นับถอยหลังอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้รู้กันแล้วว่า สาวงามคนใดจะเป็นผู้ครองตำแหน่ง “นางสาวไทย 2563” ซึ่งรอบตัดสินจะมีขึ้นในค่ำคืนวันนี้(13 ธ.ค.) เวลา 19.30 - 22.00 น. โดยปีนี้ทางกองประกวดบินมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
เอาเป็นว่าก่อนที่จะไปลุ้นติดขอบเวที เรามาดูโผรายชื่อตัวเต็งคนที่มงฯจะลง ผ่านสายตาของเพื่อนๆ ผู้เข้าประกวดด้วยกันเอง แม้บนเวทีจะเป็นคู่แข่งกัน แต่หลังเวทีทุกคนคือเพื่อน เป็นมิตรภาพดีๆ ที่งดงามน่ารักที่เกิดขึ้น ส่วนสาวงามคนไหนจะเชียร์ใคร เต็งใครในใจ มาดูกันเลยจ้า
เริ่มที่ MT20 “แผ่นฟิล์ม พมลชนก ดิลกรัชตสกุล” อายุ 23 ปี ปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาศิลปการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนนี้ก็ไม่ธรรมดาอดีตเคยคว้ารองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 และเป็นตัวเต็งเวทีนางสาวไทยปีนี้เช่นเดียวกัน แต่งานนี้แผ่นฟิล์มน่ารัก เต็งหนึ่งในใจกลับไม่ใช่ตัวเอง แต่เป็นเพื่อนคนนี้
“หนูต้องบอกก่อนว่ากองฯนี้เป็นคนที่ดูแลทุกคนเท่าๆ กัน ซึ่ง 30 คนนี้มีโอกาสหมดเลย อันนี้หนูพูดจริงๆ จากใจ ด้วยความที่อยู่กันเป็นเพื่อนจริงๆ เวลามาประกวดหนูไม่เคยสนิทกับใคร แต่ครั้งนี้หนูไม่รู้สึกถึงการประกวดเลย หนูรู้สึกว่าหนูได้เพื่อนจริงๆ ก็เลยไม่รู้จริงๆ ว่าใครจะได้ แต่ที่สุดในใจคือหนูแอบปลื้มหยก(สุพรรณิการ์ นพรัตน์ MT11) นางน่ารัก(ลากเสียง) เป็นคนนิสัยดีมากๆ ถ้าสมมติว่านางมงฯหนูก็ไม่ติดหรอก(ยิ้ม) หรือถ้าใครมงฯหนูก็ไม่ติดเพราะทุกคนเป็นเพื่อนหนูหมดเลย”
“นอกจากความน่ารักแล้วนางมีความหวานและเฟรนด์ลี่กับทุกคน ซึ่งอันนี้ก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ดีของนางสาวไทยปีนี้เหมือนกันค่ะ หน้าไทย หนูว่านางเป็นดาราได้นะ (แล้วคุณสมบัติอย่างอื่น อย่างความคิด ความฉลาดที่บ่งบอกความสวยจากภายในล่ะ?) สำหรับฟิล์มคิดว่าหยกเป็นคนที่ครบคนนึงเลยค่ะ ถ้าสมมติว่าฟิล์มไม่มองว่าหยกเป็นเพื่อนแต่มองเป็นคู่แข่ง ฟิล์มว่าเขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากเลยนะ แต่เราเป็นเพื่อนกันไปแล้วค่ะ
“ส่วนตัวฟิล์มเองก็อยากอยู่ใน Top5 ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็ดีใจมากๆ เลยค่ะ ความพร้อมหนูตอนนี้หนูให้ 99% อีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์เป็นความพร้อมที่ใจค่ะ หลังเวทีหนูจะมีวิธีเตรียมการของหนู ก่อนขึ้นเวทีหนูจะอยู่กับตัวเองหลบไปอยู่คนเดียว ไม่วุ่นวายกับใคร เป็นวิธีที่หนูใช้มาตลอด ทำสมาธิ ฟังเพลงที่ปลุกกำลังใจให้ลุกขึ้นสู้ เวลาขึ้นไปบนเวทีเราต้องควบคุมทุกอย่างให้ได้ นี่คือเคล็ดลับค่ะฟิล์มจะทำให้เต็มที่ที่สุดค่ะ”
ด้าน MT22 “เกรซ ชุติกาญจน์ เสียงจินดารัตน์” อายุ 23 ปี ปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ ลุ้นให้ MT05 “แพรว ปทิตตา สันติวิชช์” ได้มงฯเพราะเป็นคนฉลาด
“เกรซเชียร์พี่แพรวเพราะว่าเป็นแฟนคลับ เคยเห็นพี่เขาตอนประกวดเวทีอื่นมาบ้าง พอได้มาสัมผัสตัวจริงเรารักเขามากกว่าเดิม เราชื่นชอบในความที่เขามีความเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนฉลาด แล้วพี่แพรวเป็นคนมีความรู้รอบตัว เวลาหนูอยู่กับพี่แพรวหนูชอบที่ได้ดูเขาพูด ได้ดูเขาบอกเล่าเรื่องต่างๆ อย่างเวลาหนูเจ็บแขนพี่แพรวจะไม่พูดเรื่องเจ็บแขน แต่จะพาเราพูดนอกเรื่องเพื่อให้เราสบายใจ แล้วพี่แพรวเป็นคนตลก หนูชอบที่จะอยู่กับพี่แพรวค่ะ ก็เลยเต็งพี่เขาค่ะ (แล้วตัวเองล่ะ เต็งตัวเองด้วยมั้ย?) เต็งแน่นอนค่ะ หนูอยากจับมือกับพี่แพรวค่ะ(หัวเราะ) ตอนนี้ความพร้อมหนูพร้อมมากค่ะ เหมือนสภาพร่างกายเราช้ำจากการตกสะพาน เจ็บแขน(แขนซ้ายช้ำและบวม) เวลาอยู่หลังเวทีต้องใส่ปลอกแขนรั้งไว้ แต่มันยิ่งทำให้เราสู้มากกว่าเดิม อยากทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ บนเวทีจัดเต็มแน่นอน”
MT18 “แอน แอนนา เสืองามเอี่ยม” อายุ 21 ปี ปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อยากให้ MT19 “นิต้า ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ” ได้ตำแหน่ง
“หนูเชียร์ทุกคนเลย แต่ถ้าต้องเลือกหนูเชียร์นิต้า(ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ MT 19) เพราะมีครั้งนึงที่หนูได้เป็นรูมเมทกับเขา แล้ววันนั้นเป็นวันที่เหนื่อยมาก พอได้คุยกับเขาทำให้เราได้เสริมพลังบวกไปในตัว เขาเป็นคนคิดบวก พอเราได้อยู่กับคนคิดบวกทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น หนูก็เลยคิดว่าคนนี้ก็มีคุณสมบัติการเป็นนางสาวไทยนะ(ยิ้ม) ก็เลยแอบเชียร์นาง แต่จริงๆ ก็เชียร์ทุกคนค่ะ ทุกคนเก่งเหมือนกันและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนตัวหนูเองก็อยากอยู่ใน Top5 ค่ะ มาขนาดนี้แล้ว(หัวเราะ) ยังไงก็ต้องทำให้ได้ค่ะ จะพยายามค่ะ”
ขณะที่ MT30 “กิ๊ฟ กมลพร ทองพล” อายุ 20 ปี ปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน สาขาวิชาธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หวังว่าตัวเองจะติด Top5 อีกทั้งเต็งให้ MT29 “น้ำหวาน ศุภมน ชฎาดำ” เป็นนางสาวไทยปีนี้
“หนูขอติด 1 ใน 5 ก็ได้ค่ะ (ยิ้ม) เรามาก็ต้องหวังค่ะ แต่เชียร์ที่สุดคือพี่น้ำหวานค่ะ เขาเป็นคนที่จริงใจและตรงๆ กิ๊ฟต้องการคนแบบนี้มากเลยค่ะ สัมผัสได้ว่าเขาซื่อจริงๆ และเป็นตัวของตัวเองมากๆ ค่ะ หนูก็เลยลุ้นอยากให้พี่น้ำหวานได้”
สาวงามอีกคนที่เด่นและถูกจับตามองตั้งแต่เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายก็คือ MT11 “หยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์” อายุ 23 ปี ปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ แต่งานนี้หยกกลับลุ้นให้ MT16 “พลอย ปรียาดา บัวสมบุญ” ได้ครองมงกุฎนางสาวไทย
“หนูเต็งพี่หมอพลอยค่ะเพราะว่าเวลาอยู่กับพี่หมอพลอยเรารู้สึกอบอุ่นมาก ดรารู้สึกว่าเราได้อยู่กับคนที่สบายใจ พี่หมอพลอยเป็นพลังบวกให้หยกด้วย แล้วพี่หมอพลอยมีความเป็นหมอสูงมากไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือคน หรือว่าการมอบความมั่นใจให้กับคนที่อยู่ด้วย ทำให้เรารู้สึกว่าการได้อยู่กับพี่หมอพลอยแล้วฉันปลอดภัย เป็นเหมือนเซฟโซนของทุกๆ คน เป็นคนที่น่ารักมากเป็นกันเองที่สุดแล้ว แต่จริงๆ ก็เชียร์ทุกคนจริงๆ ค่ะเพราะทุกคนเป็นตัวของตัวเอง สวยในแบบของตัวเองและมีความสามารถทุกคนจริงๆ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากติด 1 ใน 5 ไปกับหมอพลอยแล้วก็ทุกๆ คนนะคะ(ยิ้ม)”
ถึงกับยิ้มแก้มปริที่รู้ว่าเพื่อนเต็งให้เป็นที่หนึ่ง งานนี้ MT16 “พลอย ปรียาดา บัวสมบุญ” อายุ 26 ปี ปริญญาตรี Shanghai University of Traditional Chinese Medicine คณะ Chinese Medicine and Acupuncture จึงเต็งกลับว่าก็เชียร์หยกเช่นเดียวกัน
“โอ้โหหยกชงเข้มมาเลยนะคะ(หัวเราะ) จริงๆ ก็เชียร์ทุกคน แต่ถ้าเต็งในใจก็คือน้องหยก เพราะช่วงนี้เราอยู่ด้วยกันบ่อย เรามอบเซฟโซนให้กัน เรามอบเซฟโซนให้เขา แล้วเขาก็ส่งพลังบวกกลับมาให้เราเหมือนเป็นพลังงานที่ดี อยู่ด้วยกันแล้วแฮปปี้ ที่สำคัญชวนกันกินเก่งมาก(หัวเราะ) จริงๆ ก็เชียร์ทุกคนค่ะ แต่ก็เต็งตัวเองอย่างติด 1 ใน 5 สักหน่อย อยากตอบคำถามสักหน่อย ฝากเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคนด้วยนะคะ ตอนนี้ตื่นเต้นมากค่ะ”
เพราะมีดีกรีเป็นถึง Top มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 จึงไม่แปลกที่ MT05 “แพรว ปทิตตา สันติวิชช์” อายุ 27 ปี ปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะขึ้นแท่นเต็งจ๋ามาตั้งแต่รอบแรก ซึ่งเจ้าตัวยอมรับตรงๆ ว่าตัวเองก็มีลุ้น แต่ถ้าไม่ได้มงฯจริงๆ ก็จะทำให้กรรมการเสียดายที่ไม่เลือกตน
“แพรวรู้สึกว่าตัวเองมีลุ้น ต้องบอกก่อนว่าตัวเองมีลุ้น เพียงแต่เราไม่รู้จริงๆ ว่ากรรมการมองหาคนแบบไหน เพราะแพรวรู้สึกว่าเพื่อนทุกคนเขาเป็นตัวของตัวเองในแบบของเขาเอง แต่เราก็เต็มที่ของเรา ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเรามงฯก็ว่าไม่ได้นะ(ยิ้ม) หมายถึงว่าเราก็เต็มที่ของเราเหมือนกัน แต่ถ้าสมมติจะให้แพรวเต็งใครถ้าไม่ใช่แพรว แพรวจะให้เมย์(ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ MT13) เพื่อนแพรวเองนี่แหละ เพราะว่าแพรวเห็นพัฒนาการของเขามาตั้งแต่วันแรกที่มาประกวด แพรวได้เห็นว่าเขามีความสุขขึ้น เขาไม่เครียด แล้วตั้งแต่ประกวดมาบนเวทีนางสาวไทยเขาก็กวาดไปแล้ว 3 รางวัล แพรวก็ดีใจกับเมย์ด้วยค่ะ เขาก็มีลุ้นเหมือนกัน (แล้วตัวแพรวล่ะ อันดับ 1 หรือติด 1 ใน 5 เรามีเปอร์เซ็นต์มากน้อยแค่ไหน?) แพรวก็หวังว่าแพรวจะได้เรียนต่อในระดับปริญญาโท กับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยนะคะ(คนที่ได้รองอันดับ 1-4 นางสาวไทย 2563 จะได้ทุนเรียนต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย)”
“ในใจของตัวเองก็คาดหวังไว้ที่ Top3 ค่ะ แต่ถ้าได้ที่หนึ่งก็เลิศไปเลย แต่เราก็ไม่รู้จริงๆ ว่ากรรมการอยากได้แบบไหน (เราก็เป็นตัวเต็งมาตั้งแต่ประกาศรายชื่อ 30 คนสุดท้าย?) เห็นค่ะแต่เราจะไม่เสพในอินเตอร์เน็ตมาก แต่ฟีดแบ็กต่างๆ จะมีเพื่อน ครอบครัว และทีมที่ดูแลเราส่งมาให้ดูตลอด แต่พยายามไม่เอาตรงนั้นมาทำให้ตัวเองเหลิงหรือว่าเอามาทำให้ฉันลอย และไม่เอามากดดันตัวเองค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ทำคือเรา คนที่ได้ตำแหน่งก็คือเรา มันไม่มีประโยชน์ที่จะเอาความกดดันจากภายนอกเข้ามาใส่ตัวเอง ส่วนเทคนิคส่วนตัวแพรวจะทำให้เต็มที่ ไม่ว่ามันจะมงฯหรือไม่มงฯ ถ้าสมมติเราไม่มงฯก็อยากให้เขาเสียดายเรา อันนั้นคือสิ่งที่คิด แพรวไม่อยากจะไปกดดันตัวเองว่าทำให้ดีวันนี้ต้องมงฯ เพราะการคิดแบบนี้มันทำให้ตัวเองเครียด แพรวก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่มงฯก็ทำให้เสียดายละกัน(ยิ้ม)”
มาที่คนสุดท้าย MT13 “เมย์ ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์” อายุ 27 ปี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี จนถึงวันนี้เมย์กวาดไปแล้ว 3 รางวัลใหญ่ ที่สำคัญได้รางวัลพิเศษจนสามารถเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายไปก่อนเพื่อนเป็นที่เรียบร้อย กลายเป็นตัวเต็งที่น่ากลัวสุดวินาทีนี้
“เมย์ต้องบอกว่าปีนี้ 30 สาวงามสวยหมดเลยค่ะ มีศักยภาพและมีความพร้อมหมดเลย รวมถึงตัวเราเองด้วย เราก็มีความพร้อมและมีศักยภาพเหมือน เมย์ก็เลยคิดว่าใครก็ได้ใน 30 คนนี้ สามารถเป็นนางสาวไทย 2563 ได้หมดเลยค่ะ ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง ตามคอนเซ็ปต์ของเวทีนี้คือความงามที่แตกต่าง ทุกคนมีความสวยอยู่ที่ว่าเราจะพรีเซ็นต์ออกมายังไงค่ะ (ตอนนี้หลายๆ อย่างส่งให้เราเด่นมาก การคว้ามา 3 รางวัลทำให้เมย์กลายเป็นตัวเต็งในสายตาของหลายๆ คน?) จริงเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นหนูขอเต็ง 2 คนได้มั้ยคะ ขอเต็งตัวเองกับแพรว(ปทิตตา สันติวิชช์ MT05) ที่เมย์เต็งแพรวเพราะเราทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกัน มีความมุ่งมั่นมีความตั้งใจเหมือนกัน แล้วเมย์เชื่อว่าไม่ว่าใครได้ อุดมการณ์ของเราทั้งคู่ชัดเจนเหมือนกัน”
“เมย์อยากให้คนที่ได้ตำแหน่งไปสามารถเป็นกระบอกเสียง และอีกหนึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนอะไรหลายๆ อย่าง หรือว่าเป็นตัวแทนผู้หญิงที่สามารถอินสไปร์ใครอีกหลายๆ คนให้เขาอยากที่จะพัฒนาตัวเอง หรือข้ามกำแพงความกลัวของตัวเองออกมาค่ะ และคนๆ นั้นก็น่าจะเป็นหนูด้วยค่ะ(ยิ้ม) เพราะหนูเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เมื่อก่อนหนูเป็นคนกลัวการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ระหว่างทางหนูเคยท้อบ้างแต่ไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว เมย์เชื่อว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร แล้วเมย์เชื่อว่าคนที่พยายาม วันหนึ่งจะเป็นวันของเขาถ้ามันถูกที่และถูกเวลาค่ะ”