“แม็กกี้ อาภา” ได้บทเรียน ใส่ใจตัวเองน้อย โหมงานหนักจนป่วยงูสวัดเชื้อขึ้นสมอง ต้องแอดมิท 11 วัน รับนอยด์และกลัว กินทั้งยาหมอ ยาบำรุง สมุนไพร ฟื้นร่างกาย หลังจากนี้ จะจัดตารางชีวิตให้สมดุล
เล่นเอาช็อกและนอยด์ สำหรับ “แม็กกี้ อาภา ภาวิไล”หลังป่วยเป็นงูสวัดเชื้อขึ้นสมอง ต้องแอดมิท รพ.นานถึง 11 วัน งานนี้เจ้าตัวอัปเดตอาการให้ฟัง หลังออกจาก รพ.มา 3 อาทิตย์ ยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์
“ออกจากโรงพยาบาลมา 3 อาทิตย์แล้ว ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านค่ะ แต่ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาเหมือนจะไม่ได้พักผ่อนมากเท่าไหร่ ลุยงานต่อ มีโปรโมตละคร แล้วก็ถ่ายละครต่อเลย ถือว่ายังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ อยู่ในช่วงที่กำลังดูแลตนเอง แต่ก็ต้องพักเยอะขึ้น แล้วก็กินยาเยอะ ดูแลตัวเองค่ะ มีพวกยาตัวอื่นๆ ที่เสริมร่างกายในช่วงนี้ เพราะว่าต้องเพิ่มภูมิต้านทานให้มันแข็งแรง
มันเริ่มจากอีสุกอีใสมาเป็นงูสวัดค่ะ มันเหมือนแผลเล็กๆ เอง มันเป็น 5 จุด ขึ้นอยู่บริเวณหน้าท้องค่ะ แล้วมันเหมือนเป็นแผลผื่นคันทั่วไป เราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นงูสวัด คิดว่าเป็นแผลผื่นแพ้แมลงเลยไม่ได้สนใจ แล้วพอผ่านไป 2-3 วัน แผลก็เริ่มเห่อ เป็นตุ่มน้ำใสๆ ก็เริ่มเอะใจว่ามันเป็นอะไร แล้วหลังจากนั้น ก็เริ่มเป็นไข้ขึ้นสูงมาก เช็ดตัวก็แล้ว กินยาก็แล้ว ไข้ก็ไม่ลด ก็เลยไปโรงพยาบาล เพราะมีอาการปวดหัวมากด้วย คุณหมอก็บอกว่าเป็นงูสวัด แต่ว่าเราปวดหัวมากก็เลยทำให้เราบินกลับไม่ได้ ไข้ขึ้นสูง ก็เลยแอดมิทอยู่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต
แล้วพอเรามีอาการปวดหัวมากๆ คุณหมอก็สงสัยว่า ทำไมถึงมีอาการปวดหัวเลยขอเจาะน้ำไขสันกระดูกสันไปตรวจดูว่ามันเข้าเยื่อหุ้มสมองหรือเปล่า เพราะจากอาการเราปวดหัวไม่หาย สรุปว่าเชื้อของงูสวัดเข้าไปในเยื้อหุ้มสมองแต่คุณหมอก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันอยู่ส่วนไหนของเยื่อหุ้มสมอง ก็ต้องทำ MRI สแกน สรุปประมาณ 3 จุดที่มันเข้าไป แต่ก็ยังไม่ถือว่าโคม่ามาก ยังไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ ถือว่าเจอเร็วแล้วก็รักษาทัน”
รับสุดช็อก ทั้งที่ก่อนหน้านี้แข็งแรง
“ก็กลัว เรารู้สึกช็อกเหมือนกัน จริงๆ จะว่ามันรุนแรงไหมก็ถือว่ารุนแรงนะคะ เราก็งงเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา แล้วอยู่ๆ ก็เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ร่างกายแข็งแรงมาก ออกกำลังกายตลอดแล้วก็ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลไม่ได้เจ็บป่วยอะไรเลยมาประมาณ 3-4 ปีเต็ม สุขภาพดีมาก แต่อยู่ๆ ก็เป็นขึ้นมาได้ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ตากฝนมาหลายวัน แล้วก็ไปเจอพายุที่ภูเก็ตด้วย แล้วก็น้ำทะเลค่ะ อาจจะไม่สะอาด ช่วงนั้นเรามีรอบเดือนเลยทำให้ภูมิคุ้มกันเราค่อนข้างต่ำมาก อาจจะได้รับเชื้อจากทางใดทางหนึ่งที่เราคิดนะคะ”
เป็นได้อีกหากร่างกายภูมิต่ำ ไม่แข็งแรง
“คุณหมอบอกว่าโรคนี้สามารถมีโอกาสเป็นได้อีกถ้าร่างกายภูมิต่ำ ร่างกายไม่แข็งแรงก็จะสามารถกลับขึ้นมาเป็นได้อีก แล้วก็โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะว่าเชื้อตัวนี้มีอยู่ในร่างกายทุกคนอยู่แล้ว เพราะว่าคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสก็คือเป็นเชื้อตัวเดียวกัน”
รักษาตามขั้นตอนคุณหมอ เสริมสมุนไพรดีท็อกซ์ให้เลือดดีขึ้น
“ก็ทำตามขั้นตอนของคุณหมอด้วย แล้วก็มีอาหารเสริมอย่างพวกสมุนไพรค่ะ แล้วก็หลายๆ ทาง ถ้าเราทานยาในโรงพยาบาลมันก็จะมีผลเอฟเฟกต์เรื่องการตกค้างของตัวยา เราก็เลยต้องมีสมุนไพรไทยที่มันสามารถดีท็อกซ์แล้วก็ทำให้เลือดเราดีขึ้น”
ชี้แค่ความเชื่อ งูสวัดรัดรอบเอวจะเสียชีวิต
“จริงๆ เคยได้ยินมาว่าถ้าสมมติว่างูสวัดเป็นรอบเอวจะเสียชีวิตได้ อันนี้เป็นความเชื่อ ถามคุณหมอแล้วว่าเป็นไปได้ไหม จริงหรือเปล่า หมอบอกว่าไม่ใช่ เป็นความเชื่อมากกว่าว่า ถ้างูสวัดรัดรอบเอวจะเสียชีวิต ซึ่งหมอบอกว่าไม่เกี่ยว
ตอนนี้ถือว่าดีขึ้นเพราะจริงๆ ถามคุณหมอว่าใช้เวลานานไหมกว่าจะหาย คุณหมอบอกว่าประมาณ 6 เดือน แต่ว่าขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายของเรา ถ้าดูแลดีก็ 1-2 เดือนก็จะดีขึ้น ตอนนี้ก็ดูแลสารพัดเลย ทั้งกินสารพัด อยากหายเร็วค่ะ อยากแข็งแรงเร็วๆ เพราะเราอยากหายป่วยแล้วค่ะ ไม่อยากเป็นคนป่วย แล้วก็อยากทำงาน แล้วงานเราก็มาเยอะมากเลยจังหวะนี้ เดี๋ยวต้องต้องรีเช็กหาคุณหมออีก ต้องดูอาการเรื่อยๆ เพราะว่าช่วงนี้ถือว่ายังไม่ได้หายร้อยเปอร์เซ็นต์”
กลัวและนอยด์ ไม่เคยนอน รพ. 11 วันมาก่อน
“ตอนแรก็นอยด์นะคะ เรารู้สึกแบบไม่เคยนอนโรงพยาบาลนานขนาดนี้ 11 วัน เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรมากเหรอ เป็นเยอะมาก คุณหมอก็ไม่ให้ขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน เพราะว่ามันอันตรายเลยคิดว่าเราไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้ ก็รู้สึกกลัว แล้วก็นอยด์ในช่วงนั้น แต่ก็ได้กำลังใจจากคุณแม่ แล้วก็เพื่อนที่ส่งกำลังใจมาให้เราสู้ๆ เรารู้สึกว่าโอเคต้องมีกำลังใจนะ เราก็เข้มแข็งขึ้น แล้วเราก็ต้องหาย
จริงๆ ตอนนี้ก็มีความกังวลบ้าง แต่ว่าเราคิดว่าเรามีคุณแม่ที่ดูแลเราอยู่ใกล้ๆ แล้วก็มียาบำรุง นี่เราก็กำลังกินบำรุง รักษาตัวเองอยู่ ถือว่าเราฟื้นฟูตัวเองได้เร็วเหมือนกัน
หลังจากนี้ ก็ต้องดูแลตัวเองมากกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมา ค่อนข้างหักโหม ทำงานหนักมาก เหมือนเราใส่ใจตัวเองน้อยไปด้วยค่ะ แล้วใช้ร่างกายเยอะ ตอนนี้เราต้องหันมาดูแลเขาให้มากกว่าเดิม เราไม่ได้ลดงาน แต่ว่าจัดให้พอดีค่ะ”