นายสมชาย พหุลรัตน์ ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)Thai Sangsan Institute ได้เผยว่าสถาบันฯได้ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ 2 คณะ โดยมี ศ.ดร.มณีรัตน์ สวัสดิวัต ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาสถาบันฯและผู้ร่วมก่อตั้งสร้างสรรค์ปารตี้, พร้อมด้วยนักวิชาการหลากหลายสาขา อาทิ
อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต) ,อ.เภสัชกร ดร.อธิวัฒน์ สินรัชตานันท์ (นักวิชาการด้านสุขภาพ-ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสมุนไพร),ดร.สุรชัย เลี่ยมทอง(นักธุรกิจ-เจ้าของเอจจิ้งเซ็นเตอร์) คุณพัชรีภรณ์ สิงห์พัตร์ (นักธุรกิจด้านอาหาร),อ.ดร.แสวง วิทยพิทักษ์(อาจารย์สอนป.เอกม.ราชภัฎจอมบึง),อ.ดนัย หริพัฒน์กุล (อาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทย), คุณดิษชูภณ นัยเนตร(คณะทำงานการเมืองภาคประชาชน),คุณอิศรานนท์ สิทธาพิสุทธิ์กุล (ที่ปรึกษาบ.ส่งออกผลไม้-คอลัมนิสต์),นายธรรมรัตน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (อาจารย์พิเศษ-คอลัมนิสต์) ฯลฯ ร่วมกันประชุมเรื่องแนวทางการรับมือกับโควิดครั้งใหม่
ในส่วนของภาคประชาชน มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นักวิชาการ-นักธุรกิจ-คนรุ่นใหม่-และอดีตข้าราชการ ซึ่งมีความคิดเห็นที่สรุปออกมาได้ประเด็น คือ ควรที่จะมีการตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่ที่มีโรงงานและแรงงานต่างด้าวอยู่อาศัยทั่วประเทศไปทีเดียวเลยเพราะจะได้หยุดโควิดระบาดให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งในที่ประชุมยังมี อ.ซาร่า หรือศศิวิมล จิตบันเทิงพันธ์ (อาจารย์ด้านภาษาจีน-และอดีตนักเรียนทุนรัฐบาลจีน)มาพูดให้ฟังถึงสถานการณ์ตอนที่เธออยู่ที่ในปักกิ่ง และตอนนั้นมีการระบาดโควิดในตลาดซินฟาตี้ และรัฐบาลจีนใช้เวลา 7 วันเอาอยู่โควิดได้เบ็ดเสร็จ มาเปรียบเที่ยบกับสถานการณ์ที่ตลาดกุ้ง สมุทรสาคร เกิดเป็นต้นต่อของการระบาดครั้งใหม่มาเป็นข้อมูลด้วย
ขณะเดียวกันในส่วนภาคประชาชนของสถาบันฯก็จะร่วมรณรงค์ในเครือข่ายไปสู่สาธารณะให้ช่วยกันเป็นจิตอาสาเฝ้าระวังดูในชุมชนของตัวเองและแจ้งเบาะแสบุคคลที่สุ่มเสี่ยงติดโควิดให้กับภาครัฐ โดยต่อยอดมาจากโครงการฯพลังกาย พลังใจ ต้านภัยไวรัส” ที่ได้ร่วมรณรงค์สู้กับภัยโควิด 19 ในช่วงต้นที่ผมเองเป็นประธานฯจัดกิจกรรมและมีProf.อิน นฤหล้า (นักวิชาการนานาชาติ), Prof.ปีแอร์เดอลาลองด์ และProf.สก็อตบัดเล่ย์ ร่วมกันจัดกิจกรรมผ่านทางออนไลน์ ต้านภัยโควิดในช่วงแรก
ทางด้าน ศ.ดร.มณีรัตน์ฯ และ อ.นิดาวรรณ กล่าวว่ารอบใหม่นี้ถ้าฟังข้อมูลจากแพทย์หลากหลายท่านก็จะบอกตรงกันว่าจะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งแรกดังนั้นเราต้องช่วยกันทุกภาคส่วน ซึ่งในวันนี้เราก็มีคนรุ่นใหม่ที่เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเอแบค มาร่วมมือรณรงค์ไปพร้อมกับสถาบันฯก็คือ น.ส.วัณพรรณ เพียรล้ำพงศ์ (วิทยากรข่าว), น.ส.สุพรรษา หม่า, น.ส.ศิวาพร พุ่มทิน และยังมีทนายความและอดีตข้าราชการเช่น พ.ต.ท.สุคนธ์ กุลธาโร, คุณนนท์ ทะสะรา, คุณเสกสรร มากผล, คุณประเสริฐ เอียดสุวรรณ,ผศ.ดร.ชิษณุพงศ์ รัตนพันธ์,คุณเอกราช นิสชัยสงฆ์, คุณเสนีย์ รัตนเจริญ (อดีตผบ.เรือนจำ) และกลุ่มชมรมคนด้ามขวานและเพื่อนปทุมธานี มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย
นายสมชาย พหุลรัตน์ หรือ “Mr.P” ประธานสถาบันฯกล่าวอีกว่าอีกภาระกิจหนึ่งของสถาบันฯคือการตั้งคณะกรรมการทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การคัดกรองบุคคลมาทำงานโดยที่มีศ.ดร.มณีรัตน์ สวัสติวัติ ณ อยุธยา เป็นประธานฯและมีคณะกรรมการประกอบด้วยบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมกันขับเคลื่อน อาทิ พ.ต.ภรัณ กิติวัฒน์,(อดีตที่ปรึกษารมต.อุตสาหกรรม) คุณยศพงศ์ นาทันรับ(นักธุรกิจ), คุณพัชรียาภรณ์ สิงห์พัตร์ (นักธุรกิจด้านอาหาร).คุณจิรโรจน์ มาลัยทองทิพย์ (นักธุรกิจ),คุณณัฐนันท์ พงษ์ภูริพัฒน์(อดีตผอ.กระทรวงทรัพยากรฯ),คุณธนกร ธรรมวรัญจน์,คุณเกียรติพงษ์ พิณทอง (ธุรกิจสุขภาพ)คุณชาติชาย สอนอินทรชิต, คุณสุรณรงค์ แจ่มจันทร์ และคุณปรีชา ธนาไพรินทร์ฯลฯ และยังมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านอื่นๆ ที่จะมาร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติ
นอกจากโครงการอบรมคนรุ่นใหม่ทางการเมืองแล้วยังมีการจัดเวทีทางวิชาการในช่วงปีหน้าปี 64 ซึ่งจะขยายเครือข่ายออกไปยังท้องถิ่นซึ่งมีทีมงานด้านนี้มารับผิดชอบทุกภาคในการขับเคลื่อน โดยมีเป้าหมายรวมพลังกันมาร่วมกันทำงานความดีเพื่อแผ่นดิน