xs
xsm
sm
md
lg

“หยก สุพรรณิการ์” จากช่างภาพสโมสรฟุตบอล มาใส่ส้นสูงประกวดนางสาวไทย สวยแปลกเลี้ยงงูเป็นลูก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจ “หยก สุพรรณิการ์” จากนางฟ้าสนามฟุตบอล เป็นช่างภาพและแอดมินเพจสงขลา เอฟซี สู่เวทีนางสาวไทย อยากเป็นร่างสองของ “บุ๋ม ปนัดดา” กรี๊ดหนักยกเป็นไอดอล มาประกวดเพราะอยากเดินตามรอยบุ๋ม สวยแหวก ชอบงูมากซื้อมาเลี้ยงเป็นลูก พร้อมเผยมุมมองความคิดที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา

ถูกจับตามองตั้งแต่มีชื่อติด 30 คนสุดท้ายเวทีนางสาวไทย 2563 สำหรับ “หยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์” MT 11 สาวตาคมวัย 23 ปี ที่การันตีความสวยจากตำแหน่ง “นางสาวสมิหลา 2562” อีกทั้งเคยติด TOP 10 ไทยซูเปอร์โมเดล 2016 และเคยเดินสายประกวดมาแล้วหลายเวที แต่ที่ทำเอาหลายคนฮือฮาถึงกับตามไปเปิดวาร์ปก็เพราะว่า สาวหยกนั้นทำงานเป็นช่างภาพและแอดมินเพจสงขลา เอฟซี ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลในไทยลีก 3 จนถูกยกให้เป็นนางฟ้าวงการฟุตบอลคนล่าสุด เรียกว่าเป็นคนสวยที่มีหลายเวอร์ชั่น ล่าสุดหยกตัดสินใจมาตามล่ามงกุฎนางสาวไทย ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวประกวดเวทีใหญ่ระดับประเทศ พร้อมเผยถึงเหตุผลที่ทำไมถึงอยากเป็นนางสาวไทย

“มาประกวดเพราะเป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ ที่อยากเป็นนางสาวไทย และหยกอยากใช้ตรงนี้เป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์และให้โอกาสกับผู้อื่น หยกอยากหยิบยื่นโอกาสผ่านโครงการ New Chance New Change ที่หยกทำเป็นโครงการที่มอบโอกาสเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า หยกก็เลยเลือกที่จะมาประกวดนางสาวไทยค่ะ ตอนนี้หยกทำอยู่กับน้องๆ ในสถานพินิจจังหวัดสงขลา”

“โครงการนี้เพิ่งจะเป็นรูปเป็นร่างเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จริงๆ หยกเคยทำเรื่องนี้อยู่สมัยที่เพิ่งได้ตำแหน่งนางสาวสมิหลา ปี 2562 แล้วมีโอกาสได้เข้าไปในสถานพินิจและได้พบว่า เด็กๆ ในนั้นคือเยาวชนที่ก้าวพลาด เขาไม่ใช่คนที่ทำผิดตลอดชีวิตของเขา ทั้งนี้สังคมควรจะให้โอกาสเพราะพวกเขาก็คืออนาคตของชาติคนนึงเหมือนกัน หยกอยากเป็นส่วนหนึ่งในการมอบโอกาสให้กับพวกเขา ทำให้พวกเขาเห็นว่าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่า”

“นอกจากนี้ยังมีเยาวชนที่มีปัญหาอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนที่ขาดแคลนด้านการศึกษา เยาวชนพิการ และเยาวชนที่โดนละเลยจากสังคมและอีกเยอะแยะมากมาย หยกคิดว่าถ้าเราได้เป็นนางสาวไทยมันก็เป็นเหมือนตัวแทน และเป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ทุกคนต้องฟัง เพราะมันเป็นเสียงที่มีพลังค่ะ”

อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่มาประกวดนางสาวไทยก็เพราะชื่นชอบ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” มากถึงมากที่สุด อยากเป็นเหมือนบุ๋ม
“อีกเหตุผลนึงที่หยกมาประกวดนางสาวไทยเพราะชื่นชอบพี่บุ๋ม ปนัดดา นางสาวไทย ปี 2543 หยกเห็นว่าพี่บุ๋มเป็นนางงามที่ไม่ได้สวยแค่ภายนอก แต่สวยจากภายใน และลุยทุกอย่าง ใครอาจจะเห็นพี่บุ๋ม เป็นพิธีกร เป็นนักแสดง แต่ความจริงแล้วพี่บุ๋มทำงานเบื้องหลังเยอะมาก ไม่ว่าจะต่อสู้เพื่อสังคมหรือบำเพ็ญประโยชน์เพื่อคนอื่น เป็นคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานมาก หยกก็เลยเห็นว่านางสาวไทยคนนี้ เป็นเหมือนไอดอลของการประกวดนางสาวไทยในครั้งนี้ของหยกค่ะ ก็อยากจะใช้ตัวเองทำประโยชน์ให้กับสังคมให้ได้เหมือนที่พี่บุ๋มเคยทำค่ะ”

“พี่บุ๋มแซบมาก พี่บุ๋มเป็นคนจี๊ดจ๊าดมาก ซึ่งหนูชอบมาก ความตรงประเด็น ความเป๊ะของพี่บุ๋ม โผงผางตรง ถูกใจมากค่ะ (อะไรในตัวเราที่คล้าย บุ๋ม ปนัดดา?) คิดว่าน่าจะมีความตั้งใจทำเพื่อสังคม ตอนนี้พี่บุ๋มเป็นตัวอย่างคนนึงที่ชัดเจนมากในเรื่องของนางงามที่ทำเพื่อนสังคม แล้ววันนึงถ้าหยกมีโอกาสได้เป็นนางสาวไทย หยกก็อยากเป็นคนที่เป็นตัวอย่างชัดเจนในการทำเพื่อสังคมเหมือนพี่บุ๋มค่ะ”

“หยกเคยเจอพี่บุ๋มครั้งนึงตอนที่หยกไปประกวดเวทีนางสงกรานต์พระประแดง ที่จังหวัดสมุทรปราการ แล้วพี่บุ๋มเป็นพิธีกรค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสบอกพี่บุ๋มเลยว่าหนูชอบพี่เขา มีพี่เขาเป็นไอดอล เคยเจอแต่ไม่มีโอกาสได้คุย หนูอยากใช้โอกาสนี้บอกพี่บุ๋มว่า ขอบคุณที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนางงามรุ่นหลังอย่างหนู(พนมมือไหว้) หนูอาจจะไม่ใช่นางสาวไทยเพราะปีนี้เราก็ยังไม่รู้ได้ว่าใครจะได้เป็นนางสาวไทย แต่ว่าหนึ่งในผู้หญิงที่เป็นแรงผลักดันให้หนูอยากมาประกวดนางสาวไทยก็คือพี่บุ๋ม ปนัดดา ค่ะ”

ยก “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นไอดอล แต่ไม่คิดจะก็อปปี้อีกฝ่ายมาใส่ในร่างตัวเอง
“มันไม่ใช่การก็อปปี้ค่ะ เรียกว่าเป็นการนำพี่บุ๋มมาเป็นแรงบันดาลใจให้หยกดีกว่าค่ะ พี่บุ๋มเป็นเหมือนประกายไฟในตัวหยก ที่ทำให้หยกคิดว่าฉันต้องทำให้ได้เหมือนผู้หญิงคนนี้ อยากจะได้เสี้ยวหนึ่งของพี่บุ๋มมาก็ยังดี อย่างความอดทน และความทุ่มเทค่ะ”

เป็นนางฟ้าสนามฟุตบอล สวยเป็นนางงาม แต่อีกร่างคือแบกกล้องวิ่งถ่ายนักฟุตบอลให้กับสโมสรสงขลา เอฟซี
“หยกเป็นแอดมินเพจสโมสรสงขลา เอฟซี ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลของจังหวัดสงขลา อยู่ในไทยลีก 3 ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับฟุตบอล และลงสนามไปดูการแข่งขันฟุตบอล และถ่ายภาพอยู่ริมสนามด้วยค่ะ หยกเกิดที่จังหวัดตรัง แต่คุณพ่อเป็นคนสงขลา พอโตขึ้นก็ได้มาอยู่บ้านคุณย่าที่สงขลาค่ะ”

“หยกมาเป็นแอดมินเพจสงขลา เอฟซี เพราะช่วงที่เรียนจบเราอยากจะใช้วิชาความรู้ที่เรามีไปสมัครงาน หยกจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา สาขานิเทศศาสตร์ คณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์ แล้วตอนนั้นบริษัทสงขลา เอฟซี ประกาศหาพิธีกรหน้ากล้องที่สามารถดำเนินรายการได้ และเข้าใจเรื่องฟุตบอล แต่หยกพิจารณาตัวเองแล้วเรายังไม่มีความเข้าใจเรื่องฟุตบอลถึงขั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็เลยไม่สมัครตำแหน่งนี้ แล้วเขาก็เปิดรับสมัครแคชเชียร์ในสนามฟุตบอล หยกก็เลยไปสมัคร เพราะคิดว่าค่อยไปบอกความสามารถเรา ว่าเราทำอะไรได้ พอท่านผู้บริหารเรียกสัมภาษณ์ และบอกว่าโปรไฟล์หยกจบนิเทศศาสตร์มา สามารถพูดได้ ถ่ายภาพได้ ทำกราฟฟิกได้ ท่านก็ถามว่าทำไมมาสมัครเป็นแคชเชียร์ ก็เลยบอกท่านไปว่าจริงๆ หยกอยากทำพิธีกรหน้ากล้อง แต่มีข้อจำกัดว่าต้องเป็นคนที่รู้เรื่องฟุตบอลที่รู้ลึกมากๆ แต่หนูไม่มีความรู้ตรงนี้ ก็เลยไม่กล้ายื่นใบสมัครตำแหน่งนี้”

“ซึ่งผู้ใหญ่เห็นศักยภาพและความตั้งใจ ก็เลยย้ายหยกไปอยู่สงขลา เอฟซี ตอนไปแรกๆ ความรู้เรื่องฟุตบอลแทบจะเป็นศูนย์เลย หยกต้องไปเรียนรู้ไปทำความเข้าใจและจับประเด็นต่างๆ มานำเสนอให้ถูกต้องค่ะ ถึงตอนนี้ก็ทำมาได้ 6 เดือนกว่าๆ ช่วงแรกๆ ก็ทุลักทุเลหน่อย ทำคอนเทนต์ถูกใจลูกเพจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ถูกใจบอสบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง เขาก็ตำหนิติเตียนเพื่อให้เรามาปรับปรุง ว่าอันนี้มันยังไม่ใช่คอนเทนต์เกี่ยวกับฟุตบอล มันยังไม่เหมาะ หยกก็กลับไปปรับปรุงจนสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอกว่าอันนี้ต้องทำยังไงๆ ทำให้หยกสนุกไปกับการดูฟุตบอลค่ะ รู้สึกมัน และอินกับมันมากขึ้น”

“จริงๆ ก็ห่วงสวยนะคะ แต่ก็ทำใจแล้วว่าการทำงานในสนามฟุตบอลมันจะต้องเจอแดด เจอฝน ต้องลุย ถ้าเราจะมาเหยาะแหยะ โอ้ย…หนูไม่ทำอันนั้น ไม่ทำงานอันนี้ มันไม่ได้ เราต้องแสดงให้เขาเห็นว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องผิวพรรณก็คล้ำไปตามแดดประเทศไทย เสร็จงานเราก็ค่อยกลับมาดูแลตัวเอง ดูแลผิวหน้า แต่เวลาทำงานเราต้องละทิ้งสิ่งเหล่านั้นทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก่อนค่ะ (ยิ้ม)”

ขึ้นแท่นเป็นแอดมินเพจฟุตบอลที่สวยที่สุดอีกคนในวงการฟุตบอลไทย
“อันนี้ต้องขอขอบคุณจริงๆ ค่ะ(ยกมือไหว้) ที่ตั้งฉายาบ้าง ยกให้เป็นแอดมินนางฟ้าบ้าง แอดมินที่สวยที่สุดบ้าง จริงๆ แล้วมันก็มาจากทุกคนแหละค่ะ ถ้าทุกคนไม่ให้กำลังใจ หรือว่าไม่เป็นแรงผลักดันให้กับหยก หยกก็จะไม่สามารถทำตรงนี้ได้ ขอบคุณทุกคนจริงๆ ถ้าไม่มีกำลังใจจากทุกคน ก็จะไม่มีหยกนั่งอยู่ตรงนี้ค่ะ”

“ก็มีแฟนบอลและนักฟุตบอลแซวบ่อยมากค่ะ จนหนูชินเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วค่ะ ช่วงแรกๆ หนูจะเกร็งแต่ตอนนี้ชินแล้ว เพราะการแซวของพวกเขามันเป็นแค่การหยอกล้อสนุกสนาน เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้เราเสียหาย (ไม่มีใครมาพูดแทะโลม?) ใช่ค่ะ ก็ถ้ามันอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม ไม่ได้ใช้คำหยาบ หรือไม่ได้พูดล่วงละเมิดอะไรมากเกินไป หยกก็จะโอเคกับมัน แต่ถ้ามันมากเกินไปก็จะเริ่มไม่พอใจ และจะต้องระวังตัวเองให้มากกว่านี้แล้วค่ะ”

มีนักฟุตบอลจีบ ใครฟอลโลว์ไอจีมา ตนก็ฟอลโลว์กลับ
“นักฟุตบอลก็มีแซวๆ จีบๆ บ้างค่ะ มีมาขอคอนแทกไอจี มาขอฟอลโลว์ได้มั้ย (เราเปิดโอกาสให้เขาจีบมั้ย?) หยกมองว่ามันเป็นการสานสัมพันธไมตรีมากกว่า แต่หยกไม่ได้มองว่าเราเปิดโอกาสให้เขาจีบ ถ้าเขาฟอลโลว์มา เราก็ฟอลโลว์กลับ ถ้าเขาทักมาเราก็ตอบด้วยมารยาท หยกมองว่ามันเป็นไมตรีจิตต่อกันค่ะ”

ยืนยันถ้าได้ตำแหน่งนางสาวไทยก็จะไม่ลาออกจากการเป็นแอดมินเพจฟุตบอล มองตำแหน่งเป็นแค่หัวโขน
“ตำแหน่งมันก็คือหัวโขน วันนึงถ้าเราถอดหัวโขนนั้น เราก็คือคนธรรมดาที่สามารถกินข้าวแกงได้ ลงสนามฟุตบอลได้ ตากแดดตากลมได้เหมือนเดิม แต่อาจจะระวังตัวให้มากขึ้นเพราะเราเป็นที่จับจ้องของสังคมมากขึ้น และต้องวางตัวให้ถูกกาลเทศะมากยิ่งขึ้น ให้เหมาะสมกับมงฯที่เราได้มา”

สวยแหวก มีแต่คนกลัวงู แต่หยกกลับเป็นผู้หญิงชอบงู ควักเงินซื้อมาเลี้ยงที่บ้าน เรียกงูเป็นลูก
“ใช่ค่ะ (หัวเราะ) งูหยกชื่อแฮนค็อก เป็นตัวเมีย พันธุ์บลิซซาร์ด ไวท์เอาท์ (Blizzard White out) ไม่มีพิษ เป็นสีขาวล้วนทั้งตัว แล้วก็มีนัยน์ตาสีชมพู จัดอยู่ในงูสวยงาม พันธุ์เล็กที่จะไม่โตไปมากกว่านี้แล้ว เลี้ยงได้ไม่ผิดกฎหมายค่ะ ปัจจุบันคนเลี้ยงกันเยอะมาก ตัวนี้หยกซื้อมาในราคาประมาณ 5,000 บาท ราคาก็สูงอยู่นะสำหรับหนู (หัวเราะ) เลี้ยงมาเกือบจะ 4 ปีแล้วค่ะ”

“หยกเคยเป็นคนกลัวงูมากๆ กลัวงูมาตั้งแต่เด็ก แล้วอยากเอาชนะความกลัวของตัวเองก็เลยไปดูสารคดีงู ดูจนรู้สึกว่าสัตว์ชนิดนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิด เป็นแค่สัตว์ที่นิ่งและเยือกเย็น ถ้าคนหรือสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ไปทำอันตรายต่อมันหรือทำให้มันตกใจ มันก็จะไม่จู่โจมใครก่อนเลย หยกก็เลยมีความคิดว่าอยากทำความรู้จักกับสัตว์ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น เวลามีคนมาเปิดนิทรรศการโชว์สัตว์ หรือไปสวนสัตว์ที่เขาเอางูมาถ่ายรูป เอามาพาดคอ หยกก็เอาชนะความกลัวด้วยการไปจับมัน ไปถ่ายรูปกับมัน”

“จนสัมผัสได้ว่าจริงๆ แล้วถ้าเลี้ยงอย่างถูกวิธี และเป็นงูที่สามารถเลี้ยงได้จริงมันก็ไม่ได้เป็นอันตราย และมันยังมีความสวยงามในตัวมันเองด้วย ก็เลยอยากเลี้ยงงูตัวสีขาว ก็ติดต่อกับรุ่นพี่ที่เขาสามารถหาให้ได้ แล้วหยกก็เอามาเลี้ยง ตอนแรกดีใจมากเลยที่ตัวเองได้เลี้ยงงูและได้เอาชนะความกลัวของตัวเองได้แล้ว พออยู่กับมันไปเรื่อยๆ จนมองว่ามันไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว มันน่ารักสำหรับเรา แต่เข้าใจนะคะว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบงู สำหรับคนที่กลัวก็ขออภัยด้วยค่ะ จริงๆ หยกชอบเลี้ยงสัตว์เยอะมาก หมา แมว กระต่าย ชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่มันน่ารัก แต่ไม่เคยคิดว่าวันนึงเราจะมาชอบงู หยกเคยเลี้ยงน้องหมาแต่ตายไปแล้ว และเคยเลี้ยงน้องแมว แต่น้องก็หายไปไม่อยู่ด้วย น่าจะไปหาที่อยู่ใหม่ค่ะ (ยิ้ม)”

เปิดตำราเลี้ยงงูฉบับ “หยก สุพรรณิการ์”
“มันเลี้ยงง่ายมากเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยตลอดเวลา หรือว่าให้อาหารทุกๆ วัน มันจะมีช่วงเวลาของมันที่กิน และมีช่วงเวลาที่มันจะอยู่ของมันเอง แล้วถ้าช่วงเวลาไหนที่เราจะหยิบมันมาเล่น มันจะจำเราไม่ได้ มันจะไม่คุยกับเรา เรียกชื่อก็ไม่หัน แต่เรามีความสุขที่ได้เล่นกับมัน”

“การเลี้ยงงูมันจะมี 2 ประเภท งูบางประเภทจะกินหนูวิ่ง ก็คือหนูสดๆ เลย ปล่อยให้มัน แล้วมันก็จะทำการตะครุบของมันเอง แต่งูที่หยกเลี้ยงจะเป็นประเภทที่เกิดมาในโรงเพาะ มันกินอาหารที่คนป้อนให้ตั้งแต่เกิด ก็คือหนูแช่แข็ง เป็นลูกหนูที่มีร้านขายอาหารประเภทนี้อยู่แล้ว แล้วเขาก็เอาหนูเหล่านี้ไปแช่แข็งตามไซส์ของขนาดตัวของงู อย่างเช่น งูไซส์นี้กินหนูไซส์ M ไซส์ S หรือตามขนาดตัวของงูค่ะ”

“ส่วนงูหยกยังกินไซส์ S อยู่ค่ะ เวลาซื้อมาก็จะแช่ช่องฟรีซไว้ แล้วพอจะป้อนมันเราก็เอาออกมาละลายความเย็น ก็จะใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้มันอุ่นๆ แล้วก็เอาไปวางไว้ เขาก็จะมาจัดการของเขาเอง เขากินหนูอย่างเดียวเลยค่ะ แล้วงูชนิดนี้ไม่สามารถปล่อยตามธรรมชาติได้เลย เพราะเขาจะหาอาหารเองไม่เป็น หนูเลี้ยงอยู่ในบ้าน ทำเป็นกล่องให้เขาอยู่ ไม่กินพื้นที่เลยค่ะ หากล่องที่ปิดฝามิดชิด แล้วก็เจาะรูให้มีอากาศหายใจ ปูด้วยขี้เลื่อยหรือเศษไม้ ทำให้เขาเหมือนอยู่ในธรรมชาติให้มากที่สุด แล้วก็มีถ้วยน้ำไว้สำหรับให้เขาดื่มน้ำ มีที่กำบังอาจจะเป็นกิ่งไม้อะไรแบบนี้ค่ะ”

ความสุขของการเลี้ยงงู ที่ทำให้นางงามตาคมคนนี้ทุ่มเทความรักให้มาตลอด 4 ปี
“ถามว่าความสุขของการเลี้ยงงูคืออะไร ก็คือการที่เราไม่ต้องจุกจิกกับเขามาก เขาไม่ได้ต้องการความรักจากเราตลอดเวลา เขาไม่ต้องการกินตลอดเวลา เขาไม่ส่งเสียงดัง เขาไม่ส่งกลิ่น เขาไม่สร้างปัญหาให้ใครเลยถ้าเขาไม่หลุดออกไป (หัวเราะ) นี่คือความสุขที่เราได้รับจากเขา หยกยังไม่ได้ศึกษาว่ามันจะอยู่กับเราได้กี่ปี แต่อยากให้มันแก่ตาย ไม่อยากให้มันชิงตายก่อนหรือป่วย หยกอยากรู้ว่าเขาจะมีอายุยืนยาวเท่าไหร่ค่ะ”



















“หยก สุพรรณิการ์” เวอร์ชั่นช่างภาพและแอดมินเพจสงขลา เอฟซี



“หยก” กับงูชื่อแฮนค็อก รักมากเลี้ยงเป็นลูก












กำลังโหลดความคิดเห็น