บริษัทผลิตภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ทั้งสองเรื่อง ไม่พอใจที่ Warner Bros. ประกาศจะนำหนังทั้งสองเรื่องของพวกเขาเปิดตัวใน HBO Max พร้อมฉายโรง โดยไม่มีการปรึกษาก่อน
เมื่อสัปดาห์ก่อน Warner Bros. ประกาศข่าวใหญ่ว่าบริษัทจะส่งหนังฟอร์มใหญ่ทั้ง 17 เรื่องในปีหน้าลง HBO Maxพร้อมกับการฉายในโรงภาพยนตร์ เพราะสถานการณ์ของ COVID-19 ทำให้โรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ไมสามารถเปิดดำเนินการได้
โดยการตัดสินใจดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์เป็นอย่างยิ่ง แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่นั้น เพราะล่าสุดมีข่าวว่า Legendary Entertainment ผู้ผลิตภาพยนตร์ 2 เรื่องคือ Duneกับ Godzilla vs. Kong ก็ไม่พอใจกับแผนการของ Warner Bros. เช่นเดียวกัน
Variety อ้างว่า Legendary Entertainment กำลังเตรียมข้อมูล และอาจจะตัดสินใจดำเนินการทางกฎหมายกับ Warner Bros. ที่ตัดสินใจจะเอาหนังของพวกเขาลงสตรีมมิง HBO Max ก่อนกำหนดโดยไม่ปรึกษาก่อน
ซึ่งมีข่าวว่า Legendary Entertainment ทราบข่าวทั้งหมดก่อนหน้าสาธารณะชนเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
Legendary Entertainment เป็นผู้รับผิดชอบในการสร้าง Dune กับ Godzilla vs. Kong และยังถือว่าเป็นผู้ลงทุนส่วนใหญ่ในหนังทั้งสองเรื่องด้วย
โดยก่อนที่ Warner Bros. จะประกาศส่งหนังที่ตัวเองมีสิทธิ์จัดจำหน่ายทุกเรื่องในปีหน้าลง HBO Max มีข่าวว่า Netflix เองก็สนใจที่จะซื้อ Godzilla vs. Kong ไปฉาย แต่สุดท้าย Warner Bros. ที่ร่วมทุนสร้างหนังเรื่องนี้ด้วย ได้คัดค้านข้อเสนอดังกล่าวไป
สำหรับบริษัทผลิตภาพยนตร์ Legendary สร้างงานป้อนให้ Warner Bros. จัดจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2005 โดยมี Batman Begins เป็นผลงานเรื่องแรกที่ทั้งสองบริษัทร่วมกันสร้าง
แต่สุดท้ายสัญญาการทำงานร่วมกันของสองบริษัทก็สิ้นสุดไปในปี 2013 และฝ่าย Legendary หันไปทำงานกับทาง Universal Pictures แทน แต่ก็มีหนังบางเรื่อง ที่ Legendary ยังติดสัญญาสร้างให้กับ Warner โดยเฉพาะหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ Monsterverse อย่าง Kong: Skull Island และ Godzilla: King of the Monsters