xs
xsm
sm
md
lg

“โอ๊ต AXIS” ร่ำไห้ขอโทษสังคม ยันเพิ่งรู้ติดโควิดวันนี้ สาบานไม่ได้ปกปิด แจงไทม์ไลน์ที่หายไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ข้าวโอ๊ต” หรือ “คริษฐ์ พรรณธรรม” นักร้องวง AXIS ชี้แจงผ่านรายการแฉทางช่อง GMM25 ด้วยอาการน้ำตานองหน้า หลังตกเป็นจำเลยของสังคมกรณีติดเชื้อโควิด-19 แล้วมีเจตนาปกปิดไทม์ไลน์

โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า มา รพ.ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นโควิดจริงๆ วันนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้โกหก สาบานเลย ตนพยายามคุยกับคุณหมอว่าสรุปตนเป็นหรือเปล่า หรือกำลังจะหาย หรือกำลังจะเป็น อยากให้ข้อมูลแน่ชัดก่อน แล้วจะได้ออกมาบอกข้อมูลทีเดียว ตนไม่โกหกปิดบังไทม์ไลน์

ช่วง 14-20 ม.ค. ที่บอกว่าเป็นไทม์ไลน์ที่หายไป ขอแจงว่า วันที่ 12-13 ตอนนั้นมีอาการแต่คิดว่าเป็นภูมิแพ้ แพ้อากาศหรือเปล่า เพราะวันนั้นอากาศหนาวมาก ตนคัดจมูก หายใจไม่ออก ก็กินยาแก้แพ้ ก็รักษาตัวอยู่ที่ห้อง ส่วนที่มองว่าจะไม่ออกไปเซเว่น ซื้อของกิน เป็นไปได้เหรอ ผมให้แฟนสั่งข้าวให้กิน อยู่กับแฟน แฟนตนไปตรวจมาแล้ว ไม่เป็น พี่ชายก็ไม่เป็น ช่วงนั้นอยู่กัน 3 คน สองคนไปตรวจแล้ว ไม่มีใครเป็น ตนเป็นคนเดียว

ส่วนที่ถามว่าวันเกิดดีเจมะตูมจัด 9 ม.ค. เป็นคนยกเค้กหรือเปล่า ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่จริงๆ ตนไปวันที่ 8 ไปคอนโดมะตูม แล้วก็อย่างที่สตอรี่ลงชัดเจน ตนถือเค้กวันที่ 8 ม.ค. ไปหาเขาที่คอนโด 

ส่วนวันเจ้าปัญหา วันที่ 9 ม.ค. ตนน่าจะติดวันนั้น เพราะตนไปหาเพื่อนชื่อปีโป้ ซึ่งไม่ใช่ดารา เขากินข้าวอยู่บนดาดฟ้ากับมะตูม วันนั้นตนไปช้า ได้เจอแค่ปีโป้คนเดียว และคิดว่าน่าจะติดจากปีโป้ ตนก็ไปหาปีโป้ที่ห้องที่โรงแรมบันยันทรี ไม่ได้เจอใครเลย ซึ่งสรุปว่าปีโป้ติดโควิดมา ทำให้ตนติดเชื้อจากปีโป้

ส่วนวันที่ 11 ม.ค. ตนไม่ได้ไปไหนเลย เพราะมันโควิดแล้ว และตนไม่มีงาน วันที่ 11 ตนอยู่แต่ห้อง เพราะปกติก็ไม่ค่อยออกไปไหนอยู่แล้ว

"สำหรับไทม์ไลน์ที่หายไป ที่เขาชี้ว่า 14-20 ม.ค. ที่ปกปิด พอ 12-13 ผมเหมือนจะป่วย แต่ผมไม่รู้ว่าผมเป็นโควิดหรือเปล่า ผมไม่อยากคิดไปเอง ไม่รู้ว่าเป็นโควิดหรือภูมิแพ้ วันที่ 13 โอ๊ตตัวร้อน หายใจไม่ออก เริ่มไม่รับรส รับกลิ่น ก็กินยา 14-15 ก็ดีขึ้น ตอนพี่มะตูมแถลง ผมกลับมาเป็นปกติ ไม่มีอาการป่วย แต่พอวันที่ 20 เห็นข่าวพี่มะตูม เพื่อความชัวร์เลยมาตรวจ คือ ระยะเวลาที่คนหาว่าปกปิด ผมไม่ได้จะปกปิดอะไร พยายามรักษาตัวเอง เราเป็นหรือไม่เป็น เราก็กินยาพาราให้ดีขึ้น ซึ่งมันก็ดีขึ้น จนผมคิดว่าผมไม่ได้เป็น

ถามว่าทำไมไม่แสดงตัวตน พอโอ๊ตเห็นข่าวทุกอย่าง มันมีไทม์ไลน์ที่มันจริงและไม่จริง กับที่เราแจ้งไป กับที่ออกข่าวมันไม่ตรงกัน แล้วมีคนโทร.มาถามโอ๊ตเยอะมาก สรุปเราเชื่อใจใครได้บ้าง ผมบอกไทม์ไลน์ไปหมดทุกอย่าง แล้ว บวกกับว่า วันที่ 21 ที่ผลออก ตอนเข้า รพ. หมอบอกว่าหมอยังไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วเป็นหรือไม่เป็น หรือกำลังจะหาย หรือกำลังจะเป็น ว่าเชื้ออยู่ระดับไหน หมอเลยขอให้มากักตัวก่อน ผมก็เหมือนสุ่มเสี่ยง

ถามว่ามีการจ้างนายแบบไปปาร์ตี้ไหม ผมไปไม่เจอใคร เพราะผมไปเขาเลิกงานแล้วครับ ไม่รู้ข้อมูลจริงๆ และไม่เห็นว่ามีใครจริงๆ เพราะผมโทร.หาปีโป้ ปีโป้ชวนไปวันเกิดพี่มะตูม แล้วเมื่อผมไปถึงงานมันเลิกแล้ว ไปถึงประมาณสามทุ่มกว่าๆ คนในงานกี่คนผมก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้เจอใครเลย ซึ่งปีโป้ก็ติดโควิดวันนั้น และยืนยันว่า วันที่ 9 ม.ค.ไม่ได้เจอพี่มะตูม"

มดดำ คชาภา ถามว่า วันที่ 14-20 ทำอะไร โอ๊ตเผยว่าพยายามดูตัวเองว่าเราเป็นอะไร จะหายหรือเปล่า ก็เครียด ก็คิดว่ารักษาตัวเองให้หายก่อนดีกว่า พอเริ่มดีขึ้น 19-20 ร่างกายได้รับรส และไม่ได้ป่วย ไม่ได้ตัวร้อนอะไรแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ไปเชียงใหม่ อยู่กรุงเทพฯ ตลอด

อาการวันที่ไม่ได้กลิ่่นไม่รู้รส วันที่ 12 อาการเหมือนหายใจไม่ออก วันนั้นอากาศก็หนาว คิดว่าเป็นภูมิแพ้หรือเปล่า ตก็กินพารามาตลอด อยู่ห้องตลอดจนดีขึ้น

“วันนี้ที่สังคมตั้งคำถามว่าจริงเหรอ ไม่ได้ออกไปกินข้าวกินปลา ผมอยู่ห้อง แค่ลุกก็ไม่ไหวแล้ว นอนซมอยู่ในห้อง มันไม่ไหวจริงๆ ผมเลยไม่ได้ออกไปไหน และอยู่ รพ.ตั้งแต่วันที่ 21 จนวันนี้เลยครับ หมอขอดูอาการเพราะเรากลุ่มเสี่ยง หมอขอดูก่อนกำลังจะเป็นหรือกำลังจะหาย เขาขอดูให้ชัดเจน ผมก็ไม่ได้ปกปิด ผมก็เสียใจกับสิ่งที่มันออกไป

กับกระแสข่าว ผมขอโทษจริงๆ ผมไม่ได้มีเจตนาปกปิดขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง ขอโทษพี่มะตูม ขอโทษพี่หุน่ม กรรชัย ผมไม่ได้ปกปิดหรือจะหนี ผมรอให้มันชัดเจนกว่านี้ ผมเคยให้สัมภาษณ์และพูดไปแล้ว แต่พอดูในทีวี เป็นไทม์ไลน์ว่าผมอยู่โรงแรมวันที่ 8 วันที่ 9 ซึ่งมันไม่ใช่ ผมไม่ได้มีเจตนาปกปิดความจริง คนรู้จักผมจะรู้ถ้าผมทำอะไร ผมยอมรับอยู่แล้ว ผมไม่ได้มีเจตนา ผมขอโทษ ผมเครียดมาก (เสียงสั่นเครือ) ระหว่างกักตัวไม่มีอาการป่วยอะไร หมอก็ให้อยู่ในห้องว่าสรุปจะเป็นหรือหาย

ผลออกเมื่อเย็นนี้ ผมโทร.หาคุณหมอ เพื่อจะได้ชี้แจงความจริง เพราะมีหลายคนที่ด่าผม ผมไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดนะพี่ ผมอ่านทุกคอมเมนต์เลย ว่าเป็นยังไง (ร้องไห้) หมอบอกว่าตอนนี้เป็น แต่ขอดูอาการถึงวันที่ 31 ม.ค.ว่าสรุปกำลังจะหาย หรือเพิ่งเป็น

หมอยืนยันว่าติดเชื้อโควิด ซึ่งผมไม่มีไข้เลยครับ เพิ่งมีไข้เมื่อตอนเย็น ผมออกไปอ่านทุกแชต ทุกข้อความ ทั้งในทวิตเตอร์ทุกอย่าง อยากชี้แจงให้เห็นจริงๆ ว่าไทม์ไลน์อันนั้นกับอันนี้ ไม่เหมือนที่ผมให้ข้อมูลไป ผมเลยไม่ได้คุยกับใครตรงๆ

ถามว่าอยากพูดอะไร ผมขอโทษที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย แต่ผมไม่ได้ปกปิดอะไรจริงๆ (ร้องไห้) อยากให้ทุกคนรู้จากปากผมจริงๆ หลายคนโพสต์เยอะมากๆ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น อยากให้ฟังจากปากผมมากกว่า

ตอนนี้แฟนผมกับพี่ชายไปตรวจมาแล้ว ผลออกมาไม่ติดเชื้อหมดเลยครับ ผมอยากออกมาพูดความจริงมาก (ร้องไห้) ขอโทษทุกคนจริงๆ ขอโทษพี่หนุ่มด้วย ขอโทษทุกคนครับ ผมไม่ได้จะหนี ผมอยากออกมาพูดความจริงมากๆ เลย แต่เพียงแค่ว่าผมงงว่าสิ่งที่ออกไปมันไม่เหมือนกับที่เราให้ข้อมูลเขาไป พอมันเป็นอย่างนั้นมันทำให้ผมไม่กล้าที่จะคุยกับใคร ผมไม่ได้จะหนีแต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่าตั้งแต่ที่ผมเข้าโรงพยาบาลจนถึงวันนี้อาการผมเป็นยังไง เพราะผมแข็งแรงปกติ ผมเอ็กซ์เรย์ปอดมันก็ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างมันปกติมากๆ เลยครับ จนตอนเย็นวันนี้ผมเพิ่งจะมีไข้ อุณหภูมิร่างกายมันสูงขึ้น เขาก็เลยให้ยามากินวันนี้เป็นวันแรก”










กำลังโหลดความคิดเห็น