ถอน...หมุดข่าว
ภายหลังจากที่ “ดีเจมะตูม” เตชินท์ พลอยเพชร นัดจัดรายการวิทยุและพิธีกรชื่อดัง ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเองตรวจพบเชื้อโควิด-19 พร้อมน้ำตาคลอขอโทษ ไปยังคนในวงการบันเทิงหลายคนที่เจ้าตัวมีโอกาสพัวพันใกล้ชิดด้วย
โดยแพทย์ยกให้กรณีดีเจมะตูม กลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ หรือ ซูเปอร์สเปรดดิ้งอีเวนท์ หลังเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อ ทำให้มีผู้ติดเชื้อไปแล้วอย่างน้อย 19 ราย กลายเป็นคลัสเตอร์หย่อมๆของวิกฤตโควิดระลอกใหม่ขณะนี้
เดิมทีเดียว หลังที่เป็นข่าวกระแสสังคม เทหนักไปทางเห็นใจห่วงใย แม้แต่ โฆษก ศบค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ยังออกปากชื่นชมที่ดีเจมะตูม เปิดเผยไทม์ไลน์ออกมา เชื่อมโยงไปในหลายสถานที่ ทั้งที่ทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว
แต่ทำไปทำมากลายเป็นกระแสตีกลับ เมื่อพบว่าดีเจมะตูมบอกความจริงไม่หมด จนเกิดกระแสตำหนิพฤติกรรมของดีเจชื่อดังอย่างหนักหน่วงในสังคมออนไลน์ ถึงขั้นตราหน้าว่า เห็นแก่ตัวกันเลยทีเดียว
จากการสอบสวนโรคพบว่า คลัสเตอร์ของดีเจมะตูมเริ่มต้นจากสถานบันเทิงชื่อดังใน จ.เชียงใหม่ มีผู้ติดเชื้อรายแรก อายุ 33 ปี ผู้ป่วยไม่มีอาการ เข้าไปเที่ยวเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยในสถานบันเทิงไม่มีการเว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากอนามัย และมีผู้ติดเชื้อในสถานบันเทิงแห่งนั้นจำนวนมาก ทั้งๆที่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดค่อนข้างรุนแรงแล้ว
หลังจากนั้นได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยไม่มีการกักตัวตามมาตรการที่ทางการแนะนำ ก่อนไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของดีเจมะตูม ที่ร้านอาหารรูฟท็อป ของโรงแรมดังใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก จนเกิดการแพร่กระจายเชื้อ
หนึ่งในผู้ที่ติดเชื้อก็คือดีเจมะตูม ที่กว่าจะรู้ตัวก็ล่วงเลยไปเกือบ 10 วัน มีผู้ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงนับร้อยชีวิต
ขณะที่ดีเจมะตูมเองก่อนหน้าจะถึงวันคล้ายวันเกิดตัวเอง ก็โพสต์รำพึงประมาณว่า ปีนี้คงไม่ได้ไปฉลองที่ไหน เพราะต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่าง แต่ที่ไหนได้...ถึงวันเกิดจริงกลับจัดปาร์ตี้เบิร์ดเดย์ ถึงขนาดทุ่มทุนสร้าง ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมหรู จัดงานฉลองที่ร้านอาหารของโรงแรม
อาศัยช่องโหว่ของประกาศกรุงเทพมหานคร ที่ให้ร้านอาหารภายนอกสามารถนั่งรับประทานได้ไม่เกินสามทุ่ม อีกทั้งไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ แต่แอบจัดในห้องพักโรงแรมคิดว่าไม่มีใคร แต่โควิดมันฟ้อง เรื่องเลยระเบิดตูมตาม คนก่นด่าทั้งเมือง
ไม่เท่านั้น มะตูมยังโดนขุดอีกว่า ก่อนนั้นไม่นาน ดีเจมะตูมก็เพิ่งไปปาร์ตี้บนเรือยอช์ตกับเหล่าดาราเซเลปบริตี้อย่างสนุกสนาน ทั้งๆที่เวลาออกจอก็พูดรณรงค์ขอให้สังคม Social Distancing มีคลิปรีรันว่า ดีเจมะตูม เพิ่งพูดออกรายการเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมาเองว่า
ให้คนฟังระวังตัว ใส่แมสตลอด พกและใช้แอลกอฮอล์ เลี่ยงการสัมผัสให้มากที่สุด เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนรอบตัวเค้าเดินทางไปไหนมาบ้าง ปรากฎว่าทำเสียเอง
ล่าสุดดีเจมะตูมยังให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวีอีกว่า อยากขอโทษสังคม เรื่องไทม์ไลน์ที่อาจจะชะล่าใจหรือหละหลวมไปบ้าง อาจไม่ทำตามมาตรการทางรัฐ พร้อมยอมรับแมนๆ แฟร์ๆ เลยว่า อาจจะใช้อภิสิทธิ์ ไม่ต้องอยู่บ้าน 24 ชั่วโมง ออกไปโน่นนี่ ออกไปกินข้าวตามใจตัวเอง ไม่วายขอให้ทุกคนระมัดระวัง เพราะโควิดรอบสอง ระบาดง่ายกว่ารอบแรกมาก
สิ้นเสียงสัมภาษณ์ก็ทำเอาทัวร์ลงดีเจมะตูมแบบไม่ยั้ง ดันแฮชแท็ก #ดีเจมะตูม ขึ้นเทรนด์อันดับของเมืองไทย ประณามพฤติกรรมที่ใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นสื่อที่มีคนติดตามจำนวนมาก
เฉพาะบัญชีอินสตราแกรมของดีเจมะตูมมีคนติดตามถึงหนึ่งล้านห้าแสนคน กลับใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ชน ทำพฤติกรรมไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม
ถล่มก่นด่าไปยังพวกอภิสิทธิชน วีไอพี วีวีไอพี ทั้งหลาย ที่ไร้จิตสำนึกรักสนุกจัดปาร์ตี้จนแพร่เชื้อโควิด ทำเอาประชาชนทั่วไปที่ต้องมารับกรรมแทน ไม่แค่ระแวดระวังกลัวติดเชื้อ ยังเดือดร้อนทำมาหากินแทบไม่ได้ เพราะรัฐก็ยังต้องคงมาตรการเข้มงวดอยู่
แล้วยังเกิดความย้อนแย้งอีกเมื่อพบว่า เพื่อนดาราที่เคยออกมาด่าประชาชนคนทั่วไป ไปจนถึงแรงงานข้ามชาติที่ติดโควิดว่าทำคนอื่นเดือดร้อนไปทั้งประเทศ แต่พอเป็นเพื่อนในวงการอย่างดีเจมะตูม กลับแห่ออกมาให้กำลังใจ ติดแฮชแท็ก #saveมะตูม ไม่ยักจะตำหนิเหมือนเวลาประณามหยามเหยียดชาวบ้าน
คำถามมีไปถึง ศบค.ว่าเคสดีเจคนดัง ได้มีการเอาผิดกรณีไม่ติดตั้งแอปฯหมอชนะ หรือมีความผิดฐานปกปิดไทม์ไลน์หรือไม่อย่างไร หรือเห็นเป็นคนดัง เซเลปบริตี้ ซูเปอร์สตาร์ ถึงกลายมาเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ มีอภิสิทธิ์ เหนือปุถุชนคนทั่วไป ใช่หรือไม่.?