กองทุนดีอี เผยผลงานในการช่วยผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการโรงพยาบาล 34 แห่งทั่วประเทศในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 รองรับผู้ป่วยนอก 29,000 คนต่อวัน และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอีก 370 คนต่อวัน พร้อมผลักดันเทคโนโลยีในการช่วยงานด้านสาธารณสุขและด้านอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตผ่านกองทุนฯ
นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้หน่วยงานผู้รับทุนสามารถนำงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะโครงการสำหรับการจัดหาเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ด้านดิจิทัลที่สนับสนุน ช่วยเหลืองานด้านสาธารณสุขและการรักษาสุขภาพของประชาชน ที่มีการจัดสรรทุน 393.87 ล้านบาท รวม 42 โครงการ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา
เช่น โครงการจัดหาอุปกรณ์ดิจิทัลทางการแพทย์ โครงการระบบนัดหมายและระบบคิว โครงการพัฒนาระบบดิจิทัล/อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อสนับสนุนและป้องกันแบบบูรณาการ โครงการหุ่นยนต์ช่วยคัดกรองผู้ป่วยและช่วยแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โครงการเทคโนโลยีในการให้บริการทางการแพทย์ทางไกลและ CHATBOT และโครงการระบบติดตามผู้ป่วยมะเร็งภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เป็นต้น
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลต่างๆ ได้นำงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนไปใช้ประโยชน์ในการจัดการงานด้านสาธารณสุขและการรักษาสุขภาพของประชาชนใน 34 โรงพยาบาล ที่มีภาระในการรองรับผู้ป่วยนอกกว่า 29,000 คนต่อวัน โดยสามารถรองรับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่มาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลได้ถึง 370 คนต่อวัน จากเดิม 78 คนต่อวัน หรือเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึงเกือบ 5 เท่า และในกลุ่มนี้ยังมีผู้ป่วยไวรัสโคโรนา 2019 มารับการรักษาถึง 67 คน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาลรัฐ สถานพยาบาลภาครัฐ โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์ สภากาชาดไทย ที่ได้รับผลกระทบภายใต้วิกฤตดังกล่าว จึงได้เร่งให้ สดช. ดำเนินโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้เป็นไปตามแผน และดำเนินโครงการให้สอดคล้องต่อภารกิจของหน่วยงาน การบริหารกองทุน ต้องพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และได้ฝากให้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ช่วยผลักดันและกำกับให้การส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนเกิดประโยชน์สูงสุดในวงกว้าง เป็นไปตามเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของกองทุนต่อไป
ขณะที่ นายพุทธิพงษ์ ได้มีการเร่งให้มีการดำเนินโครงการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เนื่องการจัดสรรเงินทุนสนับสนุนในครั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนกว่า 4.6 ล้านคนทั่วประเทศได้รับประโยชน์ และช่วยลดภาระให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ทั่วประเทศอย่างครอบคลุม เช่น เชียงใหม่ พะเยา ร้อยเอ็ด อุดรธานี ชัยนาท กาญจนบุรี จันทบุรี พัทลุง ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ เป็นต้น เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการช่วยเหลือสังคมและช่วยผลักดันเทคโนโลยีดิจิทัลในงานด้านสาธารณสุขอีกด้วย