนนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลหมด แล้วหายดีกันหมดแล้ว เหลือแค่น้องข้าวโอ๊ต"

ขอโทษไม่รู้ "ข้าวโอ๊ต คริษฐ์ พรรณธรรม" เป็นดารา
ส่วนเรื่องข้าวโอ๊ต ตูมขอโทษจริงๆ ครับที่ตูมเคยให้สัมภาษณ์ในรายการไปว่าไม่มีเพื่อนดารามา ตูมไม่รู้มาก่อนจริงๆ ครับว่าข้าวโอ๊ตเป็นดารา จริงๆ จากใจจริงเลย ข้าวโอ๊ตคือแฟนของน้องสาวที่ตูมรักมากคนหนึ่งคือน้องแอ๋ม ซึ่งแอ๋มเป็นคนที่มาเซอร์ไพรส์เราในวันเกิด ตูมเจอข้าวโอ๊ตไม่เกิน 5 ครั้งแน่นอน แล้วก็ไม่เคยถามว่าเป็นดาราหรือเปล่า เพิ่งมารู้พร้อมทุกคน ว่าน้องเป็นศิลปิน ต้องขอโทษข้าวโอ๊ตด้วยที่พี่ไม่รู้ ขอโทษด้วยที่น้องต้องมาติดจากงานของพี่

จริงๆ มันไม่ต้องไปเจาะเลยครับ ว่าคนในงานตูมติดกี่คน ที่สำคัญคือมันมีการแพร่ระบาดในงานตูม ในฐานะเจ้าของงานวันเกิด ถ้าตูมมีจิตสำนึกที่ดี ถ้าไม่ทะลึ่งมากินข้าววันเกิด ให้เพื่อนมาเซอร์ไพรส์เพราะอยากรู้สึกสเปเชียลมัน ก็คงไม่มีการแพร่ระบาด อันนี้ตูมผิดครับ ตูมผิดอย่างหาข้อแก้ตัวไม่ได้ครับ ถ้าเลือกที่จะอยู่บ้านในวันเกิด คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จะไม่มีใครเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เลย"

ด่าตัวเองไร้จิตสำนึก ไร้ความรับผิดชอบ
"ตูมจะใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ไม่ได้นะครับ เพราะตูมรู้ว่าถ้ามีการแพร่ระบาดในงานเรา มันจะเกิดอะไรขึ้น ตูมรู้ ตูม 30 กว่าแล้วไม่ใช่เด็กๆ จะบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อันนี้ฟังไม่ขึ้น จะบอกว่าหละหลวมก็ไม่ใช่ครับ เพราะเราตั้งใจอยู่ในห้อง เราไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยอยู่แล้ว เราปล่อยให้คนมาอยู่รวมตัวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นในงานวันเกิดตูม ตูมขอให้คำว่าไร้จิตสำนึกและไร้ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ต่อให้เป็นที่พักผ่อนในโรงแรม มันก็คือผิด มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย

วันนี้ตูมได้รับคำตักเตือน ได้รับคำด่าทอมากมายจากสังคม ซึ่งมันแฟร์ครับ ตูมทำผิด ตูมสมควรได้รับโทษครับ และถ้าเกิดจะมีข้อกฎหมายอะไรต่างๆ ที่จะตามมาหลังจากที่ตูมกักตัว หรือว่าดูแลรักษาจนครบตามกำหนดแล้ว ตูมออกไปให้ปากคำได้ ตูมพร้อมที่จะไปรับฟังข้อกล่าวหาและพร้อมที่จะรับโทษในทุกๆ อย่าง ผิดว่าไปตามผิด ณ วันนี้เราคุยกันแต่ความจริง"

โวยถูกนำรูปปาร์ตี้วันเกิดปีก่อนมาตีเป็นข่าว
"ทีนี้มาเรื่องของข่าวโจมตีต่างๆ ที่น่าจะเยอะกว่าข่าวตูมติดโควิดอีก มันเยอะมากๆ อันดับแรกเรื่องที่บอกว่าเราไม่ได้จัดงานแค่คน 10 คนเห็นรูปมาเป็นร้อยคน อันนั้นคือวันเกิดปีที่แล้วครับ จัดอีกโรงแรมหนึ่งเลย คือมีสำนักข่าวเอาไปเล่น พอเป็นสำนักข่าวมันก็น่าเชื่อถือ แต่รูปนั้นมันเป็นรูปเก่า อยากให้หยุดแชร์ก่อน เพราะมันจะทำให้เกิดความเสียหายกับคนในภาพ"

โต้ติดโควิดตั้งแต่เดือนพ.ย. รักตัวกลัวตาย บอกติดตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เหลือแล้ว รักตัวกลัวตายเหมือนกัน
"แล้วต่อมาที่มีคนโจมตีว่าตูมติดโควิดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เพื่อนๆในกลุ่มรู้เลยไม่ให้มางานวันเกิด ขออธิบายก่อนนะครับ ถ้าติดตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆ นี่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว ปอดตูมคงไม่เหลือแล้วครับ ถ้าติดตั้งแต่ตอนนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เราจะปล่อย ตูมก็รักตัวกลัวตายเหมือนกัน ทราบว่าเสี่ยงตูมถึงไปตรวจ

ยันไม่ได้ใช้สารเสพติด
"อีกเรื่องคือการใช้สารเสพติดในงานตูม บอกว่าเห็นตูมมัดแล้วฉีดเข้าเส้น คืออธิบายเป็นช็อตๆได้เลย ไม่จริงนะครับ ไม่รู้จะหาหลักฐานอะไรมา แต่ฉีดเข้าเส้นอะไรขนาดนั้น คือเกินความเป็นจริงไปแล้ว แล้วคนที่พูดไม่ได้อยู่ในงาน ซึ่งเราก็ยอมรับแล้วว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์"

ไม่ต้องอธิบายนัวนายแบบ 4 คน เพราะไม่ใช่ความจริง
"แล้วก็เรื่องเรียกผู้ชายมาเอ็นเตอร์เทน นายแบบ 4 คนมารุมอะไรอย่างนี้ คือตูมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเรื่องนี้เลย เรื่องรสนิยมส่วนตัวของตูม คือตูมบอกเลยว่า ณ วันนั้นตูมไม่ได้เจอนายแบบ ตูมไม่ได้เจอนายแบบเลยสักคนหนึ่งตั้งแต่ปีที่แล้ว และไม่ต้องออกมาคอนเฟิร์มอะไร เพราะพี่ๆ สื่อก็ไปสัมภาษณ์น้องๆ ทุกคนเรียบร้อยก่อนตูมด้วยซ้ำ น้องๆ บางคนตูมไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตเลย บางคนก็เจอแค่งานอีเวนต์ ก็เคลียร์เรื่องนี้ไป"

ย้ำปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ - โทร.สั่งลาใส่เครื่องช่วยหายใจใกล้ตาย ไม่ใช่ความจริง
"อีกเรื่องคือเรื่องปาร์ตี้ที่บ้านย่านรังสิตคนมา 50 คน ตูมเอาผู้ชายมาอีก 15 คน มารุมใช้คำว่าเซ็กซ์หมู่ คือไม่เป็นความจริงนะครับ ตูมไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงเจอคน 60 -70 คนอยู่แล้ว อันนี้ไม่เป็นความจริง ตูมปล่อยผ่านไปเลย แล้วก็ข่าวที่บอกว่าโทรสั่งลารุ่นพี่ในวงการ แล้วก็ใส่เครื่องช่วยหายใจ กำลังจะตายแล้ว ก็ไม่จริงนะครับ ตั้งแต่รักษาอาการมา ไม่เคยใส่ท่ออะไรเลย ร่างการปกติดีทุกอย่าง

ไม่เคยหลุดจากปาก จบม.ศิลปากร
"ส่วนอีกเรื่องที่ค่อนข้างเครียดมากๆ คือเรื่องของประวัติการศึกษา ตูมขออนุญาตพูดชื่อมหาวิทยาลัย (ยกมือไหว้) ตูมยืนยันว่าตูมไม่เคยพูดที่รายการไหนหรือกับใครเลย ไม่เคยพูดว่าจบมาจากอักษรศาสตร์ม.ศิลปากร ไม่มีจากปากตูมแน่นอน เพราะไม่เคยจบจากที่นี่ ไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยไหนในประเทศไทยเลยครับ ตูมจบจากเยอรมัน ซึ่งคนก็ขุดว่าตูมจบจริงหรือเปล่าจบอะไร"

ไม่ต้องขุด ขอบอกเอง! ไม่จบป.ตรี เพราะอยากได้เงินมากกว่าใบปริญญา
"ไม่ต้องขุดหรอกครับ เดี๋ยวตูมขุดให้เลยตอนนี้ ตูมไม่ได้จบปริญญาตรีครับ ตูมจบแค่เพื่อต่อสายอาชีพครับ แล้วตูมก็เรียนไม่จบครับ ออกมาทำงานก่อน ตอนนั้นแม่ทำธุรกิจ ตูมอยากได้เงินมากกว่าใบปริญญาครับ อันนี้ไม่เคยพูดที่ไหน แต่คนขุดขนาดนี้แล้ว ตูมก็เลยต้องพูด ตูมรู้สึกว่าอันนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด หรือการจัดปาร์ตี้วันเกิดของตูมเลย ต่อให้ตูมไม่ได้จบสูง ก็คิดว่าไม่ได้มีผลอะไร ตูมก็ติดโควิดอยู่ดี (หัวเราะ)

เพราะฉะนั้นคนที่เขากุข่าวขึ้นมา ด้วยเจตนาที่ไม่ดีอยู่แล้ว ที่เข้าไปในวิกิพีเดียไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลเป็นร้อยครับ จนต้องระงับการเปลี่ยนข้อมูลของตูม เพราะมีคนเข้าไปเปลี่ยนเยอะมากในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

ตูมขอโทษชาวศิลปากรทุกคน ที่ตูมออกไปทำอะไรไม่ได้ นอกจากออกมาพูดในส่วนที่เป็นความจริง ที่ทุกคนออกมาด่ามาว่าตูม ตูมเข้าใจเลยนะครับ แต่ตูมไม่เคยพูดครับ ในเคสนี้ตูมถือว่าตูมอยากได้ความยุติธรรมเรื่องวุฒิการศึกษาด้วยครับ อันนี้ไม่ได้ อะไรที่มันไม่จริง มันก็คือไม่จริงครับ

ส่วนใครจะขุดเรื่องเก่าๆ สมัยเป็นเน็ตไอดอลก่อนเข้าวงการ ก็สิทธิของคุณทำได้เลยครับ แต่ตูมจะพูดในมุมของตูม คืออยากจะอัปเดตและอยากให้ชุดข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับกระทรวงสาธารณสุขกับกทม. เพื่อยับยั้งโรคระบาด ไม่ได้อยากจะมาพูดถึงประเด็นใดๆ ที่มันเป็นประโยชน์และเอื้ออำนวยต่อการเขียนข่าวเพื่อความบันเทิงส่วนตัวครับ สิ่งที่ตูมรู้ ณ วันนี้ คือถ้าทำอะไรให้ใครไม่พอใจ ซึ่งมันเยอะมาก ตูมขอโทษครับ ขอโทษแบบใจๆ เลย ทุกคนมีอดีต กลับไปแก้ไม่ได้อยู่แล้ว วันนี้ต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม"

อยากจบเรื่องนี้เพราะเบื่อแล้ว
"นี่คงจะเป็นการไลฟ์ทีเดียวที่ตูมจะพูดทุกเรื่อง ตูมอยากจะจบเรื่องนี้แล้ว ทุกคนคงเบื่อข่าวตูมแล้ว เพราะตูมยังเบื่อเลย ตูมติดโควิดแล้วรับการรักษาแล้ว ได้รับบทลงโทษทางสังคมและทางข้อกฎหมาย อันนี้คือยังไม่ได้สรุปนะ สุดท้ายเลยตูมไม่มีคำพูดสวยหรูอะไรมาพูดให้คนเชื่อหรือเข้าใจได้ นอกจากคำว่าตูมขอโทษครับ อาจจะฟังบ่อยมากเลยในไลฟ์นี้ แต่ตูมขอโทษครับ ตูมไร้ความรับผิดชอบ ไร้สามัญสำนึกต่อสังคมเองจริงๆ ครับ ไม่ต้องรอให้คนมาด่า มันคือเรื่องจริง"

ขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน
"ตูมผิดเองและตูมขอโทษ ขอโทษที่ทำให้หลายคนเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นสังกัดตูม อย่างเอไทม์มีเดีย ขอโทษผู้ใหญ่ทุกคนครับ ขอโทษแกรมมี่ครับ แล้วก็ขอโทษทุกๆ คน เพื่อนในวงการทุกคนที่ต้องกักตัวไม่มีรายได้ สถานการณ์มันแย่อยู่แล้ว ตูมกลับเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้

รวมถึงเจ้าหน้าที่และพนักงานที่ต้องไปสอบสวน พนักงานงานที่โรงแรมบันยันทรี 30-40 ชีวิตที่ต้องหยุดงานกักตัวดูอาการ ต้องไปสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ขอโทษครับ คำขอโทษมันไม่สามารถทดแทนอะไรได้เลย กับความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ตูมทำได้ดีที่สุดเท่านี้ ณ เวลานี้จริงๆนะครับ ตูมขอโทษจริงๆ ตูมรู้สึกผิดจริงๆ"

ขอโทษปชช. ตาดำๆ ปฏิบัติตามคำสั่งรัฐดีทุกอย่าง แต่โรคไม่หมดเพราะคนเห็นแก่ตัวแบบตน โคตรอายกับสิ่งที่ทำลงไป
"คนที่ตูมอยากขอโทษมากๆ ที่สุด กลุ่มคนที่ตูมอยากขอโทษมากที่สุดเลย คือประชาชนตาดำๆ ทั่วไป ที่ปฏิบัติทุกอย่างตามคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกคนที่ทำดีทุกอย่าง แต่โรคมันก็ยังไม่หมดไปสักที เพราะมันยังมีคนจำเภทมะตูมอยู่ ก็คือคนที่เห็นแก่ตัว ตูมเป็นคนสาธารณะแท้ๆ แต่ตูมยังทำได้ดีไม่เท่าประชาชนทั่วไปที่เขากักตัวปกติเลย ตูมโคตรอายเลยครับกับสิ่งที่ตูมทำ ตูมรู้สึกว่าตูมสมควรได้รับการด่าทออย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ

ตูมขอโทษพวกคุณนะครับ ที่พวกคุณต้องกักตัวกัน ที่พวกคุณต้องเหน็ดเหนื่อยกัน ช่วงนี้สถานการณ์มันลำบากจริงๆ แต่ตูมกลับเอาวันแค่วันเดียวของเรามาทำให้มันพิเศษ มันเห็นแก่ตัวจริงๆ ครับ มันแย่มากครับ ตูมไม่สามารถทำให้คนที่เกลียดชัง หรือโมโห หรือเดือดร้อนจากสถานการณ์ในครั้งนี้ มาเข้าใจอะไรตูม เพราะว่าตูมทำพลาดไปแล้วกับพวกคุณ

แต่ตูมก็ยังยืนยันว่าคำขอโทษของตูม มันจะไม่มีความหมายเลยครับ ถ้าเกิดตูมไม่สำนึกและไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง อันนี้ตูมไม่ได้บอกทุกคนนะครับ ว่าตูมจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดี ออกไปทำดี ไม่ใช่นะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ตูม ตูมรู้ว่าตูมต้องทำ ตูมบอกกับตัวเองในวันนี้ ตูมไม่ได้มาขอโอกาสจากใครเลยนะครับ คนเรามันพลาดกันได้ครับ ตูมไม่ใช่คนเดียวในประเทศไทยที่ติด มันมีคนติดอีกเยอะมาก การติดโควิดมันไม่ผิด แต่การเอาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยงโดยการที่รู้แล้วยังจะทำเพื่อความสุขส่วนตัว อันนี้สิครับที่ผิด ซึ่งตูมผิดครับ อย่าผิดเหมือนตูมครับ

แล้วก็ขอบคุณกำลังใจ ซึ่งอาจจะไม่ได้เยอะมากมาย แต่มันมีความหมายสำหรับตูมในช่วงนี้มากๆ คือตูมอยากบอกทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ตูมในช่วงนี้ ว่าถ้าวันใดวันหนึ่งคุณเจอปัญหา เจอมรสุมหรือทำผิดพลาด แล้วคุณต้องการกำลังใจ ตูมขอให้วันนี้ที่คุณให้กำลังใจตูม มันกลับคืนไปหาคุณเป็นร้อยเท่าพันเท่าเลยครับ เพราะมันโคตรจะมีความหมายมากเลยครับ

สุดท้ายจริงๆ ก็คืออยากฝากบอกทุกคนว่า ตูมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตูมจะติดโควิด ตูมคิดว่าตูมแข็งแรงไม่มีทางจะติดได้หรอก สุดท้ายตูมก็ติด โควิดมันไม่ได้เลือกนะครับว่าเราเป็นใคร เพราะฉะนั้นแล้วอย่าการ์ดตก อย่าพลาดเหมือนตูมนะครับมันไม่ดีเลย เรื่องทางกายมันยังโอเค แต่ความวุ่นวายและความเสียหายที่เราก่อขึ้นมามันไม่คุ้ม เอาเป็นว่าช่วยกันดูแลสุขภาพนะครับ ขอให้ทุกคนระวังตัวออกไปไหนมาไหนช่วงนี้ ก็การ์ดอย่าตก ใส่หน้ากากอนามัย งด เลี่ยง พบปะผู้คน เพราะไม่งั้นจะมาอยู่จุดที่ตูมอยู่ตอนนี้ (แพลนกล้องไปที่เตียงผู้ป่วย)

ถ้าตูมออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ ตูมพร้อมที่จะไปให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบปากคำและให้การณ์ โดยที่ไม่มีการบิดเบือนอะไรแน่นอนครับ ตูมพร้อมรับผิดทุกข้อกล่าวหาเพราะผิดก็คือผิด แต่วันนี้ยังไงก็ขอรักษาตัวเองให้หายก่อนนะครับ เพราะว่ายังไม่หายดีครับ ขอบคุณทุกคนนะครับที่สละเวลามาดูตูม ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณนะครับ (ยกมือไหว้)"